อาชญากรรม

ตีราคา 1 แสน ศาลให้ประกันตัว ชายเมาแหกโค้ง ชนคู่ผัวเมียขายหมูปิ้ง ลูกชายลั่น! ไม่ให้อภัยคนเมาแล้วขับ

โดย nattachat_c

27 ก.ค. 2565

164 views

ศาลให้ประกันตัวชายเมา วัย 60 ปี ขับแหกโค้ง ชนพ่อค้า-แม่ค้าหมูปิ้งเสียชีวิต ตีราคาประกัน 1 แสนบาท เจ้าของร้านอาหารเผย ชายวัย 60 มานั่งกินข้าวตั้งแต่บ่ายโมง เอาเบียร์มากินเอง 3 ขวด แต่กินไม่หมด ก่อนกลับมีอาการวูบจะหลับ ขณะที่ลูกชายร้านหมูปิ้ง ลั่นไม่ให้อภัยคนเมาแล้วขับ


จากกรณี นายนวชาติ (สงวนนามสกุล) อายุ 60 ปี ขับรถยนต์ฟอร์ด เอเวอเรสต์ สีดำ แหกโค้งพุ่งชุนประตูเหล็กศูนย์อาหาร I SEE SEE ถนนพระราม 3 ซอย 29 แขวงบางโพงพาง เขตยานนาวา กรุงเทพฯ ส่งผลให้นางรำพึง อายุ 53 ปี และนายวิสูตร อายุ 51 ปี สองสามีภรรยาเจ้าของร้านหมูปิ้ง เสียชีวิต 2 ศพ หลังเกิดเหตุ เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ตรวจวัดปริมาณแอลกอฮอล์ในร่างกายของนายนวชาติ พบสูงถึง 170 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์


วานนี้ (26 ก.ค. 65) พนักงานสอบสวน สน.บางโพงพาง ได้ควบคุมตัว นายนวชาติ อายุ 60 ปี ส่งฝากขังศาลอาญากรุงเทพใต้ หลังถูกแจ้ง 3 ข้อหา ขับรถประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย, ขับรถขณะเมาสุรา และทำให้ทรัพย์สินผู้อื่นเสียหาย โดยพนักงานสอบสวนจะคัดค้านการประกันตัว เนื่องจากคดีมีอัตราโทษสูง


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะเดินขึ้นรถคุมขัง นายนวชาติ เปิดเผยว่า ก่อนเกิดเหตุได้ดื่มเบียร์มาเพียงขวดเดียว จากร้านแถวบางโคล่ ซึ่งไม่ไกลจากจุดเกิดเหตุ และไม่ได้มีอาการแอลกอฮอลิซึมแต่อย่างใด เป็นการดื่มสังสรรค์กันระหว่างหมู่เพื่อน


กระทั่งในช่วงเกิดเหตุ ขณะขับรถอยู่ก็เผลอหลับไปจนรถชนกับผู้เสียชีวิตแล้ว จึงอยากฝากขอโทษญาติของผู้เสียชีวิตทั้ง 2 ราย พร้อมยืนยันจะรับผิดชอบกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทั้งหมด


ทั้งนี้ จากการสังเกตสภาพของผู้ต้องหาขณะนำตัวขึ้น พบว่าที่บริเวณใบหน้ามีร่องรอยบวมช้ำอย่างหนักจากการถูกชาวบ้านรุมประชาทัณฑ์และเข้าไปจับกุมตัว จากการสอบถามตำรวจเจ้าของคดีทราบว่า ผู้ต้องหายังไม่ได้ให้ข้อมูลว่าจะดำเนินคดีหรือเอาผิดกับผู้ที่เข้ามารุมทำร้ายตนเองหรือไม่ เพราะอยากดำเนินการเรื่องคดี และการชดใช้ค่าเสียหายแก่ผู้เสียชีวิตก่อน


ส่วนผู้หญิงที่นั่งมาในรถคันเดียวกันกับนายนวชาติ ตำรวจยังไม่ได้แจ้งข้อหา เพราะไม่ได้เป็นคนขับ แต่จะมีส่วนร่วมในการกระทำผิดหรือไม่ อยู่ในระหว่างการพิจารณา ซึ่งได้ปล่อยตัวไปตั้งแต่กลางดึกคืนเกิดเหตุแล้ว


ประเด็นที่มีกระแสข่าวว่า ผู้ต้องหามีการแจ้งชื่อกับตำรวจในตอนแรกว่าชื่อนายไพรัตน์ อุ่นเจริญ มีรายงานจากพนักงานสอบสวน เจ้าของคดีว่าไม่ได้เป็นความจริง เพราะผู้ต้องหาแสดงตัวและระบุชื่อ นวชาติ มาตั้งแต่แรก ส่วนชื่ออื่นๆ คาดว่าจะเป็นเพียงการแจ้งกับทางชาวบ้านในตอนเกิดเหตุเท่านั้น


ต่อมาทางญาติของผู้ต้องหา ได้ยื่นคำร้องพร้อมหลักทรัพย์เงินสด ขอปล่อยชั่วคราว โดยศาลอาญากรุงเทพใต้พิจารณาแล้วอนุญาตให้ปล่อยชั่วคราวผู้ต้องหาในชั้นนี้ หากผิดสัญญาประกันปรับ 100,000 บาท พร้อมกำหนดเงื่อนไขเพิ่มเติมห้ามผู้ต้องหากระทำการอันมีลักษณะทำนองเดียวกับคดีนี้ มิฉะนั้นศาลจะมีคำสั่งเกี่ยวกับการปล่อยชั่วคราว


ขณะที่ลูกชายและญาติๆ ได้มาเก็บทรัพย์สินที่เสียหายในจุดเกิดเหตุ และได้นิมนต์พระมาทำพิธีเชิญดวงวิญญาณที่จุดเกิดเหตุ ขณะที่มีชาวบ้านในที่เกิดเหตุ มาร่วมพิธีเชิญดวงวิญญาณพร้อมกับให้กำลังใจญาติของผู้เสียชีวิตด้วย โดยครอบครัวเหยื่อยังอยู่ในอาการโศกเศร้า มีการทำความสะอาดเก็บข้าวของเครื่องใช้ภายในร้าน ก่อนนำร่างผู้เสียชีวิตกลับไปบำเพ็ญกุศลบ้านเกิดที่วัดตาลเตี้ย หมู่ 1 ต.ตาลเตี้ย อ.เมือง จ.สุโขทัย

นายวันเฉลิม โตมา อายุ 23 ปี ลูกชายและญาติของผู้เสียชีวิต ได้เดินทางมาติดต่อขอรับส่งที่ศูนย์อำนวยการชันสูตรพลิกศพ โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ พร้อมเผยว่า เหตุการณ์ดังกล่าวที่เกิดขึ้นตัวเองยังทำใจไม่ได้ หลังจากนี้ตนเองก็ต้องรับผิดชอบดูแลน้องและญาติผู้ใหญ่ของพ่อแม่ ต้องอยู่ให้ได้ ช่วงที่จะยกโลงศพขึ้นรถ ลูกชายผู้ตายปล่อยโฮร้องไห้

ส่วนผู้ต้องหาหลังจากเกิดเหตุก็ยังคงอยู่ในอาการมึนเมาและยังไม่ได้พูดคุยอะไรกัน และยังรู้สึกแย่กับพฤติการณ์ของผู้ต้องหาที่ยังเมาแล้วขับจนทำให้พ่อแม่เสียชีวิต แม้เจ้าตัวจะอ้างว่าดื่มเบียร์มาขวดเดียว ส่วนที่ผู้ต้องหาพูดว่าจะดูแลเยียวยากับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นก็ยังไม่ได้พูดคุยกับทางเจ้าหน้าที่เกี่ยวกับเรื่องคดี

แม้ว่าผู้ต้องหาจะต้องการมาไหว้ขอขมาหรือขอโทษกลุ่มญาติ ตนเองก็ยังไม่อยากให้มาและจะไม่ยอมรับ เพราะยังไม่มีใครทำใจได้ หลังเกิดเหตุยังทำอะไรไม่ถูก ได้แต่คิดเรื่องของพ่อแม่ หากผู้ต้องหาจะขอโทษหรือขออโหสิกรรม ก็คงไม่ยกโทษให้

ส่วนเรื่องคดีให้เจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินคดีให้ถึงที่สุด นอกจากนี้ยังอยากให้เจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินคดีกับหญิงที่นั่งมาด้วยเพราะมีลักษณะคล้ายคนเมา และมีพฤติการณ์ให้การช่วยเหลือผู้ต้องหา อาจเกิดขึ้นจากความตกใจกลัวแต่ทุกอย่างก็ทำให้พ่อกับแม่ของตัวเองเสียชีวิต

ลูกชายของผู้เสียชีวิต กล่าวว่า ประเด็นที่ตนเองยังติดใจคือเหตุใดเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงดำเนินการตรวจวัดแอลกอฮอล์ผู้ก่อเหตุช้า ตั้งแต่การนำเครื่องตรวจมาจากสถานี การใช้เครื่องไม่มีความชำนาญ และเครื่องเสีย ซึ่งทำให้รูปคดีเสียหาย

“รู้สึกโกรธมาก พ่อแม่ตายสองคน ตั้งแต่เมื่อคืนจนถึงตอนนี้ ยังไม่ได้รับคำขอโทษจากคนขับรถเลย มีแต่ผู้หญิงที่นั่งมาด้วย ขอโทษตอนลงจากรถเท่านั้น ไม่รู้ว่าเขาเต็มใจขอโทษหรือเปล่า เพราะดูจากท่าทีแล้ว น่าจะเมากันทั้งคู่ ซึ่งหากดื่มแล้วเมา ก็ไม่น่าจะขับรถ เพราะมันจะเกิดการสูญเสียแบบนี้ ทางกว้างขนาดนี้ ไม่น่าจะขับมาชนได้”

ส่วนที่อีกฝ่ายบอกว่า ดื่มเบียร์ไปแค่ขวดเดียวและหลับในนั้น ตนไม่เชื่อ เพราะเขามีอาการเมา เป่าแอลกอฮอล์ก็ยังขึ้นอยู่ เมื่อถามว่าถ้าหากคู่กรณีจะมาร่วมงาน “อย่ามาดีกว่า ตอนนี้ไม่อโหสิกรรมให้” สำหรับครอบครัวของตนปกติมี 4 คน คือ พ่อ แม่ ตน และน้องชาย ปกติแล้วพ่อและแม่จะเป็นผู้ดูแลค่าใช้จ่ายในบ้านส่วนน้องชายอาศัยอยู่ที่ต่างจังหวัด จากนี้ตัวเองต้องดูแลน้องชายต่อไป



รับชมทางยูทูบที่ : https://youtu.be/Lxq-I7Ys5oA

คุณอาจสนใจ

Related News