พวงหรีดปริศนา โผล่วางหน้าผับมรณะ ทนายยัน 'เสี่ยบี' แค่วัยรุ่นสร้างตัว ไม่รู้จักผู้มีอิทธิพล

พวงหรีดปริศนาโผล่วางหน้าผับมรณะ เมาท์เทน บี พร้อมป้ายข้อความ "R.I.P.เจ้าของกิจการ ผู้การฯ เมืองชลบุรี ยันเสี่ยบีเป็นเจ้าของผับตัวจริง เตรียมนำเครนรื้อหลังคาออกวันนี้ เพื่อให้ พฐ.ตรวจสอบระบบไฟภายในอย่างละเอียด ขณะที่ทนายความเร่งหาเงินสด 1 ล้านบาท ยื่นขอประกันตัวเสี่ยบี ตำรวจแยกขังเดี่ยว เผยสภาพจิตใจยังย่ำแย่


คืบหน้าเหตุไฟไหม้ผับเมาท์เทน บี อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี วานนี้ (7 ส.ค.65) พล.ต.ต.อรรถสิทธิ์ กิจจาหาญ ผบก.ภ.จว.ชลบุรี เปิดเผยภายหลังการประชุมร่วมกับพล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.ภ.2 และตำรวจชุดคลี่คลายคดีกว่า 2 ชั่วโมง ยืนยันว่าจากการรวบรวมพยานหลักฐานจนถึงขณะนี้ ยังไม่พบข้าราชการหรือคนมีสี ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการเปิดผับเมาท์เทน บี โดยไม่มีใบอนุญาต

พร้อมยืนยันว่านายพงศ์ศิริ ปั้นประสงค์ หรือบี ผู้ต้องหาที่ตำรวจควบคุมตัว เป็นเจ้าของผับตัวจริง ตั้งแต่การเริ่มก่อสร้าง ดำเนินกิจการ หรือต่อเติมร้าน ซึ่งขณะนี้ยังอยู่ในระหว่างการรวบรวมพยานหลักฐาน ตาม พ.ร.บ.ควบคุมอาคาร หากพบว่าเข้าข่ายความผิดใด ก็จะแจ้งข้อกล่าวหาเพิ่มเติม

กรณีที่มีการสอบปากคำเจ้าหน้าที่รัฐ 2 คน คือ หัวหน้าแผนกขยายเขตระบบไฟฟ้า กองกิจการไฟฟ้าทหารเรือ ที่รับผิดชอบระบบไฟฟ้าในพื้นที่ และนายช่างโยธาชำนาญงานประจำเทศบาลเมืองสัตหีบ ที่รับผิดชอบเรื่องงานขออนุญาตก่อสร้างและโครงสร้าง ยืนยันว่าเป็นการสอบปากคำในฐานะพยาน เมื่อถามว่าจากการสอบสวนพบความบกพร่องในสองส่วนนี้หรือไม่ พล.ต.ต.อรรถสิทธิ์ บอกว่า ยังอยู่ในระหว่างรวบรวมพยานหลักฐาน

ส่วนประเด็นที่มีพยานบอกว่าช่วง 2 เดือน ที่ผ่านมามีตำรวจเข้าไปตรวจสอบผับ 3 ครั้ง แต่ไม่ได้ดำเนินการ เข้าข่ายละเว้นหรือไม่ ผบก.ภ.จว.ชลบุรี บอกว่า เรื่องนี้อยู่ในระหว่างตรวจสอบข้อเท็จจริง ซึ่งมีคำสั่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนแล้ว ยืนยันว่าใครเกี่ยวข้อง กระทำผิดก็จะดำเนินการตามกฏหมายทั้งหมด

ส่วนสาเหตุเพลิงไหม้เกี่ยวข้องกับระบบไฟฟ้าหรือไม่นั้น  ยังไม่ยืนยัน อยู่ในระหว่างการรวบรวมพยานหลักฐาน ซึ่งช่วงเช้าวันจันทร์ที่ 8 สิงหาคม จะมีการนำเครนไปรื้อหลังคาผับออก เพื่อให้ตำรวจพิสูจน์หลักฐานเข้าไปตรวจสอบระบบไฟฟ้าภายในอย่างละเอียด

โดยขณะนี้กำลังดำเนินการตรวจสอบสถานบริการทั่วทั้งจังหวัดชลบุรี ทั้งเรื่องการขออนุญาตเปิดให้เป็นการถูกต้องหรือไม่ รวมถึงระบบความปลอดภัยต่าง ๆ ซึ่งในส่วนอำเภอสัตหีบ ยังมีสถานบริการอื่น ๆ ที่เปิดโดยไม่ได้รับอนุญาตอีกหรือไม่ ยังไม่ยืนยัน อยู่ระหว่างตรวจสอบ





ด้านนายอนุชา วงศ์ศรีรัตน์ ทนายความของเสี่ยบี เจ้าของผับเมาท์เทนท์ บี เปิดเผยว่า ขณะนี้ทางเราก็มีความหวังที่จะได้รับความเมตตาจากศาลในการประกันตัว เพราะเหตุที่เกิดขึ้นนั้นมาจากความประมาท ไม่ได้เจตนา และทางเราก็พยายามจะเยียวยามาโดยตลอด โดยถ้าได้ประกันตัวออกมาก็จะสามารถวิ่งไปหาญาติหรือคนที่รู้จักเพื่อหาเงินมาใช้ในการเยียวยาได้ จึงคาดหวังว่าศาลท่านคงจะเข้าใจ และเห็นใจ เพราะเจตนาก็ไม่ได้คิดจะหลบหนีไปไหนเลยตั้งแต่วันที่เกิดเหตุแล้ว  

อย่างไรก็ตามสำหรับกรณีที่เกิดขึ้น ทางเสี่ยบีและครอบครัว รู้สึกช็อคและเสียใจเป็นอย่างมาก เพราะไม่ได้มีเจตนาเป็นเพียงแค่คนวัยทำงานหนุ่ม-สาว ซึ่งมีอายุแค่ 27 ปี ที่อยากสร้างตัว อยากสร้างอนาคตเท่านั้น โดยที่ยังไม่ค่อยขั้นตอนและวิธีการมากนักเลยเกิดความผิดพลาด

ส่วนในเรื่องของรูปคดีนั้นตอนนี้ก็ยังมีในส่วนของทางเจ้าหน้าที่ ที่จะมีการสอบสวนเพิ่มเติม และสอบพยานอีกหลายปาก โดยข้อหาที่ศาลออกหมายใน 2 กรณีนั้น ก็อาจจะมีการตั้งข้อหาเพิ่มเติมในภายหลัง โดยเฉพาะในเรื่องของอาคาร เรื่องของการต่อเติม และจากการแจ้งของผู้เสียหายอีกจำนวนมาก ซึ่งในกรณีนี้คงมีเรื่องของเวลาและเอกสารของทางร้านที่จะต้องนำมาชี้แจง เรื่องนี้ก็ถือเป็นอีกกรณีที่อยากได้รับการประกันตัวเพื่อออกมาดำเนินการให้ครบถ้วน

นายอนุชา กล่าวอีกว่า สำหรับกรณีการเตรียมหาเงินสดหรือหลักทรัพย์ ที่จะนำมาใช้ในการเยียวยาหรือดำเนินในเรื่องของคดีนั้น ตรงนี้ก็ถือว่าค่อนข้างลำบากพอสมควร อย่างไรก็ตามทางเราจะพยายามเคลียผู้เสียหายให้ได้มากที่สุดเพราะเป็นเงินจำนวนมาก ซึ่งล่าสุดก็มีผู้ได้รับบาดเจ็บ และผู้ป่วยเพิ่มเติม แม้ตัวเลขผู้เสียชีวิตจะยังอยู่ที่ 15 รายก็ตาม

ส่วนที่ถามว่าจะเอาหลักทรัพย์ไปเอาเงินมาประกันตัวหรือชดเชยนั้น ก็ถือว่าหนักใจเพราะทรัพย์สินอย่างที่ดินที่ของร้านนั้น ก็เป็นเพียงที่ดินเช่าไม่ใช่ที่ดินส่วนตัวแต่อย่างใด ขณะที่จะให้คนที่มีตำแหน่งทางราชการใหญ่มีระดับมาช่วยเหลือนั้นเราซึ่งจริง ๆ แล้วเราไม่ได้รู้จักใครมากมายก็เป็นเพียงพ่อค้า นักธุรกิจธรรมดา และทุกอย่างก็อยู่ในแวดวงครอบครัว พ่อแม่พี่น้องเท่านั้น ดังนั้นข่าวที่มีการนำเสนอออกไปก็อยากให้ช่วยดู เพื่อให้เกิดความถูกต้องด้วย

ขณะที่ช่วงเย็นวานนี้ ตำรวจ สภ.พลูตาหลวง ได้ประสานบริษัทเอกชน มาทำการติดตั้งนั่งร้าน เพื่อให้เจ้าหน้าที่ตำรวจจากกองพิสูจน์หลักฐาน ใช้ในการตรวจสอบพยานหลักฐาน และโครงสร้างหลังคาในมุมสูง รวมทั้งการเตรียมการเพื่อยกหลังคาร้านออก

เนื่องจากที่ผ่านมาการเข้าตรวจพื้นที่ด้านในอาจสร้างอันตรายแก่เจ้าหน้าที่ได้ โดยกรณีดังกล่าวเกิดขึ้นภายหลังจากที่วานนี้ที่ กองบังคับการตำรวจภูธร จ.ชลบุรี พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 2 ได้เรียกประชุมพนักงานสอบสวนและสืบสวน เพื่อติดตามความคืบหน้าในการรวบรวมพยานหลักฐานให้รัดกุมและครบถ้วนในการดำเนินคดีกับผู้กระทำผิด

รวมทั้งพยานหลักฐานที่เกี่ยวข้องตั้งแต่การเปิดดำเนินการของเมาท์เทน บี ผับทั้งหมด เพื่อให้ผู้ที่ได้รับผลกระทบ บาดเจ็บ และเสียชีวิต ได้นำหลักฐานไปดำเนินการเกี่ยวกับการเยียวยา หรือฟ้องร้องเกี่ยวกับค่าเสียหายได้ ก่อนจะมีคำสั่งให้เจ้าหน้าที่จากกองพิสูจน์หลักฐาน ภาค 2 ลงพื้นที่อีกครั้งในวันที่ 8 ส.ค.เพื่อตรวจสอบพยานหลักฐานในมุมสูง และภายในตัวอาคาร

เนื่องจากการตรวจสอบหลังเกิดเหตุ พบว่ามีการยุบของตัวโครงสร้างของตัวอาคาร โดยเฉพาะหลังคาจึงทำให้มีการตรวจสอบได้เพียงบางส่วนเท่านั้น โดยจะได้ประสานให้มีการยกโครงสร้างหลังคาที่จะถล่มออก เพื่อตรวจสอบรายละเอียดอีกครั้งหนึ่ง

ทั้งนี้มีรายงานที่บริเวณด้านหน้าผับเพลิงไหม้เมาท์เทนท์ บี มีมือดีขับรถจักรยานยนต์มาเพียงหนึ่งคน สวมหมวกกันน็อคเต็มใบนำพวงหรีดพร้อมระบุข้อความ “R I P เจ้าของกิจการเมาท์เทนท์ บี” ก่อนจะขับรถจักรยานยนต์ออกไปอย่างรวดเร็ว ซึ่งจากการสอบถามเจ้าหน้าตำรวจที่อยู่เฝ้าพื้นที่ก็ไม่ทราบรายละเอียดแต่อย่างใด

รับชมผ่านยูทูปได้ที่ : https://youtu.be/gPOjs_1uVGg