อาชญากรรม

คณะลิเกจบแล้ว! 'ทนายเดชา' เตือน 'คุณแม่' มีสติ ชี้หากหลักฐานฆาตกรรมมีจริง แม่ต้องเห็น

โดย thichaphat_d

16 มิ.ย. 2565

35 views

‘ทนายเดชา’ บอก คณะลิเก จบแล้ว หากมีหลักฐานฆาตกรรมต้องเอาให้แม่ดูแล้ว เตือนแม่แตงโม มีสติ


นายเดชา กิตติวิทยานันท์ อดีตทนายความของนางภนิดา ศิระยุทธโยธิน แม่ของคุณแตงโม ภัทรธิดา บอกถึงกรณีที่แม่ถอนการมอบอำนาจ นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม และนายอัจฉริยะ ออกมาแฉเหตุผลที่ถูกถอน ว่า เหมือนคณะตลก เดี๋ยวฟ้องเดี๋ยวไม่ฟ้อง ให้หนังสือมอบอำนาจไปก็ขอคืน มันเหมือนเป็นเด็กเล่น ดูแล้วเป็นเรื่องตลก  และตนเองมองมาตลอด ว่าวันนี้ต้องมาถึง ตั้งแต่แม่เท ทนายเดชาไป เพราะคณะนี้ไปด้วยกันไม่ได้ เหมือนเสือสองตัวมาอยู่ถ้ำเดียวกัน หิวแสงเหมือนกัน เสือจึงยืนอยู่ด้วยกันไม่ได้


ส่วนในทางคดี ทนายเดชา อธิบายว่า เมื่อมีหนังสือมอบอำนาจแล้วถูกต้อง ก็ถือว่า เป็นการฟ้องโดยชอบด้วยกฎหมาย ศาลรับสำเนาคำฟ้องไว้  ซึ่งไม่ใช่ประทับรับฟ้อง เหมือนที่อัจฉริยะบอกนะ เพราะคดียังไม่มีมูล ดังนั้นเมื่อแม่แตงโม จะขอหนังสือมอบอำนาจคืน ก็ยกเลิกได้เพิกถอนหนังสือมอบอำนาจได้ เพราะไม่ได้เป็นเอกสารสิทธิ์ เป็นแค่การยกเลิกหนังสือมอบอำนาจ คดีก็ยังอยู่ในศาล แต่ไม่ได้ถอนฟ้องเพราะถอนฟ้องไม่ได้ หากถอนฟ้องก็เท่ากับคนบนเรือพ้นผิด แม่ก็จะไม่ได้ค่าเสียหายเลย ทั้งนี้ทำได้เต็มที่คือการแก้คำฟ้อง


 ซึ่ง กรณีที่ส.ส.เต้ จะขอใช้คำฟ้อง แต่อัจฉริยะ ไม่ให้พยานหลักฐาน มองว่า ก็เป็นเรื่องของอัจฉริยะ เพราะหลักฐานเป็นของเขา แม่ก็คงต้องทำใจให้สบายๆ ร้องเพลงวีซิงค์ไป เพราะคงทำอะไรไม่ได้


และทนายเดชาบอกว่า ตนเองได้คุยกับแม่ บอกแม่ให้มีสติ ถ้ามีสติสตางค์ก็มา และหากเขาไม่ได้ฆ่าลูกเรา ก็ไม่ควรฟ้องฆาตกรรม เอาตามความเป็นจริง และบาปกรรมจะตกอยู่กับแม่ และแม่ก็ตอบกลับมาว่าจะตั้งสติ และไม่ชอบจองเวรจองกรรม


ทนายเดชายังบอกอีกว่า แม่เล่าให้ฟังว่า นายอัจฉริยะ ไม่มีพยานหลักฐาน แม่ขอดูก็ไม่ให้ดู แม่เลยไม่เชื่อว่าเป็นเรื่องฆาตกรรม หากฟ้องไป ก็ติดคุกคนเดียว ส.ส.เต้ถ้าหมดโปรแล้วจะไปเยี่ยมแม่รึเปล่า


ส่วนที่แม่ไปเชื่อ ส.ส.เต้ แทนการเชื่อ นายอัจฉริยะ มองว่า เพราะ ส.ส.เต้ เป็นคนคารมดี  ไปไหนมาไหนมีรถเบนซ์ไปรับ มีคนดูแล แม่ชอบคนพูดจาดี จึงเชื่อว่า แม่น่าจะเคลิ้ม 


ส่วนพยานหลักฐาน ไม่ได้มองหรอก เพราะไม่มี อย่างเรื่องมอมยา ก็ไม่มีหลักฐาน เท่าที่ตนเองรู้มาว่าจะฟ้องมอมยานั้น ก็จะใช้พยานหลักฐานจากหมอศัลยกรรม ที่ตำรวจไปปรึกษาไว้ และทราบว่า มีการอัดเสียง ผู้บังคับการนิติเวชไว้ด้วย รวมถึงจะนำพยานบอกเล่าอื่นๆ ไปนำสืบว่าทำร้ายร่างกายด้วยการมอมยา ซึ่งมองว่า แผนการพวกนี้ เป็นลักษณะการฟ้องไปก่อน แล้วก็จะมีเทคนิคในการไปขอเรียกสำนวนอัยการมา จากนั้นเมื่อมีข้อหาหนักอะไรก็จะเพิ่มข้อหาไปเรื่อย แต่หลักฐานไม่มีอะไรเลย


ส่วนกรณีที่ นายอัจฉริยะ บอกว่า มีหลักฐานที่จะเปิดในศาล ส่งให้ศาลนั้น นายเดชาบอกว่า เวลายื่นฟ้องไม่ต้องยื่นหลักฐานก่อน เขาเรียกว่า โกหกกลางวันแสกๆ เชื่อผมสิ ไม่มีหรอกหลักฐาน ถ้ามีทำไมไม่ให้คุณแม่ดู ทั้งที่แม่เป็นลูกความ ถ้าเป็นตนเองจะให้ดูแล้วจะเรียกเงินเพิ่มอีก และเชื่อตนเองสิไม่มี ให้ตำรวจไปค้นบ้านนายอัจฉริยะด็ได้ หรือเรียก มือถือมาดูก็ได้


 ส่วนกรณีบังแจ็ค ก็เหมือนคนออกลูกเป็นควาย ต้องคนกินหญ้าที่จะเชื่อบังแจ็ค เขาไม่เคยพูดเรื่องจริง และไม่ควรไปให้ราคามาก


ทนายเดชา ยังฝากถึง ทุกคนที่เกี่ยวข้องว่า คดีฆาตกรรมที่นายอัจฉริยะฟ้อง คนที่รับผิด คือแม่ ถ้าไม่มีหลักฐาน แม่ต้องถูกดำเนินคดีกลับ เพราะไม่ได้เป็นการฟ้องตามหลักฐาน ส่วนนาจอัจฉริยะ ก็ อาจจะโดนข้อหาสนับสนุนด้วยหรือไม่ และตนเองได้ข้อมูลมาว่า คนบนเรือจะรอดทั้งหมด และคณะตลก คนที่ไปฟ้อง จะโดนคดีเองทั้งหมด ส่วนจะไปแก้คำฟ้องจาก ฆาตกรรมเป็นทำร้ายร่างกายก็แก้ไม่ได้แล้ว


 และ กลุ่มคณะตลก หรือพวกหิวแสง สักพักก็แยกย้าย เพราะคดีพออยู่ในศาลวิจารณ์ไม่ได้แล้ว จบแล้ว วันนี้ลิเกเลิกแล้ว พวกหิวแสง นักการเมืองปัดเศษ ก็จบแล้ว พวกนี้ไม่มีอะไรแค่หาแสง ฝากประชาชนอย่าไปหลงเชื่ออะไรง่ายๆ ไม่มีหรอกหลักฐาน และเชื่อว่า ถ้ามีหลักฐานคงเปิดอีกที ในเรือนจำ ว่างๆช่วยบอกให้หยุดได้แล้ว แสงได้ไปเยอะแล้ว



รับชมผ่านยูทูปได้ที่ : https://youtu.be/r2kLoekGPqQ

คุณอาจสนใจ

Related News