ผอ.รพ.ธรรมศาสตร์ เผยอาการ "ตะวัน-แบม" เริ่มมีภาวะแทรกซ้อน แต่ยังไม่เข้าขั้นวิกฤต

เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 6 ก.พ.66 จากที่นายกฤษฎางค์ นุตจรัส หรือ ทนายด่าง ทนายความศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว ระบุถึงอาการของ ตะวัน และ แบม ตอนหนึ่งว่า หมอจากโรงพยาบาลธรรมศาสตร์ฯ ได้โทรศัพท์ถึงพ่อแม่ของเด็กสาวทั้งสองคนว่าอาการของพวกเธอทรุดลงอย่างน่าวิตก ขอให้พ่อแม่โทรศัพท์หาทนายความเพื่อไปเยี่ยมในตอนเช้าพรุ่งนี้ให้ได้


นายกฤษฎางค์ เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า ทีมแพทย์ ติดต่อมายังพ่อแม่ของตะวันและแบม รวมทั้งทนายความ ระบุว่า มีความวิตกกับอาการของทั้งคู่ เช่น ตัวเลขน้ำตาลในเลือดต่ำมาก และมีอาการช้าลง อย่างไรก็ตามขอไม่ลงรายละเอียดอาการมาก เพราะเป็นเรื่องสิทธิส่วนบุคคล และเป็นเรื่องของทางการแพทย์ที่ต้องเก็บความลับของคนไข้เบื้องต้น พ่อแม่ของตะวันและแบม พร้อมทนายความ จะเดินทางไปที่โรงพยาบาลธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ


ซึ่งเช้าวันนี้ นายสมหมาย และนางกาหลง พ่อกับแม่ของ ตะวัน รวมทั้งนางพรนิภา และนายสุชาติ พ่อแม่ของ แบม ได้เดินทางมาที่ภายในโรงพยาบาลธรรมศาสตร์ เฉลิมพระเกียรติ ต.คลองหนึ่ง อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี ซึ่งวันนี้ได้มีเจ้าหน้าที่ตำรวจและเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยมาดูแลความเรียบร้อย พร้อมทั้งมีนักกิจกรรมหลายคนมาให้กำลังใจแบมกับตะวันในวันนี้ด้วย


ด้านนายแพทย์พฤหัส ต่ออุดม ผอ.โรงพยาบาลธรรมศาสตร์ เฉลิมพระเกียรติ ได้ให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าวว่าขณะนี้นักกิจกรรมที่นอนพักอยู่ในห้องผู้ป่วยนั้น เป็นห้องแยกจากผู้ป่วยคนอื่น และมีการตั้งทีมแพทย์ดูแลเป็นพิเศษ ผู้ป่วยนั้นมีการอดอาหาร ซึ่งทางแพทย์ก็ได้ดูแลมามากพอสมควร และทีมแพทย์ที่ดูแลก็จะมีการสรุปอาการในแต่ล่ะวันให้ข่าวทางสื่อโซเชียลและเฟซบุ๊กของโรงพยาบาลธรรมศาสตร์ เฉลิมพระเกียรติ


ซึ่งวันนี้ตั้งแต่เช้า ตนเองก็เข้าไปเยี่ยมน้องทั้งสองคน โดยการอดอาหารนั้น จะมีในเรื่องของความอ่อนเพลียในร่างกาย ความเจ็บปวดในร่างกาย และของเสียในร่างกาย


ปัจจุบันนี้สัญญาณชีพของน้องทั้งสองคนยังอยู่ในเกณฑ์ปกติและสามารถสื่อสารได้ ในสภาพร่างของการอดอาหารก็มีภาวะแทรงซ้อน แต่ไม่ได้เข้าขั้นวิกฤติฉุกเฉินใด ๆ ทางโรงพยาบาลดูแลผู้ป่วยทุกคนเพราะเป็นโรงพยาบาลเพื่อประชาชนซึ่งทุกท่านไม่ต้องเป็นห่วง


และทางโรงพยาบาลธรรมศาสตร์ เฉลิมพระเกียรติ ชี้แจงอาการป่วยของ ตะวัน และ แบม เมื่อวานนี้ (5 กุมภาพันธ์ 2566) ว่า วันที่ 13 ของการรักษา ตะวัน ยังคงไม่รับประทานแต่จิบน้ำ ตื่นแต่โต้ตอบช้า อ่อนเพลียมากขึ้น ปากแห้ง พะอึดพะอมตลอดเวลา ยังมีเลือดออกตามไรฟัน ไม่มีเลือดออกผิดปกติหรือจุดจ้ำเลือดออกที่บริเวณอื่น มีอาการแสบร้อนลิ้นปี่ มีลมในช่องท้อง นอนหลับแล้วตื่นกลางดึกหลับต่อไม่ได้ รู้สึกว่าการคิดและความจำลดลง มีความกังวลเรื่องปัญหาทางสุขภาพจากการอดอาหาร การตอบสนองทางอารมณ์ เหมาะสมกับเรื่องราวที่พูดคุย


สัญญาณชีพอยู่ในเกณฑ์ปกติระดับน้ำตาลในเลือด s0mgaL. มีภาวะเกลือแร่ต่ำหลายชนิด มีภาวะเลือดเป็นกรด ค่าดีโตนสูง (serum ketone 6.05mmoL) เนื่องจากภาวะอดอาหาร ปฏิเสธคำแนะนำเรื่องการดื่มน้ำผสมวิตามินซีเพื่อบรรเทาอาการเลือดออกตามไรฟัน ปฏิเสธการรักษาด้วยน้ำเกลือที่มีส่วนผสมของน้ำตาลและเกลือแร่ที่ผิดปกติ ทำให้ทีมผู้รักษาเพิ่มความถี่ในการตราจติดตามระดับน้ำตาล และเฝ้าระวังอาการน้ำตาลต่ำอย่างใกล้ชิด


ส่วน แบม ยังคงไม่รับประทานอาหารแต่จิบน้ำ ตื่นรู้สึกตัวดี อ่อนเพลียมากขึ้น จนทำให้ต้องลดการเคลื่อนไหว เหนื่อย ใจเต้นเร็ว ปากแห้ง ไม่รับประทานอาหาร พะอึดพะอมเวลาจิบน้ำ ต้นขาอ่อนแรง มีอาการแสบร้อนลิ้นปี่ มีลมในช่องท้อง หน้ามืดและเวียนศีรษะ นอนไม่หลับ สามารถตอบโต้ได้ แต่มีความกังวลเรื่องปัญหาทางสุขภาพจากการอดอาหาร การตอบสนองทางอารมณ์เหมาะสมกับเรื่องราวที่พูดคุย


สัญญาณชีพอยู่ในเกณฑ์ปกติระดับน้ำตาลในเลือด 61 mg (L. มีภาวะเกลือแร่ต่ำหลายชนิด มีภาวการณ์แข็งตัวของเลือดผิดปกติ มีภาวะเลือดเป็นกรด ค่าดีโตนสูง (serum ketone 6.06 mmoL) เนื่องจากภาวะอดอาหาร ปฏิเสธการดื่มน้ำผสมเกลือแร่เพื่อลดภาวะเลือดเป็นกรด ตั้งแต่วันที่ 322566 จนถึงปัจจุบัน ปฏิเสธการรักษาด้วยน้ำเกลือที่มีส่วนผสมของน้ำตาลและเกลือแร่ที่ผิดปกติ ทำให้ทีมผู้รักษา เพิ่มความถี่ในการตรวจติดตามระดับน้ำตาลและเฝ้าระวังน้ำตาลอย่างใกล้ชิด


และมีนักกิจกรรมบางคนได้บอกกับผู้สื่อข่าวว่า วันนี้ได้มาให้กำลังใจแบมกับตะวันและไม่อยากให้เกิดเหตุไม่ดีกับน้องทั้งสองคน