อาชญากรรม

เหยื่อเต็นท์รถ 17 รายเข้าแจ้งความเพิ่ม คาดยังถูกหลอกอีกจำนวนมาก

โดย paranee_s

21 ต.ค. 2565

1.9K views

จากกรณีที่ตำรวจเข้าชาร์จตัวชายคนหนึ่ง ที่ปืนไปนั่งบนรั้วที่ลาดจอดรถชั้น 5 ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ แล้วพยายามจะปีนรั้วกั้นกระโดดลงมา โดยตำรวจได้พยายามเข้าไปเจรจา เพื่อให้ชายคนนี้ใจเย็นลง และใช้จังหวะที่ชายคนนี้เผลอ เข้าชาร์จตัวลงมาได้สำเร็จ โดยใช้เวลาในปฏิบัติการช่วยเหลือครั้งนี้ 5 นาที


ทั้งนี้เมื่อชายคนดังกล่าวถูกคุมตัวลงมาก็ได้เดินไปพบกับภรรยา ท่ามกลางความโล่งใจของทุกคนที่อยู่ในเหตุการณ์ และตำรวจได้คุมชายคนดังกล่าวไปสอบถามถึงเรื่องที่เกิดขึ้น


ขณะที่ภรรยาชองชายคนดังกล่าวบอกว่าวันนี้ ก่อนหน้านี้สามีหายออกไปจากบ้าน 2 วัน ได้นัดตนมาที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เพื่อร้องเรียนหลังถูกเต็นท์รถหลอกซื้อรถปาเจโร่ แต่เมื่อตนจึงโทรศัพท์หาสามีจึงรู้ว่า สามีอยู่บนอาคารจอดรถและจะกระโดดลงมา เพราะเครียดในเรื่องที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้ตนซื้อรถปาเจโร่มาจากโชว์รูม ผ่อนมาได้ 20 งวด งวดละ 2 หมื่นบาท


แต่ตอนหลังตนตกงานเพราะสถานการณ์โควิดทำให้ติดค่าผ่อนรถ 5 งวด สามีจึงตัดสินใจขายดาวน์รถผ่านทางเฟซบุ๊ก ต่อมาเต็นท์รถที่ย่านรามคำแหง ติดต่อมาซื้อรถปาเจโร่ โดยตกลงกันว่า จะจ่ายเงินดาวน์ 136,000 บาท และทางเต็นท์ทำสัญญาว่า ขอเวลา 3 เดือน หากขายรถได้จึงจะเปลี่ยนสัญญาให้ผู้ซื้อ โดยในระยะเวลา 3 เดือนนี้ เต็นท์จะเป็นผู้จ่ายค่าผ่อนรถให้เอง หากผิดสัญญาจะชดเชยให้ 3 เท่า ตนจึงตกลง และทางเต็นท์ได้จ่ายเงินดาวน์ให้ ซึ่งตนก็ไม่ได้เอะใจอะไร


จนผ่านไป 1 สัปดาห์มีผู้หญิงคนหนึ่งโทรมาถามว่า ตนเป็นเจ้าของรถปาเจโร่ใช่หรือไม่ โดยผู้หญิงคนนี้บอกว่าซื้อรถมาจากเต็นท์ที่จังหวัดนครสวรรค์ แต่เต็นท์ไม่โอนรถให้ ตนจึงสอบถามไปยังเต็นท์รถที่ซื้อรถต่อจากตน แต่ทางเต็นท์บอกว่าไม่ต้องสนใจ และจะจัดการเรื่องทั้งหมดเอง


ต่อมาตนมารู้อีกทีว่ารถของตนถูกชายอีกคนหนึ่งนำไปประกาศขายในราคา 890,000 บาท เมื่อตนสอบถามชายคนนี้ได้คำตอบว่าซื้อรถของตนมาจากเต็นท์รถแห่งหนึ่งในอำเภอปากช่อง และหากตนอยากได้รถคืนก็ต้องจ่ายในราคาที่ประกาศขาย


เมื่อตนโทรศัพท์ไปสอบถามเต็นท์รถที่มาซื้อรถจากตนก็ติดต่อไม่ได้ จึงไปแจ้งความที่ สภ.เมืองสมุทรปราการ กลับถูกตำรวจบอกว่าตนมีความผิดเพราะนำรถที่ยังติดไฟแนนซ์ไปขาย


ทีมข่าวเดินทางมาที่เต็นท์รถที่รับซื้อรถของผู้เสียหาย อยู่ที่ย่านรามคำแหง พบว่า พื้นที่ดังกล่าว เป็นลักษณะของตลาดซื้อขายรถยนต์ ที่เปิดให้เต็นท์รถมาเช่าพื้นที่อยู่รวมกันหลายๆ เต็นท์ ส่วนเต็นท์รถคู่กรณี พบว่า ได้ปิดไปแล้วเหลือรถจอดอยู่ในเต็นท์เพียง 2 คัน โดยที่ด้านหน้าเต็นท์ มีใบติดประกาศของตลาดรถยนต์เจ้าของพื้นที่แจ้งยกเลิกสัญญาเช่า โดยระบุว่า เนื่องจากมีลูกค้าร้องเรียนเข้ามาว่า ถูกผู้เช่าหลอกซื้อขายดาวน์รถจนได้รับความเดือดร้อน ซึ่งเป็นการกระทำที่ละเมิดสัญญาให้เช่าที่


โดยผู้ดูแลตลาดรถยนต์ดังกล่าว เปิดเผยว่า เต็นท์รถนี้เช่าพื้นที่ได้ 2 ปี จนเดือนกันยายนที่ผ่านมา เต็นท์ได้ทยอยนำรถออก โดยบอกว่าขายรถหมดแล้ว ต่อมามีลูกค้าของเต็นท์นี้ประมาณ 3-4 ราย โทรศัพท์เข้ามทางตลาดโดยตรง บอกว่า ถูกโกงเพราะทางเต็นท์รับซื้อรถไปแล้วไม่ปิดยอดให้ และติดต่อเต็นท์ไม่ได้ ทางตลาดจึงยกเลิกสัญญาเช่ากับทางเต็นท์เมื่อต้นเดือนที่ผ่านมา เพราะทำผิดสัญญา


ขณะเดียวกันวันนี้ ได้มีกลุ่มผู้เสียหาย 17 ราย ที่ถูกเต็นท์รถนี้หลอกลวงในลักษณะเดียวกัน เดินทางมาที่กองบังคับการปราบปราม เพื่อให้ช่วยเร่งรัดคดี โดยนางสาวกุลวดี หมูทอง หนึ่งในผู้เสียหาย กล่าวว่าก่อนหน้านี้ผู้เสียหายทั้งหมดเคยไปแจ้งความไว้แล้วแต่คดีไม่คืบหน้า จนเห็นข่าวว่ามีผู้เสียหาย 15 คน ที่ถูกเต็นท์รถแห่งนี้หลอกซื้อรถ จึงมาขอให้ตำรวจกองปราบปรามช่วยเหลือ


โดยผู้เสียหายทุกคนจะถูกโกงในรูปแบบเดียวกัน คือ ทางเต็นท์รถจะติดต่อขอซื้อรถโดยยื่นข้อเสนอว่า จะจ่ายเงินดาวน์ให้ และขอให้เอารถมาจอดที่เต็นท์ก่อนประมาณ 2-3 เดือน ถ้ามีคนซื้อรถแล้ว จะทำเรื่องเปลี่ยนสัญญาให้ โดยในระหว่างนี้ ทางเต็นท์จะเป็นผู้ผ่อนชำระค่างวดรถต่อให้ แต่เมื่อได้รถไปแล้วทางเต็นท์ก็จะไม่ยอมจ่ายค่างวดตามที่ตกลง และติดต่อไม่ได้


เบื้องต้นตำรวจกองปราบปรามได้รับเรื่องไว้ และจะรวบรวมพยานหลักฐานส่งให้ตำรวจท้องที่เพื่อดำเนินการต่อไป


คุณอาจสนใจ

Related News