ชูวิทย์หอบหลักฐานเด็ดมอบรอง ผบ.ตร. แฉทุนจีนสีเทา แย้ม 23 พ.ย.จะเปิดโปงรายชื่อขบวนการทั้งหมด

               วันนี้ (17 พ.ย.) นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ เข้าพบพลตำรวจเอกต่อศักดิ์ สุขวิมล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ  ที่กองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี  เพื่อยื่นหลักฐานเพิ่มเติมเกี่ยวกับขบวนการธุรกิจทุนจีนสีเทา  โดยนายชูวิทย์ ระบุว่า ข้อมูลที่นำมายื่นให้กับรองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติในวันนี้  เป็นข้อมูลที่แสดงให้เห็นถึงความสัมพันธ์ของนายตู้ห่าว นักธุรกิจที่มีความเชื่อมโยงกับผับจินหลิง ว่ามีอิทธิพลสูงมาก โดยมีความพัวพันไปถึงทั้งเจ้าหน้าที่รัฐและนักการเมือง ซึ่งตนจะไม่พาดพิงเยอะ ปล่อยให้เป็นหน้าที่ของตำรวจ

            แต่ตนมีข้อมูลและหลักฐานเกี่ยวกับการหลบหนีของนายตู้ห่าว ว่าได้รับการช่วยเหลือ โดยในวันที่ 26 ตุลาคม นายตู้ห่าว หลบหนีโดยใช้เครื่องบินเจ็ทส่วนตัว ที่ซื้อมาจากนักการเมืองใหญ่ที่จังหวัดนครราชสีมา  ซึ่งแต่เดิมนั้น ที่ท้ายเครื่องบินจะเขียนว่า HS-PSL แต่เครื่องบินของนายตู้ห่าว ได้นำมาเปลี่ยนชื่อเป็น HS-HAO ซึ่งคือชื่อของตัวเอง  รวมทั้งปกติแล้ว ที่จอดเครื่องบินเจ็ทส่วนตัว จะมีอยู่แค่ 2 ที่ คือ ของบริษัทเอกชน Mjets และที่ AOT แต่เครื่องบินของนายตู้ห่าวลำนี้ กลับได้จอดอยู่ที่ศูนย์ฝึกการบินพลเรือน 604 หรือ Sunny 604 ซึ่งเป็นที่ที่ดาราและเซเลปมักจะไปฝึกบิน และเครื่องบินที่จะจอดที่นี่ จะต้องเป็นสมาชิกเท่านั้น แต่นายตู้ห่าวไม่ได้เป็นสมาชิก จึงน่าสงสัยว่าใช้อิทธิพลของใครในการนำเครื่องบินไปจอด ซึ่งตนมีข้อมูลทั้งหมดแล้ว แต่ยังไม่ขอพูดพาดพิง

           อีกข้อมูลสำคัญ คือ  เครื่องบินลำนี้ยังเป็นเครื่องบินที่ล่องหนได้ คือ ไม่มีเส้นทางการบินปรากฏอยู่ในตารางการบิน ซึ่งตามปกติแล้ว เครื่องบินทุกลำจะต้องมีบันทึกการบินเอาไว้  แต่ข้อมูลการบินของเครื่องบินลำนี้กลับหายไป  และตอนนี้ก็ไม่ได้จอดอยู่ที่สถานที่ดังกล่าว  โดยตนมีข้อมูลว่าในวันที่ 26 ตุลาคม มีการเรียกใช้เครื่องบินลำนี้ โดยที่ไม่ได้แจ้งไว้ในตารางการบินล่วงหน้า เปรียบเหมือนการเรียกแท็กซี่

             ด้านพลตำรวจเอกต่อศักดิ์ กล่าวว่า ข้อมูลที่รับในวันนี้ จะนำไปขยายผลต่อ โดยยืนยันว่า เรื่องนี้ตำรวจยังไม่หยุดทำ  แต่ช่วงนี้ยังติดภารกิจการประชุมเอเปค 2022 ซึ่งยืนยันว่าจะดำเนินการขยายผลต่อแน่นอน และข้อมูลที่ได้รับจากนายชูวิทย์ หากตรวจสอบแล้วมีมูล ก็จะขยายผลต่อ  ยืนยันว่าเรื่องนี้ต้องทำกันอีกยาว เพราะเป็นเรื่องระดับประเทศ และทางการจีนเองก็ให้ความสำคัญและได้รับความร่วมมือจากทางสถานทูตเป็นอย่างดี

           นอกจากนี้ นายชูวิทย์ ยังบอกเพิ่มเติมด้วยว่า ในสัปดาห์หน้า ตนจะเดินหน้า จองเวรจองกรรม  ชดใช้กรรมเก่าของตนเองด้วยการเปิดเผยข้อมูลที่เป็นความจริง เริ่มตั้งแต่วันจันทร์ที่ 21 พ.ย. เวลา 10.00 น.  จะเดินทางไปที่กระทรวงยุติธรรม / วันอังคารที่ 22 พ.ย. เวลา 9.00 น. จะเดินทางไปที่ศาลอาญา / และวันพุธที่ 23 พ.ย. เวลา 8.30 น.  ถือเป็นไฮไลท์สำคัญ  จะเดินทางไปที่รัฐสภาเพื่อเปิดเผยขบวนการทั้งหมด รวมถึงตัวการสนับสนุนด้วย  ยืนยันว่าตนเป็นคนจริง ไม่พูดปากเปล่าแน่นอน ส่วนในแต่ละวันจะไปทำอะไรบ้างนั้น ขอให้รอติดตาม

          นายชูวิทย์ยังฝากถึง “อสรพิษ” ที่คิดจะล้มตนว่า ขอให้มาเจอกับตนจริงๆ วันนี้ตนมาทำงานเพื่อบ้านเมือง ไม่ได้คิดจะเล่นการเมืองหรือหาผลประโยชน์อะไร หากมีสัมภเวสี  ตนก็ต้องสู้  ยืนยันว่าไม่กลัว ตนแจ้งกำหนดการชัดเจนแล้ว สามารถที่จะตามไปได้  ส่วนจะเจอกับนายสันธนะหรือไม่ ก็ไม่ได้กังวล   ถ้าได้เจอกัน ตนก็จะเข้าไปหา และขอให้รอดูในวันพุธที่ 23 พ.ย. ว่าตนมีอะไรจะเปิดเผย  พร้อมฝากว่า เมื่อเปิดหน้าชนกันแล้วก็ขอให้ไปให้สุดทาง นายสันธนะยังรู้จักตนน้อยไป แต่ถ้าคิดว่ารู้จักกันมากพอแล้ว ก็ขอให้รอดูลีลาว่าใครจะเด็ดกว่า และย้ำว่าเรื่องนี้เป็นหนังชีวิต ตนเล่นแล้ว เล่นไม่เลิก