อาชญากรรม
เปิดนาที 'หนุ่ม 18' มัดศพซ้อนท้ายทิ้งใต้ทางด่วน พี่สาวคนตายเล่าน้องเคยบอกเลิก ถูกขู่ไม่ให้ไปแบบเป็นๆ
โดย paweena_c
6 มิ.ย. 2567
377 views
เกิดเหตุสลด แฟนหนุ่มอายุ 18 ปี ฆ่าปาดคอแฟนสาวอายุ 18 ปี และยังตัดข้อมือทั้ง 2 ข้างแล้วเอาศพไปทิ้งใต้ทางด่วนบางพูน แล้วผู้ก่อเหตุได้พยายามจะกินยาฆ่าตัวตาย
จากเหตุการณ์สะเทือนขวัญ ที่นายธนากรณ์ หรือแซน อายุ 18 ปี ซึ่งเป็นนักศึกษามหาวิทยาลัยชั้นปีที่ 1 ก่อเหตุฆาตกรรม แฟนสาวคือนางสาววรัญญา หรือ หมิงหมิง อายุ 18 ปี และเรียนอยู่ที่เดียวกับนายแซน และนำศพไปทิ้งอำพราง ที่พงหญ้าใต้ทางด่วนบางพูน จังหวัดปทุมธานี
โดยพบว่าร่างของหมิงหมิงถูกห่อถึง 2 ชั้น โดยชั้นแรกถูกห่อด้วยผ้าปูเตียงสีเทา และมีการใช้เข็มขัด 3 เส้นรัดไว้ ที่คอ เอา และที่หัวเข่า โดยเข็มขัดที่รัดพบว่ามีตราสถาบันการศึกษาที่ผู้ตายเรียนอยู่
เมื่อแกะผ้าปูที่นอนสีเทาออก พบร่างของผู้ตาย ถูกห่อด้วยผ้าขนหนูสีชมพูเป็นชั้นที่ 2 ศพอยู่ในสภาพเปลือย อยู่ในสภาพเปลือย ข้อมือทั้ง 2 ข้างถูกตัดขาดโดยที่ไม่พบข้อมือว่าหายไปไหน ที่คอถูกปาดด้วยของมีคมจนเกือบขาด ที่ดัมเบลน้ำหนัก 3 กิโลกรัมหนีบไว้ที่รักแร้ซ้าย และมีลูกตุ้มน้ำหนัก 2 กิโลกรัมวางอยู่ที่ขา
ขณะที่จากการตรวจสอบกล้องวงจรปิดพบว่าผู้ก่อเหตุ ได้ขี่มอเตอร์ไซด์ออกจากบ้านซึ่งอยู่ที่หมู่บ้านหรูแห่งหนึ่ง ไม่ไกลจากจุดที่เจอศพ โดยพบว่ามีการนำร่างของผู้ตายวางพาดไว้ที่เบาะด้านหลัง โดยกล้องวงจรปิดตอน 05.30 น. จะเห็นผู้ก่อเหตุ ขี่มอเตอร์ไซด์เข้าไปที่หลังวัดบางพูน
และวงจรปิดภายในซอยก็จับภาพผู้ก่อเหตุ ขี่มอเตอร์ไซด์ต่อเนื่อง มุ่งหน้าไปที่ใต้ทางด่วนบางพูน ซึ่งจากภาพจะเห็นว่าในเวลานั้น ผู้ก่อเหตุได้ขี่มอเตอร์ไซด์เหมือนกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น ทั้งที่ในเวลานั้นคนร้ายขี่มอเตอร์ไซด์โดยมีศพอยู่ และยังขี่สวนกับรถคันอื่นและมีมอเตอร์ไซด์คันอื่นขับตามหลัง
จนเวลา 05.35 น. คนร้ายขี่มอเตอร์ไซด์ผ่านอู่รถยนต์ ซึ่งอยู่ห่างจากจุดทิ้งศพประมาณไม่ถึง 20 เมตร และนำศพไปทิ้ง
โดยเจ้าของอู่ซ่อมรถ และเป็นคนที่เห็นผู้ก่อเหตุนำศพมาทิ้งเปิดเผยว่า ขณะนั้นตนนอนอยู่ในรถ ช่วงเวลาประมาณ 05.40 น. เห็นผู้ก่อเหตุนำของมาทิ้งที่พงหญ้า จากนั้นได้ขี่มอเตอร์ไซด์ออกไป
จากนั้นผู้ก่อเหตุได้ย้อนกลับมาอีกรอบ และเอาถังขยะมาทิ้งขยะไปเทเหมือนจะอำพรางอะไรบางอย่างซึ่งตอนนั้นตนเห็นเหตุการณ์ตลอดแต่ยังไม่รู้ว่าผู้ก่อเหตุเอาอะไรมาทิ้ง
ต่อมาผู้ก่อเหตุย้อนมาอีกรอบตนเลยเข้าไปถามว่าเอาอะไรมาทิ้งให้เก็บไปเลย ผู้ก่อเหตุตอบว่า "เอาของรักมาทิ้ง" ตนรู้สึกเอะใจเลยเอามือถือมาถ่ายรูปผู้ก่อเหตุไว้
ต่อมาตอนช่วงเวลา 08.30 น. ตนจะไปเก็บขยะและเมื่อไปดูจุดที่ผู้ก่อเหตุเอาของมาทิ้งเห็นขาคนโผล่ออกมา จึงบอกให้ภรรยาโทรศัพท์แจ้งตำรวจ
ต่อมาตำรวจได้ดูรูปผู้ก่อเหตุที่เจ้าของอู่ถ่ายไว้ได้ และทำการไล่กล้องวงจรปิดย้อนเส้นทางที่คนร้ายขี่มอเตอร์ไซด์มา พบว่าผู้ก่อเหตุอยู่ที่หมู่บ้านหรูแห่งหนึ่งซึ่งอยู่ไม่ไกลจากจุดทิ้งศพ จึงเข้าไปตรวจสอบ โดยที่หน้าหมู่บ้านพบรอยหยดเลือด
ซึ่งเป็นเวลาเดียวกันกับพ่อและแม่ของผู้ก่อเหตุ ได้เดินทางมาหาผู้ก่อเหตุที่บ้านเพราะก่อนหน้านี้ผู้ก่อเหตุได้โทรศัพท์และส่งไลน์มาหาภรรยาบอกว่า ขอโทษทุกสิ่งทุกอย่าง
โดยเมื่อไปถึงตำรวจได้ยินเสียงแม่ของผู้ก่อเหตุตะโกนขอความช่วยเหลือบอกว่าลูกกินยาฆ่าตัวตาย ให้ช่วยนำตัวไปส่งโรงพยาบาล ตำรวจจึงได้ช่วยกันนำตัวผู้ก่อเหตุลงมาจากห้องนอนชั้น 2 และนำตัวส่งโรงพยาบาลเซนต์คาลอส
ทั้งนี้จากการตรวจสอบภายห้องน้ำพบรอยเลือด และยาประจำตัวของผู้ก่อเหตุซึ่งเป็นยาเกี่ยวกับการรักษาทางจิตเวชจำนวนมาก ส่วนในห้องน้ำพบคราบเลือด พบเขียง และมีดปังตอ แต่ยังไม่พบข้อมือทั้ง 2 ข้างของผู้ตาย ซึ่งสันนิษฐานว่าผู้ก่อเหตุอาจทิ้งไปในชักโครกเพื่อทำลายหลักฐาน
ขณะที่พ่อของผู้ก่อเหตุบอกว่า บ้านหลังนี้จะอยู่กัน 4 คน คือลูกชาย ผู้ตาย พี่ชาย และพี่สะใภ้ ส่วนตนกับภรรยาจะอยู่ที่บ้านอีกหลังหนึ่ง วันเกิดเหตุรู้ว่าลูกชายทะเลาะกับผู้ตายตอนช่วงประมาณ ตี 2 ซึ่งลูกชายคนโตได้ไปเคาะที่ห้องลูกชายคนเล็กเพื่อจะสอบถามว่าเกิดอะไรขึ้นแต่เสียงเงียบไป
จนกระทั่งภรรยาได้รับข้อความจากลูกชายคนเล็ก จึงบอกให้ลูกชายคนโตไปดูว่าเกิดอะไรขึ้น แต่เมื่อไปถึงก็ไม่พบตัวลูกชายคนเล็กกับแฟนสาวแล้ว ตนจึงรีบมาหาลูกชายที่บ้านก็พบลูกชายอยู่ในห้องนอนในสภาพเปลือย และมีการกินยาไปประมาณ 20 เม็ด และจากนั้นตำรวจก็มาถึงที่บ้าน ทั้งนี้ลูกของตนมีการป่วยทางจิตและยังรักษาอย่างต่อเนื่อง
ขณะที่แพทย์ที่ทำการชันสูตรร่างของน้องหมิงหมิง ระบุเบื้องต้นว่าผู้ตายมีรอยช้ำใต้ศีรษะหลายแห่ง ที่คิ้วมีรอยช้ำ น่าจะมีการต่อสู้บ้างแต่ไม่ทำให้สมองบาดเจ็บหรือมีเลือดออก แผลที่ถูกแทงที่ลำคอไม่ถูกเส้นเลือดใหญ่แต่ทำให้หมดสติ
โดยลักษณะบาดแผลที่ลำคอเป็นการปาดเหมือนจะตัดคอเพราะหลอดลมถูกตัดขาด ที่ปอดมีเลือดน่าจะเกิดจากการสำลักเลือดเข้าไป
ทั้งนี้ทีมแพทย์ยังตั้งข้อสังเกตว่าจากบาดแผลที่ลำคอ อาจไม่ได้เกิดจากมีดปังตอเพียงอย่างเดียวเพราะหากเป็นมีดปังตอบาดแผลต้องมีรอยแยก รวมถึงมีการใช้ยาทำให้ผู้ตายหมดสติก่อนก่อเหตุหรือไม่ เพราะร่องรอยบาดแผลหากจะมีการต่อสู้ขัดขืนมันน้อยเกินไป ซึ่งผลการชันสูตรอย่างละเอียดจะใช้เวลาประมาณ 48 ชั่วโมง
ขณะที่พี่สาวของผู้เสียชีวิตเปิดเผยว่า น้องสาวเป็นแฟนกับผู้ก่อเหตุตั้งแต่เรียนมัธยมปลายด้วยกัน และทั้งคู่ก็ทำงานพิเศษด้วยกัน คือขายนมเปรี้ยว และทำงานร้านสะดวกซื้อ
โดยเมื่อ 3 เดือนที่แล้วน้องสาวจะขอเลิกกับผู้ก่อเหตุแต่ฝ่ายชายไม่ยอมเลิก และได้มัดมือมัดเท้าน้องสาวไว้ แต่ก็ไม่มีอะไรรุนแรงมากกว่านี้ และสุดท้ายก็คืนดีกัน ก่อนหน้านี้ครอบครัวอยากให้น้องสาวเลิกกับผู้ก่อเหตุแต่ก็ทำอะไรไม่ได้เพราะทั้งสองคนรักกัน จนสุดท้ายก็มาเกิดเหตุสลดขึ้น
รับชมทางยูทูบที่ : https://youtu.be/huFllgTFpwA