เก๋งตัดหน้าชายปั่นจักรยานวัย 75 ปี ล้มหัวฟาดถนนเจ็บ ขับหนีไร้เหลียวแล ลูกสาวยันเอาเรื่องถึงที่สุด

เกิดเหตุการณ์ ชายวัย 75 ปี ขี่รถจักรยานไปบนถนนราชพฤกษ์ ช่องทางคู่ขนาน แล้วถูกรถเก๋งคันหนึ่งเลี้ยวเข้าซอยตัดหน้า เฉี่ยวชนจนเสียหลักล้มหัวฟาดพื้นได้รับบาดเจ็บ โดยหลานของผู้บาดเจ็บ ได้นำคลิปดังกล่าวมาโพสต์ในทวิตเตอร์ ระบุว่า เหตุเกิดวันเสาร์ที่ 10 กันยายน 2565 เวลาประมาณ 6.04 น. ใครที่ขับรถผ่านบริเวณถนนราชพฤกษ์ (ช่องทางคู่ขนาน) มุ่งหน้าไปทางถนนบรมราชชนนี พบเห็นรถเก๋ง สีบรอนซ์เทา ขับรถเฉี่ยวชนตา ตาได้รับบาดเจ็บ ตอนนี้เรายังไม่ทราบเลขทะเบียน คือไม่ลงมาช่วยเหลือตาเราเลย


ทีมข่าวไปเจอกับชายที่ได้รับบาดเจ็บ คือ นายณรงค์ อายุ 75 ปี เล่าให้ฟังว่า วันเกิดเหตุ ตนขี่รถจักรยานออกจากบ้านในซอยบางพรม 8 จะไปตักบาตร แล้วก็จะไปขี่จักรยานออกกำลังกายต่อ ซึ่งทำเป็นประจำทุกเช้า พอมาถึงจุดเกิดเหตุ ตนขับอยู่บนถนนริมซ้าย ก็มีรถเก๋งขับตามหลังมาในเลนกลางด้วยความเร็ว แล้วมาเลี้ยวซ้ายตัดหน้าทันทีเพื่อจะเข้าถนนบางพรม จนท้ายรถเฉี่ยวชนล้อหน้ารถจักรยาน ทำให้เสียหลักล้มลง หัวฟาดกับพื้นถนน


ตอนนั้นรู้สึกเจ็บและชาไปทั้งตัว แต่ยังรู้สึกตัว มองเห็นรถคู่กรณีขับหนีไปต่อหน้าต่อตา ตอนแรกยังนึกว่าจะขับไปจอดแต่ก็ไม่จอด


ส่วนอาการตอนนี้ หลังเย็บแผลไป 7 เข็ม แต่ยังมีอาการอาเจียนต่อเนื่อง กินข้าวไม่ได้เลย กินแล้วก็จะอาเจียนออกมา และตอนนี้ก็สื่อสารกับคนรอบตัวลำบากด้วย เพราะเครื่องช่วยฟังหลุดหายไปตอนที่เกิดอุบัติเหตุ ทั้งนี้ ตนคิดว่าถ้าคนขับรถเก๋งจะเลี้ยวซ้าย ก็น่าจะชะลอรถลงหน่อย แล้วรอให้ตนขี่จักรยานเลยไปก่อนค่อยเลี้ยว ไม่ใช่เร่งเครื่องมาเลี้ยวตัดหน้า


ขณะที่ นางชลิดา รัชตเมธาวิน ลูกสาวของคุณตา เปิดเผยกับทีมข่าวว่า เมื่อเช้าวันเสาร์ พ่อกลับบ้านมาแล้วเรียกชื่อตนหลายครั้งมาก พอเปิดประตูออกไป ก็เจอพ่อในสภาพเอามือกุมหางคิ้ว มีเลือดออกเต็มไปหมด จึงตกใจมาก ซึ่งพ่อบอกว่า โดนรถเฉี่ยวมาให้พาไปเย็บแผลหน่อยพร้อมเล่าเหตุการณ์ให้ฟัง ซึ่งวันนั้นพ่อได้เย็บแผลที่ศีรษะไป 7 เข็ม และยังมีแผลถลอกตามร่างกายอีก แต่ทำ CT Scan สมองแล้วยังปกติ


ปรากฏว่าพอผ่านไป 2 วัน พ่อมีอาการอาเจียนหลายครั้ง ทานข้าวไม่ได้ วันนี้แพทย์จึงนัดมาทำ CT Scan ซ้ำอีกครั้ง เพราะสงสัยว่าอาจจะมีอาการเลือดออกในสมองเนื่องจากอายุเยอะแล้ว


นางชลิดา บอกด้วยว่า ตอนแรกหลังเกิดเหตุ ทั้งตนและพ่อก็จะไม่เอาเรื่องคู่กรณี แต่พอได้ไปเห็นคลิปจากกล้องวงจรปิด ตนก็รู้สึกว่า ปล่อยไว้ไม่ได้ ให้อภัยไม่ได้ เพราะคู่กรณีไม่มีน้ำใจเลย ภาพที่เห็นคือพ่อล้มหัวฟาดแรงมาก และก็นั่งงงอยู่บนถนนพักใหญ่ ตนเป็นลูก เห็นแล้วก็บีบหัวใจ


ตอนนี้จึงไปแจ้งความไว้แล้วที่ สน.บางเสาธง แต่ยังไม่ได้รับการติดต่อจากคู่กรณีแต่อย่างใด ซึ่งอยากฝากบอกว่า ถ้ารู้ตัว ก็อยากให้มาแสดงตัว และกลับมาขอโทษพ่อตน ไม่ใช่หนีไปเลย ปล่อยคนแก่นั่งอยู่บนพื้นถนน หากวันนั้นมีรถขับตามหลังมา พ่อตนอาจจะตายได้เลย


ยืนยันว่า ตนเอาเรื่องถึงที่สุดแน่นอน และฝากถึงคนที่ใช้รถใช้ถนนบนเส้นทางดังกล่าวในวันเกิดเหตุ หากมีกล้องหน้ารถที่เห็นทะเบียน ก็ให้ส่งมาได้ เพราะภาพจากกล้องวงจรปิดมองไม่เห็นแผ่นป้ายทะเบียนของคู่กรณี