อาชญากรรม

รวบได้แล้ว 3 คน แก๊งกระทืบ ด.ช.วัย 14 ดับ อ้างไม่ได้ตั้งใจให้ถึงตาย แค่เค้นหาทอง ตำรวจเร่งล่าอีก 1

โดย nattachat_c

19 ก.ย. 2565

17 views

จากกรณี เมื่อกลางดึกของวันที่ 17 ก.ย. 65 ด.ช.ไกรศิริ วงศ์วัฒน์ หรือเขียด อายุ 14 ปี ถูกคนร้าย 4 คน อุ้มขึ้นรถจักรยานยนต์ 3 ล้อพ่วงข้าง ไปจับมัดมือ รุมกระทืบ ก่อนจะปล่อยตัวเหยื่อออกมา แล้วมานอนช้ำในเสียชีวิต ที่บ้านน้าของผู้ตาย ภายในพื้นที่ หมู่ 10 ต.ห้วยใหญ่ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี ส่วนปมสาเหตุอุ้มไปทำร้าย กล่าวหาว่าเหยื่อขโมยทอง 1 บาท เงิน 3 พัน บังคับเค้นความจริง แต่เหยื่อไม่พูดถูกซ้อมยับจนช้ำในตาย


ความคืบหน้าเช้าวานนี้ (18 ก.ย. 65) นายโฆษิต สินธุสระ อายุ 40 ปี น้าของผู้ตาย ผู้เห็นเหตุการณ์บอกว่า ช่วงประมาณตี 2 หลานถูกกลุ่มคนร้ายขู่บังคับเค้นให้เอาทองและเงินคืน ก่อนอุ้มขึ้น จยย.3 ล้อพ่วงข้างไป ก่อนจะมาพบร่างน้องนอนเสียชีวิตที่บ้าน


นายโฆษิต น้าของน้องที่เสียชีวิต ได้พาไปดูจุดที่เห็นน้องโดนทำร้าย ห่างจากจุดพบศพประมาณ 100 เมตร โดยเป็นบ้านของพ่อผู้เสียชีวิต สภาพบ้านถูกปล่อยรกร้างมานาน บริเวณข้างบ้านยังมีร่องรอยเท้าเหยียบย้ำหลายจุดหลงเหลือให้เห็น


พร้อมทั้งเปิดเผยว่า ขณะที่เห็นถูกทำร้าย พยายามห้ามปราม และขู่จะแจ้งตำรวจ แต่กลุ่มผู้ก่อเหตุไม่ฟัง โดยอ้างว่าจับส่งตำรวจก็ทำอะไรไม่ได้ เดี๋ยวจัดการเอง อีกทั้งไม่คิดว่า กลุ่มคนร้ายจะลงมือซ้อมหลานจนเสียชีวิต


ต่อมา ผู้สื่อข่าวได้ไปพูดคุยกับ ด.ช.ไผ่ อายุ 13 ปี เพื่อนสนิทกับคนตาย โดยเล่าว่า เขียด ผู้ตาย ถูกทำร้ายถึง 2 รอบ รอบแรกเกิดขึ้นเมื่อเวลาประมาณ 17.00 น. ของวันที่ 16 ก.ย. ตอนนั้น ตนกับผู้ตาย และเพื่อนอีกคน ชื่อ ด.ช.ติ๊ก อายุ 14 ปี กำลังนั่งเล่นกันอยู่ที่บ้านพักของตน


จากนั้น นายเพศ อายุประมาณ 50 ปี พร้อมกับภรรยา ได้ขี่จยย.มาหาผู้ตาย แล้วปรี่เข้ามาทำร้ายผู้ตาย ด้วยการเตะไป 2 ครั้ง พร้อมทั้งเค้นให้คืนทอง โดยคนตายไม่ได้ตอบโต้อะไร เอาแต่ร้องไห้ จนทำให้นายเพศ ยิ่งโมโห ถอดรองเท้าคอมแบท ตบเข้าที่หน้าอย่างแรง ก่อนจะพาผู้ตายขึ้นซ้อนท้าย รถจยย. แล้วขี่ออกไป และนั้นคือภาพสุดท้ายที่ได้เจอกับเพื่อน โดยผู้ตายได้หันมามอง ในสีหน้าโศกเศร้าร้องไห้ตลอดเวลา


ด้านนายบุญส่ง วงศ์วัฒน์ อายุ 70 ปี เป็นปู่ของคนตาย เล่าว่า เห็นคนตายเดินกลับมาที่บ้านของน้า เมื่อเวลา 10.00 น. ในสภาพสะบักสะบอม นุ่งกางเกงขาสั้นตัวเดียว แต่ไม่เอะใจอะไร จนกระทั่งเห็นว่า หลานนอนแน่นิ่งอยู่ตรงโรงรถ จึงโทรแจ้งเจ้าหน้าที่ดังกล่าว


ล่าสุด เมื่อเวลา 13.30 น. พ.ต.อ.สุรกิจ ผกก.สภ.ห้วยใหญ่ เปิดเผยว่า สามารถติดตามจับกุม 3 ของผู้ก่อเหตุได้แล้ว คือ

1.นายพัชรพล กิ่งคล้าย หรือพีช อายุ 21 ปี

2.นายนัตพงค์ ชุ่มเย็น หรือนัท อายุ 26

3.นายกฤษดา เงินท้วม หรือแปบ อายุ 22 ปี


พร้อมของกลางรถ จยย.3 ล้อพ่วงข้าง ยี่ห้อ ฮอนด้า เวฟ 125 สีดำ โดยมีคราบเลือดติดอยู่ที่พื้นรถ และเชือกที่ใช้ในก่อเหตุมัดมือเหยื่อ เป็นเชือกไนลอน ยาวประมาณ 3 เมตร สีเขียว 1 เส้น


นอกจากนี้ ยังตรวจค้นเจออุปกรณ์เสพยาไอซ์ อยู่ใต้เบาะรถจยย.3 ล้อพ่วงข้าง ส่วนที่ยังหลบหนีคือ นายยุทธ อายุ 23 ปี


โดยพฤติกรรมของ กลุ่มคนร้ายที่ลงมือ ก่อเหตุทำร้ายเด็กถึง 4 รอบ โดยกล่าวหาว่าเด็กขโมยทอง 1 บาท และเงินสด 3 พัน ของนายแบล็ค เจ้าของอู่ซ่อมรถจยย. ซึ่งเป็นญาติกันกับ นายพลูหิรัญ และนายพัชรพล


รอบที่ 1 เกิดขึ้น เวลา 17.00 น. ของวันที่ 16 ก.ย. คนลงมือคือ นายพลูหิรัญ พ่อของนายพัชรพล ด้วยการเตะ และใช้รองเท้าคอมแบทตบหน้าผู้ตาย โดยมีพยานเห็นเหตุการณ์ คือ เพื่อนผู้ตาย 2 คน ด.ช.ไผ่ และ ด.ช.ติ๊ก


รอบที่ 2 เหตุเกิดเวลาห้าทุ่ม ผู้ก่อเหตุคือ นายพัชรพล พร้อมกับพวกอีก 3 คน ได้ลาก ด.ช.เขียด ทำร้ายที่บ้านร้าง ห่างจากจุดที่ผู้ตายเสียชีวิตประมาณ 100 เมตร


รอบที่ 3 เหตุเกิดเวลาตี 1


รอบที่ 4 เหตุเกิดเวลาตี 2 นายพีชได้กลับมาทำร้าย ด.ช.เขียด อีกครั้ง ด้วยใช้เชือกมัดมือ แล้วอุ้มขึ้นรถจยย.3 ล้อพ่วงข้าง ตระเวนไปตามซอยของหมู่บ้าน แล้วลงมือทำร้ายเด็ก บังคับให้บอกที่ซ่อนทอง


โดยกลุ่มผู้ก่อเหตุ อ้างว่า เด็กยอมรับว่าขโมยทองไป จึงอุ้มเด็กขึ้นรถพาไปหาที่ซ่อนทอง ก่อนจะพา ด.ช.เขียด กลับมาส่งที่บ้านพัก ช่วงเวลาประมาณตี 4 ห่างจากจุดที่พบศพประมาณ 20 เมตร ก่อนจะพากันแยกย้าย ส่วน ด.ช.เขียด คงเจ็บปวดทรมาน จึงเด็กมาขอความช่วยเหลือที่บ้านน้า แต่ไม่มีใครอยู่ ก่อนจะล้มลงเสียชีวิตหน้าบ้านน้าดังกล่าว


ส่วนด้านกลุ่มผู้ก่อเหตุ เบื้องต้น ให้การภาคเสธว่า ก่อเหตุจริง แต่ไม่มีเจตนาจะลงมือจนถึงขึ้นเสียชีวิต เพียงจากจะเค้นเอาทองคืน เพราะ ด.ช.เขียด ยอมรับว่าเป็นคนขโมยของไป แต่ไม่ยอมพาไปเอาจุดซ่อนทอง ด้วยความโมโหจึงก่อเหตุ


แต่อย่างไรก็ตาม ได้ตั้งข้อกล่าวหา “ร่วมกันทำร้ายผู้อื่นจนถึงแก่ความตาย” ส่วนผู้ก่อเหตุอีก 1 คน กำลังให้ฝ่ายสืบสวน เร่งติดตามจับกุมตัวมาดำเนินโดยเร็วแล้ว



รับชมผ่านยูทูปได้ที่ : https://youtu.be/0CcLEUAKF3k

คุณอาจสนใจ

Related News