อาชญากรรม
ตำรวจแจ้งข้อหา เจ้าของเนอสเซอรี่ ด้านแม่เศร้า ลูกโอกาสรอดริบหรี่
โดย paranee_s
20 ม.ค. 2566
2.3K views
นางสาวพัชรา แม่ของเด็กชายวัย 1 ขวบ 11 เดือน เดินทางมาที่ สน.หนองจอก เพื่อเข้าให้ปากคำเพิ่มเติม หลัง ตำรวจแจ้งข้อกล่าวหากับ “ครูแอน” เจ้าของเนอสเซอรี่ไปก่อนหน้านี้
โดยวันนี้คุณแม่ ยังคงมีสีหน้าเครียด และร้องไห้อยู่ ซึ่งขณะนี้ลูกชายยังรักษาตัวอยู่ที่ห้องไอซียู ที่โรงพยาบาลนพรัตน์ราชธานี และบอกว่า จ้างฝากเลี้ยงที่เนอสเซอรี่แห่งหนึ่งย่านหนองจอก กทม. เมื่อวันที่ 18 มกราคมที่ผ่านมา สาเหตุที่พามาที่นี่ เพราะอยู่ใกล้บ้าน
ที่ผ่านมาเคยไปติดต่อตั้งแต่ช่วงเดือนตุลาคม 65 และเริ่มให้ลูกชายไปทดลองอยู่กับเนอสเซอรี่ช่วงปลายเดือนธันวาคม 65 โดยทางเนอสเซอรี่ยืนยันว่ามีกล้องวงจรปิด ตนเองจึงมั่นใจและตัดสินใจให้ลูกอยู่ที่นี่ เนื่องจากตนกับสามีต้องไปทำงานทั้งคู่ ทำให้เมื่อวันที่ 18 มกราคมที่ผ่านมา เป็นวันแรกที่พาลูกไปฝากเลี้ยง และก็เกิดเหตุในวันเดียวกัน
วันนั้นครูก็ส่งภาพน้องมาให้ ขณะดื่มนมตอนสายๆ จากนั้นเวลา 12.42 น. ตนทักแชตไลน์ไปถามว่าน้องกินข้าวมั้ย นอนหลับหรือเปล่า แต่เนอสเซอรี่ไม่อ่านไลน์และไม่ตอบกลับ กระทั่ง 14.23 น. ทางเนอสเซอรี่ โทรมาแจ้งว่าน้องไม่หายใจแล้ว เขาบอกว่าน้องนอนเอาผ้าปิดจมูกตัวเอง คุณแม่บอกว่าผ้าผืนดังกล่าวไม่หนา เป็นผ้าผืนที่น้องติดมาตั้งแต่เกิด ก่อนที่ทางเนอสเซอรี่จะรีบนำนำส่งโรงพยาบาล
ตนเองเลยบอกกับ เนอสเซอรี่ว่า ขอดูกล้องวงจรปิด แต่เนอสเซอรี่บอกใช้ไม่ได้ ทำให้ตนรู้สึกว่า พยามปกปิด รวมถึงที่บอกว่ากล้องไม่มีเมมบ้าง ไม่ได้จ่ายเงินบ้าง ตนว่ามันไม่น่าจะใช่ข้อเท็จจริง
ส่วนที่บอกว่าลูกนอนตะแคงและขาดอากาศหายใจ ปกติแล้วเวลานอนลูกไม่เคยนอนคว่ำหน้า และไม่เคยใช้ผ้าปิดหน้าของตนเอง ทำให้ตนไม่ปักใจเชื่อคำให้การของครูแอน แต่อาจจะเกิดจากสาเหตุอื่นได้หรือไม่ อยากให้ทางเจ้าหน้าที่ทำการตรวจสอบข้อเท็จจริง และอยากดูภาพจากกล้องวงจรปิด
ขณะนี้ น้องยังอาการโคม่า รักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลนพรัตน์ราชธานี แพทย์บอกว่าลูกสมองบวม และ อยู่ได้ด้วยเครื่องช่วยหายใจ ตนยังทำใจที่จะถอดเครื่องช่วยหายใจจากลูกไปไม่ได้
ทั้งนี้ ตนบอกกับลูกว่า “แม่ขอโทษ แม่ไม่คิดว่าการไปส่งหนูแล้วจะเป็นแบบนี้ และกว่าจะมีลูกได้ไม่ใช่เรื่องง่าย ต้องตั้งแอพจับวันตกไข่ แล้วเค้าอยู่ในวัยที่น่ารัก ไม่คิดว่าจะมาเจอเรื่องแบบนี้ ตอนนี้ทางแพทย์บอกว่า 0% ตั้งแต่วันแรกแล้ว แต่เราบอกเขาว่าให้สู้ เท่าที่ร่างกายหนูไหว”
ด้าน พันตำรวจเอก ประเสริฐ สอนแจ่ม ผู้กำกับการ สน.หนองจอก เปิดเผยว่า ขณะนี้ ได้ดำเนินการแจ้งความเอาผิดกับครูแอน ซึ่งเป็นเจ้าของเนิร์สเซอรี่ในข้อหา กระทำการโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับอันตรายสาหัส
จากการสอบปากคำครูแอน ให้การ ในวันเกิดเหตุช่วงเที่ยงเสร็จเด็กทานอาหารเสร็จเด็กก็จะนอนประมาณเที่ยงครึ่ง ส่วนใหญ่นอนหมดแล้ว เหลือแต่เด็กชายที่ยังไม่หลับ ยังร้องอยู่ ทางครูอยู่คนเดียว ก็พยายามเอาเด็กเข้านอน ก็อุ้มน้อง และพาไปนอน ซึ่งน้องจะมีผ้าห่มผืนโปรดติดตัวด้วยตลอด
ตอนนั้นพาโชกุนเข้านอน ซึ่งน้องนอนตะแคง คว่ำ แต่แจ้งว่าบริเวณหัวยังตะแคงอยู่ ลักษณะกอดผ้าห่มปิดตั้งแต่คอจนถึงจมูก และตอนนั้นน้องก็ยังร้องอยู่สักพัก แต่พอลูบหลังก็เงียบไป ครูเลยปล่อยให้น้องนอน และก็ไปกินข้าวในบ้านประมาณบ่ายโมงเศษ มาเจออีกทีน้องปากเขียวแล้ว จึงรีบปั้มหัวใจ ก่อนส่งโรงพยาบาล
ครูแอนยืนยันว่า ไม่ได้ทำการรุนแรงอย่างนั้น เพราะก็ไม่ได้เครียด หรือโกรธ
ชุดสืบสวนได้ไปเก็บพยานหลักฐาน นำกล้องวงจรปิดมากู้ และรวบรวมข้อมูลพยานหลักฐานทั้งหมด สาเหตุที่ต้องนำกล้องมากู้ เพราะกล้องไม่มีการ์ด และยืนยันว่ากล้องไม่ได้ใช้มานานพอสมควรแล้ว อ้างว่าไม่ได้จ่ายเงินค่าเชื่อม Wi-Fi
ทั้งนี้ หากพบความผิดอื่นเพิ่มเติม ก็จะดำเนินการแจ้งข้อหาต่อไป รวมถึง การออกใบอนุญาตสถานประกอบการรับเลี้ยงเด็ก เบื้องต้นใบอนุญาตที่พบขอตั่งแต่ปี 63 อยู่ระหว่างการตรวจสอบว่าในปี 64 จนถึงปัจจุบันได้มีการดำเนินการต่อใบอนุญาตหรือไม่ หากไม่มีก็จะต้องมีการแจ้งข้อกล่าวหาเพิ่มเติม
ล่าสุดผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ไปที่ สถานรับเลี้ยงเด็ก พบว่าวันนี้ได้ปิดทำการ ไม่มีใครอยู่ที่สถานรับเลี้ยงเด็กดังกล่าว พื้นที่สถานรับเลี้ยงก็ค่อนข้างมีพื้นที่ ใช้พื้นที่ร่วมกับสโมสรของหมู่บ้าน เป็นอาคาร 2 ชั้น มีการติดป้ายกดระเบียบต่างๆ ภายในสถานที่รับเลี้ยงเด็ก ก็มีอุปกรณ์เลี้ยงเด็กเล็กปกติ
ทีมข่าวพยายามติดต่อไป ที่ครูแอน ซึ่งเป็นคุณครูที่ดูแลสถานที่รับเลี้ยงเด็ก ปรากฎว่าไม่รับสาย สอบถามคนในหมู่บ้านไม่มีใครรู้ว่าเกิดเหตุการณ์ตามที่เป็นข่าว เพิ่งรู้จากที่เห็นนักข่าวมากัน คนในหมู่บ้านรายหนึ่งเล่าว่า ที่นี้เปิดเลี้ยงเด็กปกติ มีเด็กเล็กประมาณ 10 คน เมื่อวานก็เปิดปกติ และจะปิดประมาณ 15.00น. ของทุกวัน แต่วันนี้ไม่เห็นเปิดตั้งแต่เช้า ก็เพิ่งมาทราบว่ามีกรณีน้องกุน เกิดขึ้น
ด้าน นายไพโรจน์ จันทรอด ผู้อำนวยการเขตหนองจอก เปิดเผยว่าในวันนี้ได้ลงพื้นที่ไปตรวจสอบ สถานที่รับเลี้ยงเด็กดังกล่าวแล้ว แต่พบว่า มีการปิดทำการและไม่สามารถติดต่อผู้ประกอบการได้ ทั้งนี้ในส่วนของสำนักงานเขต ไม่ได้มีอำนาจสั่งปิด หรือตรวจสอบใบอนุญาต การขอเปิดสถานที่รับเลี้ยงเด็กดังกล่าวได้ เพราะกับทางพัฒนาสังคม หรือ พม. แต่ในส่วนของสำนักงานเขต ก็ได้มีการติดตามตรวจสอบ เนื่องจากเป็นปัญหาในพื้นที่ พร้อมกำชับไปยังสถานที่ ศูนย์เด็กเล็กของ กทม. ให้ระมัดระวัง ให้ความสำคัญ กับการดูแลเด็กเป็นพิเศษด้วย