อาชญากรรม

แถลงผลชันสูตรแตงโม รอบ 2 เคลียร์แล้วไม่มีผ่ารอบ 3 'ทนายเดชา' คาดคนบนเรืออาจโดนคดียกลำ

โดย thichaphat_d

1 เม.ย. 2565

1K views

กระทรวงยุติธรรม แถลงผลผ่าชันสูตรแตงโม รอบ 2 ส่วนใหญ่เหมือนรอบแรก ยันฟันไม่หัก กระดูกไม่แตก มีแผล 22 จุด ทนายเดชา ย้ำไม่ผ่ารอบ 3 ชี้ ผลที่ได้เป็นประโยชน์ต่อการแจ้งข้อหา เชื่อคนบนเรือโดนคดียกลำ หรืออาจกัน 1 คนไว้เป็นพยาน

เมื่อวันที่ 31 มีนาคม 2565 ว่าที่ร้อยตรี ธนกฤต จิตรอารีย์รัตน์ เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ได้เป็นตัวแทน ส่งมอบผลการชันสูตรศพคุณแตงโม นิดา รอบ 2 ให้กับ ทนายเดชา กิตติวิทยานันท์ ซึ่งเป็นตัวแทนของ คุณแม่ภนิดา ศิระยุทธโยธิน คุณแม่คุณแตงโม เพื่อนำผลไปพิจารณาว่า มีข้อแตกต่างจากการผ่าพิสูจน์ในรอบแรกอย่างไร และมีประโยชน์ต่อรูปคดีหรือไม่

ทั้งนี้ ข้อสงสัยที่มีการตรวจสอบ ประกอบด้วย

-ศีรษะ จากการผ่าพิสูจน์รอบแรก กับรอบสอง ไม่พบบาดแผลใดๆ  

-สภาพใบหน้าของศพ จากการตรวจสอบไม่พบบาดแผล เนื่องจากมีภาพการตรวจศพแตงโมวันแรก หลังจากพบร่าง ยืนยันว่า เกิดจากการเปลี่ยนแปลงของสภาพศพ ที่อาจเกิดจากอากาศ ความดัน

-ลำคอที่สวมสร้อยอยู่ มีภาพแรกที่ยังเจอสร้อยคอหย่อนๆ ตามปกติ แต่ภาพที่สงสัยว่าเป็นรอยรัด มีการตรวจเนื้อเยื่อไม่พบลักษณะการรัดคอ

-รอยไหม้ใต้คอ ที่มีการตั้งข้อสังเกต ก็ได้ตรวจแล้ว

-บาดแผลที่ขา ที่มีการรายงานผลแล้ว

-เล็บมือ ได้ตรวจซ้ำอีกครั้งว่ามีการต่อสู้หรือทำร้ายร่างกายหรือไม่

-แผ่นหลัง ไม่พบบาดแผล หรือร่องรอย

-หลอดลม ได้ทำการตรวจและรายงานผล

-อวัยวะเพศ ได้นำสารคัดหลั่งไปตรวจแล้ว

-เสื้อผ้าที่สวมใส่วันเสียชีวิต ในการตรวจรอบสอง ไม่ใช่ชุดเดียวกันกับที่สวมใส่ คือไม่ได้ตรวจบอดี้สูท และโครงสร้างกระดูกทั้งหมด มีการทำซีทีสแกน ไม่พบการแตกหัก บิ่น รวมถึง ฟัน ยังครบถ้วนสมบูรณ์

โดยสรุปคือ การตรวจสอบครั้งที่ 2 มีจุดที่แตกต่างจากการผ่าชันสูตรครั้งแรกประมาณ 4-5 ประเด็น คือ บาดแผลทั้งหมด 22 จุด / ภาพถ่ายศพในที่เกิดเหตุในวันแรก ที่มีการบันทึกไว้ / การผ่าชันสูตรรอบแรกสภาพศพ ยังไม่มีการฉีดฟอร์มาลีน ส่วนรอบสองฉีดแล้ว ทำให้บางอย่างตรวจไม่ได้ และเสื้อผ้าที่ถูกเปลี่ยนไป

ทางด้าน พ.ต.อ.ทรงศักดิ์ รักศักดิ์สกุล ผู้อำนวยการสถาบันนิติวิทยาศาสตร์  ยืนยันว่าการผ่าพิสูจน์รอบ 2 ถือเป็นประโยชน์ แต่มีข้อจำกัดเรื่องสภาพศพที่เปลี่ยนแปลง ซึ่งข้อมูลจะถือเป็นความลับ หลังจากนี้ทนายเดชา ได้รับไปแล้ว ดังนั้น การจะเปิดเผยข้อมูลนั้นอาจไม่ได้ทั้งหมด

ขณะที่ ผศ.นพ.วรวีร์ ไวยวุฒิ รองผู้อำนวยการสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ ในฐานะประธานกรรมการผ่าพิสูจน์ทางนิติวิทยาศาสตร์ กล่าวว่า ในการตรวจสอบครั้งแรก ถือว่ามีมาตรฐานที่ถือว่าทำให้ตอบคำถามเกือบทั้งหมด ในรอบสองเพียงเป็นการย้ำว่าข้อสงสัยในข้อแรกนั้นว่าใช่หรือไม่ใช่  สำหรับบาดแผลที่ขา ที่หลายคนสงสัย ยังตอบไม่ได้ว่าเกิดอย่างไร โดยเชื่อว่าตำรวจได้ไปจำลองการเกิดบาดแผลกับวัตถุต่างๆ อาจจะเป็นใบพัดเรือ หรืงวัตถุอื่น เพื่อเปรียบเทียบกับบาดแผล

ส่วนประเด็นที่มีการตรวจสอบแอลกอฮอล์นั้น ผศ.นพ.วรวีร์ อธิบายว่า ปกติแล้ว การขับแอลกอฮอล์ออกมา จะสามารถขับออกทางลมหายใจได้ แต่เมื่อเสียชีวิต ร่างกายจะไม่สามารถขับออกได้ ทำให้การตรวจสอบ จึงพบปริมาณแอลกอฮอล์ สำหรับยูเรีย ถือเป็นองค์ประกอบในปัสสาวะ หากมีน้ำปัสสาวะในแผ่นอนามัยก็จะตรวจเจอ แต่การตรวจไม่พบ อาจเป็นไปได้หลายปัจจัย ทั้งอาจจะไม่ได้ปัสสาวะ หรือแผ่นดังกล่าวแช่น้ำ ทำให้ยูเรียอาจจะถูกชะล้างไป

ด้านทนายเดชา กล่าวว่า หลังจากนี้ จะต้องนำเอกสารฉบับนี้ไปปรึกษากับตำรวจ ว่าจะมีข้อมูลใดเพิ่มเติมที่เป็นประโยชน์กับการแจ้งข้อหาใครเพิ่มหรือไม่ โดยเฉพาะประเด็นบาดแผล 22 จุด ซึ่งจะต้องปรึกษากับแพทย์ว่า บาดแผลที่พบนั้นสามารถเปลี่ยนแปลง นำไปสู่การแจ้งข้อหาจากประมาท เป็นเจตนาได้หรือไม่ และต้องไปดูว่าผลการชันสูตรในรอบ 2 จะมีข้อแตกต่างกับการชันสูตรรอบแรกในจุดใดบ้าง แต่ส่วนตัวมองว่ายังไม่พบการเปลี่ยนแปลงอย่างมีนัยยะ

สำหรับการตรวจสอบก็พบว่า การดำเนินการของสถาบันนิติเวช โรงพยาบาลตำรวจ ถือว่ามีมาตรฐานสากล ทุกอย่างเรียบร้อย แต่เรื่องบาดแผลอาจจะเรียกว่าเป็นสิ่งใหม่ ถือว่ามีประโยชน์ แต่ต้องดูให้ละเอียด เพราะสภาพศพถือเป็นพยาน ต้องไปดูว่ามีร่องรอยการทำร้ายหรือไม่ หากมีก็ต้องเทียบกับพยานแวดล้อม จีพีเอส เพื่อประกอบการแจ้งข้อหาเกี่ยวกับการเจตนาฆ่า ลำพังบาดแผลยังไม่สามารถบอกได้ว่าเกิดจากเจตนาหรือไม่

ทั้งนี้ มั่นใจว่าคงไม่มีการผ่าพิสูจน์ซ้ำรอยที่ 3 คดีนี้คงพอแค่นี้แล้ว ส่วนกรณีที่มีกระแสข่าวว่าตำรวจยื่นขอศาลออกหมายจับคนบนเรือเพิ่ม แล้วศาลยกคำร้องนั้นยืนยันว่าไม่เป็นจริง เพราะตำรวจคงไม่ทำอะไรให้หน้าแตก แต่เชื่อว่าเร็วๆ นี้ อาจจะมีการออกหมายจับ หรือแจ้งข้อกล่าวหา เพิ่มเติม


รับชมทางยูทูบที่ : https://youtu.be/lBm-kakGEiQ

คุณอาจสนใจ

Related News