ครบ 1 ปี เพลิงไหม้ผับเมาน์เท่นบี ยังเยียวยาค่าเสียหายไม่จบ เหยื่อบางรายช้ำติดหนี้รพ. 4 ล้าน

วันนี้เมื่อปีที่แล้ว เกิดเหตุเพลิงไหม้สถานบันเทิงเมาเท่น บี ที่อำเภอสัตหีบ จังหวัดชลบุรี เหตุการณ์ครั้งนั้น มีผู้เสีย 26 คน บาดเจ็บ42 คน ถือเป็นโศกนาฏกรรมครั้งใหญ่อีกครั้ง ในสถานบันเทิง และแม้ว่าจะครบรอบ 1ปี แต่ดูเหมือนว่ากระบวนการช่วยเหลือ และกระบวนการทางคดี ผู้เสียหายก็ยังเห็นว่ามีความล่าช้า ทั้งที่มีความสูญเสียจำนวนมาก ในที่สุดผู้เสียหาย 28 ราย จึงรวมตัวกันยื่นฟ้องต่อศาลปกครอง เรียกค่าเสียหายจากรัฐกว่า 140 ล้านบาทอีกทางหนึ่ง ติดตามจากรายงาน


บาดแผลตามร่างกายของ นางสาวโศภิษฐา วงคำหาญ แม้ว่าวันนี้จะเริ่มดีขึ้นมากแล้วแต่บาดแผลทางจิตใจคงต้องใช้ระยะเวลาฟื้นฟูอีกยาวนาน โดยไม่รู้ว่าจะเป็นเช่นเดิมหรือไม่ เพราะภาพในวันเกิดเหตุยังคงติดตาอยู่จนทุกวันนี้ นางสาวโศภิษฐา เป็น 1ในเหยื่อไฟไหม้ผับเมาเท่นบี บอกว่า เธอ ไม่ใช่แค่บาดเจ็บแต่เฉพาะตัวเองเท่านั้น เธอยังต้องสูญเสีย เพื่อรุ่นน้องอีก 1 คน


หญิงสาวคนนี้ เธอ เองก็เป็น 1 ในผู้ที่อยู่ในไฟไหม้ผับเมาเท่นบีเช่นกัน วันนี้ เธอไม่กล้าแม้จะมองกระจกเงา


ไฟที่ไหม้ตามร่างกายเสียหายเกือบร้องละ 80 ทำให้ทุกวันนี้ เธอต้องอยู่ใช้ชีวิตอย่างลำบากอยู่ในห้องพักเท่านั้น เพราะไม่สามารถที่จะเดินไปไหมตามปกติ เธอ บอกว่า ทุกวันนี้เหมือนตายทั้งเป็น ทุกคนในครอบครัวต้องเดือดร้อนฐานที่ประเทศเวียดนาม ต้องจำนองที่ดินเอาเงินมารักษาและใช้จ่าย เพราะขณะนี้มีหนี้ที่เกิดจากการรักษาประมาณ 4 ล้านบาท


กลางดึกคืนวันที่ 4-5สิ่งหาคม 2565 ผับเมาน์เท่น สถานบันเทิง ที่ อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี เกิดเพลิงไหม้มีนักท่องเที่ยวประสบเหตุบาดเจ็บและเสียชีวิตจำนวนมาก ผ่านมา 1 ปีเต็ม ญาติของเหยื่อหลายคนต้องการเห็นความรับผิดชอบกับสิ่งที่เกิดขึ้น เพราะดูเหมือนทุกอย่างไม่มีความคืบหน้าอย่างที่ควรจะเป็น


นางยุพยงค์ หอยสังข์ แม่ของนางสาวโศภิษฐา เปิดเผยกับทีมข่าว 3 มิติว่า ทุกวันนี้ครอบครัวลำบากเพราะค่าใช่จ่ายที่เพิ่มขึ้นหลายเท่าจากการป่วยของลูกสาว จึงต้องการเรียกร้องผู้ที่เกี่ยวข้องช่วยดูและเหยื่อทุกๆคนไม่ใช่นิ่งเฉยเหมือนเช่นทุกวันนี้


ล่าสุด นายรณณรงค์ แก้วเพ็ชร์ ประธานเครือข่ายรณรงค์ทวงคืนความยุติธรรมในสังคม เปิดเผยว่า ขณะนี้ ผู้ฟ้องคดีทั้งสิ้น 28 ราย ฟ้องต่อศาลปกครอง เรียกค่าเสียหาย 139 ล้านบาท จาก 10 หน่วยงานข้องรัฐที่เกี่ยวข้อง


กรณีนี้ ข่าว 3 มิติยังคงติดตามต่อ โดยเฉพาะเรื่องผลสอบเจ้าหน้าที่รัฐ และเรื่องการจ่ายส่วยว่ามีจริงหรือไม่และใครเกี่ยวข้องบ้าง จึงทำให้มีสถานบันเทิงเกิดขึ้นอย่างเปิดเผย กระทั่งเกิดอุบัติเหตุดังกล่าวขึ้น