สังคม
ทร.ตั้งสอบ ขีดเส้น 3 วัน เหตุเรือหลวงชลบุรี ปืนลั่นใส่เรือหลวงคีรีรัฐ
โดย passamon_a
15 มี.ค. 2567
1.1K views
กองทัพเรือ ชี้แจงเหตุเรือหลวงชลบุรีปืนลั่นใส่เรือหลวงคีรีรัฐ ตั้งกรรมการสอบสวนโดยด่วน ดูแลทหารบาดเจ็บอย่างใกล้ชิด เพจดังตั้งคำถาม กำลังพลเรือหลวงชลบุรีปฏิบัติตามขั้นตอนหรือไม่
เมื่อวันที่ 14 มี.ค.67 พลเรือตรีวีรุดม ม่วงจีน โฆษกกองทัพเรือ เปิดเผยถึงกรณีที่มีการเผยแพร่ข่าวเหตุเพลิงไหม้เรือหลวงคีรีรัฐ ว่า เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อเวลา 11.45 น. ของวันที่ 14 มี.ค. ขณะที่เรือหลวงคีรีรัฐกำลังจอดเทียบท่าอยู่ที่บริเวณท่าเรือแหลมเทียน ฐานทัพเรือสัตหีบ จ.ชลบุรี ขณะนี้ทางกองทัพเรือสามารถควบคุมสถานการณ์ได้แล้ว
โดยสาเหตุในเบื้องต้นพบว่า มาจากกระสุนปืนขนาด 76 มิลลิเมตร ของเรือหลวงชลบุรี ซึ่งเกิดการขัดข้องและติดค้างอยู่ในตัวปืนขณะทำการฝึกในทะเล เมื่อ 13 มี.ค.67 ซึ่งเรือหลวงชลบุรีได้ดำเนินการป้องกันอันตรายเบื้องต้น และแล่นเข้าจอดเทียบท่าเรือ และให้เจ้าหน้าที่ช่างปืนมาดำเนินการแก้ไขปัญหา แต่เกิดเหตุลั่นขณะดำเนินการแก้ไข จนทำให้เรือหลวงคีรีรัฐได้รับความเสียหาย บริเวณท้ายเรือเล็กน้อย แต่เรือยังคงมีขีดความสามารถในการปฏิบัติการ ไม่มีผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์ดังกล่าว แต่พบว่ามีผู้ได้รับบาดเจ็บจำนวน 14 ราย ส่วนมากเกิดจากการสำลักควันไฟ โดยได้นำผู้บาดเจ็บทั้งหมดส่งโรงพยาบาลสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ กรมแพทย์ทหารเรือ ในทันทีที่เกิดเหตุ และเฝ้าระวังอาการของผู้บาดเจ็บอย่างใกล้ชิด
โดย พลเรือเอกอะดุง พันธุ์เอี่ยม ผู้บัญชาการทหารเรือ ได้สั่งการให้ พลเรือเอกชาติชาย ทองสะอาด ผู้บัญชาการกองเรือยุทธการ ตั้งคณะกรรมการสอบสวน จากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้งหน่วยต้นสังกัดและหน่วยเทคนิค เพื่อสอบสวนหาสาเหตุที่เกิดขึ้น โดยให้รายงานผลให้ทราบภายใน 3 วัน ทั้งนี้ ผู้บัญชาการทหารเรือ ได้มีความห่วงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น โดยเฉพาะอาการของผู้ที่ได้รับบาดเจ็บ ได้สั่งการให้ดูแลผู้บาดเจ็บอย่างเต็มที่ และได้เดินทางไปเยี่ยมติดตามอาการ ผู้บาดเจ็บที่โรงพยาบาลสิริกิติ์ ในช่วงเย็นของวันนี้ ซึ่งหากมีความคืบหน้ากองทัพเรือจะแจ้งให้ทราบในโอกาสต่อไป
ขณะที่ เพจ thaiarmedforce.com โพสต์ข้อความ ระบุว่า "ภาพของกองทัพเรือ ในวงสีแดงคือตำแหน่งของปืน OTO Melara 76/62 ซึ่งเป็นปืนเรือหลักของเรือตรวจการณ์ปืนชุดเรือหลวงชลบุรี ซึ่งมีข้อมูลว่ากระสุนด้านและลั่นใส่เรือหลวงคีรีรัฐจนมีผู้บาดเจ็บสามคน ภาพขวาคือตัวอย่างกระสุนของปืน 76/62 มาเทียบให้ดูเพื่อให้เห็นขนาดของกระสุนครับ
จริง ๆ กระสุนด้านและยิงไม่ออกนั้นเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นได้ แต่ตอนนี้ยังไม่แน่ใจว่าเพราะเหตุใดเมื่อกระสุนด้านแล้ว แต่กลับนำเรือเข้ามาเทียบท่าที่ท่าเรือแหลมเทียนและหันปากกระบอกเข้าหาเรือลำอื่น พอกระสุนลั่นก็กลายเป็นว่ากระสุนถูกเรือลำอื่นเสียหาย ซึ่งกระสุนแบบนี้ถูกออกแบบมาให้ยิงทั้งฝั่งและยิงเรือด้วยกันเองอยู่แล้ว ทำให้ความเสียหายน่าจะมีพอสมควร
ความโชคดีอย่างเดียวในเรื่องนี้ (ที่จริง ๆ ก็ไม่ควรจะนับว่าโชคดี) คือเรือหลวงคีรีรัฐกำลังจะปลดประจำการแล้ว แม้จะยังไม่มีเรือทดแทน แต่ก็เป็นการปลดประจำการตามแผน ดังนั้นความเสียหายต่อกำลังรบในภาพรวมก็อาจจะไม่มากนักเพราะเรือกำลังออกจากแผนป้องกันประเทศแล้ว
คือพูดตรง ๆ ว่าไม่เข้าใจอะไรหลาย ๆ อย่างว่ามันเกิดขึ้นได้อย่างไร ซึ่งก็รอ #กองทัพเรือ ชี้แจงต่อไป อาจจะมีเหตุผลดี ๆ ที่เราไม่รู้ก็ได้ แต่เราคิดว่าตอนนี้กองทัพเรือมีปัญหาด้านมาตรฐานการปฏิบัติงานแล้วครับ เพราะเหตุการณ์เรือลม เรือชนท่าตอนเทียบ หรือปืนเรือลั่นใส่เรือลำอื่น ทั้งหมดนี้เกิดขึ้นภายในเวลาปีกว่า ๆ เท่านั้น และเป็นเหตุการณ์ร้ายแรงทั้งสิ้น ซึ่งปัญหามันไม่ใช่แค่ผู้การเรือหรือกำลังพลในเรือแน่นอน
บอกตรง ๆ ไม่รู้จะพูดยังไงดีครับ แต่ถ้าเป็นต่างประเทศ ต้องมีใครสักคนลาออกเพื่อรับผิดชอบ หรือกองทัพต้องถูกเรียกเข้าไปให้การกับกรรมาธิการการที่สภาฯแล้วครับ"
ต่อมา โพสต์ว่า "เรื่องปืนของ #เรือหลวงชลบุรี ลั่นใส่ #เรือหลวงคีรีรัฐ จนเป็นเหตุให้เกิดไฟไหม้ที่ห้องครัวและมีผู้บาดเจ็บนั้น คำถามอาจไม่ใช่ว่า #กองทัพเรือ มีขั้นตอนในการปฏิบัติถ้ากระสุนของปืนเรือด้านหรือไม่ เพราะจากเอกสารด้านล่างนี้ (ขอบคุณเพจ Military Facts ที่แบ่งปันมา) ก็ยังค่อนข้างชัดเจนว่ากองทัพเรือมีหลักปฏิบัติอยู่ว่าถ้ากระสุนด้านจากการยิงจะต้องทำอย่างไร ดังนั้นคำถามที่ควรจะถามก็คือ กำลังพลของเรือหลวงชลบุรีได้ปฏิบัติตามขั้นตอนเหล่านี้หรือไม่
ซึ่งตอนนี้ยังสรุปไม่ได้ว่าปฏิบัติหรือไม่ปฏิบัติ เพราะเรายังไม่ทราบข้อเท็จจริงทั้งหมด และในรายละเอียดของเหตุการณ์ก็อาจจะมีความต่างกันไป ซึ่งก็ต้องขึ้นอยู่กับวิจารณญาณของผู้ปฏิบัติงาน ณ ตอนนั้นด้วย
แต่สิ่งที่ไม่เข้าใจ ซึ่งเป็นสิ่งที่ค่อนข้างชัดเจนและเป็น Common Sense ก็คือ ทำไมถึงหันปลายกระบอกปืนไปยังเรือลำอื่นทั้งที่มีกระสุนด้านติดอยู่ในลำกล้อง คือไม่ว่าตำราไหน หรือหลักการใด หรือปืนมีขนาดไหน การหันปลายกระบอกปืนที่ยังมีกระสุนด้านค้างในลังเพลิง ไปยังตำแหน่งที่อาจเป็นอันตรายนั้นเป็นสิ่งที่ไม่ควรทำทั้งสิ้น
ซึ่งก็ต้องรอดูว่า เหตุการณ์นี้จะมีการสอบสวนและสรุปผลมาอย่างไร รวมถึงเราจะได้ทราบหรือไม่ว่าสาเหตุมันเกิดจากอะไร แต่เราย้ำอีกครั้งว่าเป็นเรื่องน่าเศร้าที่เรารู้สึกว่ามาตรฐานการปฏิบัติงานของกองทัพเรือตกลงมากในช่วงหลัง จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นซ้ำๆ กันตั้งแต่เรือหลวงสุโขทัยล่ม เรือหลวงนเรศวรเข้าท่าและชนกับท่าเรือจนเป็นเหตุให้ท่อตอปิโดเสียหาย จนกรณีล่าสุดคือเรือหลวงชลบุรีทำปืนลั่นใส่เรือหลวงคีรีรัฐ ซึ่งค่อนข้างชัดเจนว่าสาเหตุหลักของเหตุการณ์เหล่านี้ส่วน หนึ่ง จะเป็นสาเหตุที่เกิดจากบุคคลแน่นอน
ปกติกองทัพเรือไทยจะปฏิบัติงาน จะต้องมีความพร้อมสามด้าน คือองค์บุคคล องค์วัตถุ องค์ยุทธวิธี เป็นสามเหลี่ยมที่สมดุลกัน ซึ่งถ้าองค์บุคคลมีปัญหาแบบ ก็แปลว่ากองทัพเรือไม่สามารถที่จะปฏิบัติงานได้สำเร็จแน่ๆ เมื่อพิจารณาจากปัญหาด้านกำลังพลที่เกิดขึ้นในกองทัพเรือมานาน มันก็น่ากลัวว่าจะมีเหตุการณ์ลักษณะนี้เกิดขึ้นอีกในอนาคต
จริงๆ เราเห็นใจกองทัพเรือ แต่ในอีกมุมนึงเราก็เศร้าใจมากเช่นกัน และไม่อยากเชื่อว่ากองทัพเรือจะมาอยู่ในสภาพแบบนี้ในช่วงหลายปีหลังจากความผิดพลาดหลาย ๆ อย่างของกองทัพเรือเองครับ ถ้าแก้ปัญหาไม่ได้ คำขวัญที่ติดอยู่ที่ซุ้มประตูกองทัพเรือที่บอกว่าจะเป็นกองทัพเรือที่ประชาชนเชื่อมั่นและภาคภูมิใจ ก็มีความเสี่ยงที่มันจะเป็นแค่คำพูด ไม่สามารถปฏิบัติได้จริงครับ"
และล่าสุดระบุว่า "กองทัพเรือบอกว่าปืนของเรือหลวงชลบุรีเกิดลั่นใส่ #เรือหลวงคีรีรัฐ ขณะทำการแก้ไข คืออันนี้เข้าใจได้ กระสุนด้านแล้วปืนมันลั่นเกิดขึ้นได้
แต่สิ่งที่น่าสงสัยที่สุดคือ ทำไมระหว่างแก้ไขจึงหันปากกระบอกปืนไปที่เรือคีรีรัฐ ไม่หันไปทางตำแหน่งที่ปลอดภัย เพราะเรือจอดแบบเอากราบขวา (Starboard) ชิดท่า ถ้าหันปากกระบอกไปทางซ้าย เล็งตำแหน่งดีๆ ให้มันชี้ไปตรงตำแหน่งที่ไม่มีคนบนเกาะพระหรือเกาะเตาหม้อ ถึงปืนลั่นก็ไม่โดนใครแล้ว
หรือไม่ก็น่าจะมี Procedure อื่นหรือมีที่จอดที่อื่นที่ไม่ก่ออันตรายแบบนี้ หรือไปก็พาสรรพาวุธไปแก้ไขตั้งแต่กลางทะเลยังไม่ต้องเข้าเทียบที่แหลมเทียน น่าจะปลอดภัยกว่าหรือไม่ ตรงนี้อยากให้กองทัพเรือสอบสวนและแถลงให้ชัดเจน
เพราะไม่เข้าใจมากที่สุด คือไม่ว่าปืนจะใหญ่หรือเล็ก ถ้าเกิดกระสุนติดขัดหรือด้านขึ้นมา สิ่งที่ควรทำเลยก็คือ หันปากกระบอกไปยังจุดที่ไม่ก่ออันตรายกับใคร ย้ำว่าปืนลั่นมันเกิดขึ้นได้ ไม่ใช่เรื่องแปลก แต่ที่แปลกคือมาตรการและการปฏิบัติตอนปืนลั่น ซึ่งค่อนข้างชัดเจนว่ามีความผิดปกติ แต่โดยรวม ยังชื่นชมกำลังพลของเรือหลวงคีรีรัฐที่สามารถควบคุมความเสียหายได้ดีครับ"
รับชมผ่านยูทูบได้ที่ : https://youtu.be/SySENrJ-fuU
แท็กที่เกี่ยวข้อง กองทัพเรือ ,เรือหลวงชลบุรี ,เรือหลวงคีรีรัฐ