ค่ารักษาพุ่ง 6 แสน! วอนช่วยสาวเวียดนาม เหยื่อ 'เมาท์เทน บี' ถูกไฟคลอกทั้งตัว 70-80%

จากเหตุการณ์โศกนาฏกรรมไฟไหม้ เมาท์เทน บี เมืองสัตหีบ จ.ชลบุรี เหยื่อหลายรายที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ดังกล่าว เริ่มออกมาเรียกร้องให้เจ้าของร้าน เร่งเยียวยาช่วยเหลือค่ารักษาพยาบาล

นางสาวคิม เป็นคนหน้าตาดี นิสัยร่าเริง พูดไทยได้ชัดเจน ในวันเกิดเหตุน้องโทรชวนไปเที่ยว ร้านที่ถูกไฟไหม้ แต่ตนบอกกับน้องว่าให้ไปก่อน เดี๋ยวจะตามไป จนมาทราบข่าวว่าร้านดังกล่าวเกิดไฟไหม้ พยายามติดต่อน้อง แต่ก็ไม่รับสาย จนมาทราบว่าน้อง อยู่ รพ.สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ จึงรีบไปดู

เมื่อไปถึงโรงพยาบาลก็พบว่าน้อง นอนรอการรักษา อยู่หน้าห้องฉุกเฉิน ในสภาพเนื้อตัวถูกไฟคลอกทั้งตัวประมาณ 70-80% นอนร้องทรมานด้วยความเจ็บอยู่บนเตียงรถเข็น นาทีนั้นในโรงพยาบาลวุ่นวาย หมอพยาบาล วิ่งกันให้วุ่นทั้งห้องฉุกเฉิน คนเจ็บนอนเรียงรายรอการรักษาหลาย 10 ราย จึงได้ปรึกษาแพทย์ เพื่อจะพาน้องไปรักษาโรงพยาบาลอื่น ซึ่งทางแพทย์ก็อนุญาต จึงได้รีบพา นางสาว ดิง กิม ลี ขึ้นรถยนต์ส่วนตัว ไปส่งโรงพยาบาลกรุงเทพพัทยา ทันที

โดยก่อนเข้ารักษาตัว ได้วางเงินประกันการรักษาน้องไว้ 50,000 บาท จนน้องได้รับการรักษา ตลอดระยะเวลาการรักษา 6 วันที่ผ่านมา น้องถูกรักษาตัวในห้องปลอดเชื้อโรค โดยไม่ให้เข้าเยี่ยม เวลาเยี่ยมต้องมองผ่านห้องกระจก ยอมรับว่าสงสารน้องมาก เพราะน้องอยู่ในสภาพ ใส่เครื่องช่วยหายใจ แต่น้องรู้สึกตัว และลืมตา ตลอดเวลาที่เข้าเยี่ยม น้องพยายามส่งสัญญาณมือ น้ำตาไหล เหมือนอยากจะบอกอะไรบางอย่าง สำหรับค่ารักษาพยาบาล ล่าสุดพุ่งสูงถึง 630,614.80 บาท

ตนจึงตัดสินใจพูดคุยกับพี่ชายของน้องคิม เพื่อปรึกษากันว่า จะทำยังไงต่อเพราะค่าใช้จ่ายการรักษาสุดมาก สุดท้ายจึงขออนุญาตโรงพยาบาลกรุงเทพ-พัทยา ขอย้ายตัวน้องไปรักษาตัวต่อโรงพยาบาลรัฐ ซึ่งพยายามติดต่อโรงพยาบาลกว่า 10 แห่ง ก็ไม่มีโรงพยาบาลไหนกล้ารับ จนกระทั่งวันนี้ โรงพยาบาลสมเด็จ ณ.ศรีราชา รับน้องไปรักษาต่อ ส่วนค่ารักษาพยาบาล ของ รพ.โรงพยาบาลกรุงเทพ-พัทยา ก่อนจะย้ายตัว ทางญาติของน้องได้จ่ายเพิ่มไปอีก 150,000 บาท รวมทั้งหมด 200,000 บาท

น.ส.อภิญญา เปิดเผยต่ออีกว่า อยากจะวอนขอ ให้เจ้าของ เมาท์เทน บี ช่วยเยียวยา ค่ารักษาพยาบาลมากว่านี้ โดยก่อนหน้านี้รับมาแล้ว 10,000 บาท ซึ่งไม่พอกับค่ารักษาพยาบาล อีกทั้งน้องเป็นต่างด้าว ไม่มีสิทธิ์รักษาเหมือนคนไทย ตอนนี้พี่สาวของน้อง ได้เปิดรับเงินบริจาคในประเทศเวียดนามแล้ว และเป็นกระแสโด่งดังมาก แตกต่างกับประเทศไทยในเรื่องรางของน้องไม่ถูกตีแผ่ ตอนนี้ทุกคนพยายามหาทางช่วยเหลือตัวตนเอง เพื่อให้น้องได้รับการรักษา แต่หากสุดท้ายไม่มีทางออก จะขอประสานกับสถานฑูตเวียดนาม เพื่อช่วยเหลือน้องต่อไป

ขณะที่จำนวนเงินการรักษาพยาบาลที่สูงถึง 630,000 บาท นั้นเป็นเพราะผู้บาดเจ็บเป็นชาวต่างชาติโดยไม่ได้รับสิทธิ์การรักษาตามสิทธิ์การรักษาพยาบาลเหมือนคนไทยที่เข้ารับการรักษา ซึ่งตนและทางครอบครัวชาวเวียดนามเข้าใจได้

ขณะที่นางสาว ดิง กิม ลี ไม่ได้ทำประกันไว้เลย จึงต้องยอมรับสภาพหนี้การรักษาพยาบาลไว้เอง โดยมีการเปิดรับบริจาคเป็น 2 บัญชีคือ บัญชีในประเทศไทย ชื่อ น.ส.อภิญญา มงคลสินธุ์ เลขที่บัญชี 656-253294-7  ธนาคารไทยพาณิชย์ โดยมีผู้ใจบุญบริจาคเข้าแล้ว 100,000 บาทเพื่อเป็นที่รักษาพยาบาล ขณะที่ทางเวียดนามก็มีการเปิดรับบริจาคเหมือนกัน (เพิ่งเปิดบริจาค 1 วัน) โดยมีผู้ใจบุญบริจาคเข้าแล้ว 600,000 ดอง (1 พันบาท) ขณะนี้ มียอดที่ค้างจ่ายจากโรงพยาบาลเดิมทั้งสิ้น 430,000 บาท

ล่าสุด ทางเจ้าของผับได้โทรศัพท์ติดต่อมาเพื่อสอบถาม ยอดค่าใช่จ่ายในการรักษาพยาบาลเท่านั้น แต่ก็ยังไม่รับปากว่าจะช่วยเหลือเท่าไร่

ทั้งนี้สำหรับ นางสาว ดิง กิม ลี อายุ 25 ปี หรือคิม  ชาวเวียดนาม มีพยานหลายคนยืนยันว่า  น้องเป็นคนเจ็บรายสุดท้าย ที่ นาวาโทผลิตเดช ชุ่มเงิน พยายามช่วยชีวิตออกมาจากกองเพลิง จนตัวเองได้รับบาดเจ็บสาหัส และ เสียชีวิตเป็นรายที่ 17 ซึ่งบรรดาเพื่อนของน้องคิม พอทราบว่า นาวาโทคนดังกล่าวเสียชีวิต ต่างขอบคุณในความกล้าของนายทหารนักบิน กองทัพเรือรายนี้อีกด้วย

รับชมผ่านยูทูปได้ที่ : https://youtu.be/T7R0taXgdPY