อาชญากรรม

ย้อนคำพูด ‘เมียเสี่ยต้น’ อ้างไม่รู้จักมือลอบยิงผัว คนก่อเหตุสารภาพได้ค่าจ้าง 3 แสน

โดย paweena_c

3 มิ.ย. 2567

298 views

ย้อนคำพูด “เจ๊มด” เมียเสี่ยต้น เคยมาออกรายการโหนกระแส อ้างไม่รู้จักมือลอบยิง “เสี่ยต้น” ด้านคนก่อเหตุสารภาพได้ค่าจ้างวานฆ่า 3 แสนบาท 


ความคืบหน้ากรณีนาย พิชิต กลีบจินดา หรือ เสี่ยต้น เจ้าของธุรกิจสอนนวดแผนไทย โดนลอบยิงเมื่อวันที่ 8 เมษายนที่ผ่านมา ริมถนนเลียบทางด่วนรามอินทราแต่รอดไปได้ ก่อนจะไปนอนเสียชีวิตปริศนาที่บ้านภรรยาในจังหวัดมหาสารคาม เมื่อช่วงเทศกาลสงกรานต์ ล่าสุดตำรวจบุกจับ มดภรรยาเสี่ยต้น พร้อมทีมลอบยิงได้แล้ว หลังมีพยานหลักฐานชัดว่าจ้างยิงสามีตัวเอง

คดีนี้ต้องย้อนกลับไปคืนวันที่ 8 เมษายนที่ผ่านมา วันนั้นนาย พิชิต กลีบจินดา หรือเสี่ยต้น อายุ 44 ปี เจ้าของธุรกิจสอนนวดแผนไทย มีนัดกินข้าวกับ มด ภรรยา และลูกที่ร้านอาหารแห่งหนึ่งแถวถนนเลียบทางด่วนรามอินทรา ก่อนจะแยกย้ายกันราว 4 ทุ่ม เธอพาลูกกลับไปที่คอนโดย่านรามคำแหง ส่วนเสี่ยต้นไปดื่มต่อที่โรงเหล้าแสงจันทร์ เลียบทางด่วนรามอินทรา

ตำรวจไล่กล้องวงจรปิดตามหามือปืน พบว่า 4 ทุ่ม 4 นาที วันที่ 8 เมษายน คนร้าย 2 คน ได้ขี่รถมอเตอร์ไซค์ ออกมาจากซอยรามอินทรา 62 ก่อนเลี้ยวซ้ายไปถนนรามอินทรา มุ่งหน้าเลียบทางด่วนรามอินทรา

จากนั้น 5 ทุ่ม 23 นาที คนร้ายไปเติมน้ำมันที่ปั๊มน้ำมันแห่งหนึ่ง ซึ่งคนขี่มอเตอร์ไซต์ใส่เสื้อไรเดอร์สีส้ม สวมหมวกกันน็อคเต็มใบ ส่วนคนซ้อน คือ มือปืน สวมเสื้อคลุมเเขนยาวสีดำ แต่ไม่ได้สวมหมวกกันน็อคปิดบังใบหน้าตั้งแต่ต้นทาง นอกจากนี้ยังพบว่า มือปืนมีการถือโทรศัพท์ในลักษณะติดต่อกับใครอยู่ตลอดเวลา

กล้องวงจรปิดที่สถานบันเทิงเลียบด่วนรามอินทรา บันทึกภาพตอน 4 ทุ่ม 32 นาที ซึ่ง จริงๆ เป็นเวลา 5 ทุ่ม 32 เนื่องจากกล้องช้ากว่าเวลาจริง 1 ชั่วโมง จับภาพขณะเสี่ยต้นในชุดเสื้อโปโลแขนสั้น กางเกงขาสั้น เดินออกจากสถานบันเทิง ไปขึ้นรถตู้อัลพาร์ทสีดำ ก่อนจะขับออกไปถนนประดิษฐ์มนูญธรรม ซึ่งตอนนั้นเจ้าตัวไม่มีท่าทีระแวงว่าจะโดนลอบทำร้าย และพอขับออกไปได้ไม่ถึง 1 นาที จากนั้น 5 ทุ่ม 33 นาที คนร้ายขี่มอเตอร์ไซต์ตามไปประกบยิงรถตู้อัลพาร์ทสีดำของเสี่ยต้น ซึ่งขณะนั้นกำลังขี่เข้าช่องทางด่วน ถึง 4 นัด กระสุนเข้าที่กระจังหน้ารถ 1 นัด ประคูฝั่งซ้าย 2 นัด และกระจกซ้าย 1 นัด ก่อนที่คนร้ายจะหลบหนีไป

หลังก่อเหตุ กล้องวงจรปิดจับภาพได้อีกทีตอน 5 ทุ่ม 50 นาที คนร้าย 2 คน ได้ขี่รถมอเตอร์ไซค์ย้อนศร มาบนถนนรามอินทรา ก่อนเลี้ยวขวากลับเข้าไปในซอยรามอินทรา 62 ซึ่งหลังก่อเหตุสังเกตเห็นว่า คนร้ายที่เป็นคนขับ ได้ถอดเสื้อคลุมสีส้มที่เป็นเสื้อไรเดอร์ออก แต่ยังใส่หมวกกันน็อคเต็มใบเช่นเดิม ส่วนมือปืน ก็ได้ถอดเสื้อคลุมสีดำออก เพื่อเป็นการอำพรางตัวขณะหลบหนี

ซึ่งเป็น 1 ในเบาะแสสำคัญที่ตำรวจมี จนทราบว่าทีมฆ่าลอบยิงเสี่ยต้นมี 4 คนและออกหมายจับได้เมื่อวานนี้ (2มิ.ย.67) ประกอบด้วย นาย ณัฐพล ศิริโนนรัง อายุ 25 ปี มือปืน  นาย วีรภัทร สุคนธทรัพย์ คนขี่มอเตอร์ไซต์  นาย สาโรจน์ เสือสุวรรณ อายุ 25 ปี จัดหาอาวุธปืน  และน.ส.วรรณิภา หรือมด อายุ 37 ปี ภรรยาของเสี่ยต้น ผู้จ้างวาน

ทีมลอบยิง 3 คน ถูกออกหมายจับในข้อร่วมกันพยายามฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน ร่วมกันมีอาวุธปืนไว้ในครอบครองโดยไม่รับอนุญาต และร่วมกันพกพาอาวุธปืนไปในที่สาธารณะโดยไม่มีเหตุอันควร ส่วนมด ภรรยาเสี่ยต้น ถูกออกหมายจับในข้อหาเป็นผู้ใช้จ้างวานให้ผู้อื่นทำความผิด และร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน

เมื่อเช้าที่ผ่านมาบุกจับ มด ภรรยาเสี่ยต้นที่ห้องพักที่คอนโดย่านรามคำแหง พร้อมแสดงหมายจับให้เธอดู ซึ่งจะเห็นว่า เธอหน้าซีดและตกใจกับหมายจับครั้งนี้ ซึ่งตอนที่ตำรวจเข้าจับ "มด" ลูกสาวก็อยู่ในห้องด้วย

จากนั้นคุมตัว "มด" ไปที่กองกำกับการสืบสวนสอบสวนตำรวจนครบาล 4 เพื่อลงบันทึกจับกุม โดยมี "ส้ม" น้องสาวของมดติดตามมาด้วย ซึ่งทีมข่าวสังเกตว่า "ส้ม" มีสีหน้าเคร่งเครียดและเศร้า เมื่อนักข่าวเข้าไปถามเจ้าตัวระบุว่า ไม่สะดวกให้สัมภาษณ์ และยังไม่รู้กระบวนการของพี่สาว ตอนนี้กำลังรอทนายความอยู่ จากนั้นราว 10 โมงทนายความก็เดินทางมาถึง แล้วเข้าไปด้านในทันที โดยไม่ได้เปิดเผยอะไรกับนักข่าว

ขณะที่ชุดจับอีกชุดบุกจับนาย สาโรจน์ ถูกจับได้ที่บ้านพักย่านรามอินทรา 62 พร้อมยึดปืนได้อีก 2 กระบอก มีหนึ่งกระบอกในห้อง อีกกระบอกโยนทิ้งบ่อน้ำหลังบ้าน ตำรวจให้เจ้าตัวไปงมจนได้มา ส่วนตำรวจอีกชุดเข้าจับนาย วีรภัทร คนขี่รถมอเตอร์ไซต์ได้ที่ห้องพักย่านลาดพร้าว 101 และยึดหมวกกันน็อคที่ใส่ในวันเกิดเหตุมาเป็นหลักฐานด้วย

และเมื่อช่วง 10 โมงที่ผ่านมา ตำรวจคุมตัวนายสาโรจน์มาที่ศูนย์สืบฯ นครบาลแล้ว ซึ่งนาย สาโรจน์ สวมหมวกและหน้ากากอนามัยปิดปกคลุมใบหน้าอย่างมิดชิด ผู้สื่อข่าวได้พยายามสอบถามถึงข้อเท็จจริงเกี่ยวกับคดีที่เกิดขึ้น รวมทั้งประเด็นการจ้างวานและการก่อเหตุ แต่ปรากฏว่า นายสาโรจน์ไม่ตอบคำถามใด ๆ กับผู้สื่อข่าว บอกเพียงแค่ว่า "ขอทางหน่อยครับ ผมจะเดิน"

ส่วนนายณัฐพล มือปืน ขณะนี้อยู่ระหว่างหลบหนีการจับกุม มีเบาะแสว่าอยู่ในพื้นที่ภาคตะวันออก เท่ากับว่าตอนนี้ 4 หมายจับ สามารถจับได้แล้ว 3 คน

ทั้งนี้คุณมด และทนายความ เคยมาออกรายการโหนกระแส โดยเปิดเผยว่าเสี่ยต้นหากเวลาเมาสุราแล้วจะมีพฤติกรรมรุนแรง และโมโหร้าย ทำให้ต้องแยกมาอยู่บ้านแม่ที่จังหวัดมหาสารคาม และได้ปรึกษาคุณหมอแล้วคุณหมอได้แนะนำให้เธอแยกกันอยู่กับสามี

นอกจากนี้ในรายการโหนกระแส คุณแคนยังให้คุณมดดูภาพ ซึ่งขณะนั้นยังเป็นผู้ต้องสงสัย 2 คน คือมือยิง และคนขี่มอเตอร์ไซด์ ที่ยิงเสี่ยต้น โดยตอนนั้นคุณมด ยืนยันว่าไม่คุ้นหน้า และไม่รู้จักทั้ง 2 คน

พลตำรวจตรี นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล เปิดเผยว่า นายสาโรจน์และนายวีรภัทรรับสารภาพว่า อยู่ร่วมขบวนการพยายามลอบสังหารเสี่ยต้นจริง โดยได้รับเงินค่าจ้างจาก "มด" ภรรยาเสี่ยต้นเป็นเงิน 3 แสนบาท แบ่งเป็น เงินโอนให้แก่มือปืนจำนวน 45,000 บาท โอนเงินเป็นค่าจ้างวานจัดหาอาวุธให้แก่นายสาโรจน์อีก 33,000 บาท และที่เหลือเป็นเงินสด

ส่วน มด ยังคงให้การภาคเสธ อ้างว่าเป็นปมความขัดแย้งเรื่องภายในครอบครัวกับเสี่ยต้น ทั้งเรื่องหึงหวงและการทำร้ายร่างกายกัน ซึ่งมูลเหตุจูงใจนั้น นอกจากเรื่องความขัดแย้งแล้ว ยังมีเรื่องผลประโยชน์ที่ภรรยาเสี่ยต้นจะได้รับหลังจากการเสียชีวิตของเสี่ยต้นด้วย

จากการสอบสวนพบว่า ภรรยาเสี่ยต้นเริ่มต้นวางแผน ตั้งแต่เดือนมีนาคมหลังจากมีปากเสียงกับเสี่ยต้น ก่อนจะเริ่มว่าจ้างให้มือปืนรับงานตั้งแต่ช่วงปลายเดือนมีนาคมที่ผ่านมา ต่อมาวันที่ 1 เมษายน ได้ลงมาที่กรุงเทพเพื่อนัดพบกับนายสาโรจน์ ผู้รับงาน ซึ่งเป็นการพูดคุยวางแผนและชี้เป้าหมายตัวเสี่ยต้น ก่อนที่ต่อมาวันที่ 8 เมษายน ภรรยาเสี่ยต้นได้นัดหมายให้เสี่ยต้นออกมาพบที่ร้านเหล้าแสงจันทร์ รามอินทรา เพื่อส่งพิกัดชี้เป้าให้กลุ่มมือปืนสะกดรอยตามและก่อเหตุยิงในคืนเดียวกัน ส่วนการหามือปืนภรรยาเสี่ยต้นค้นหาผ่านแอปพลิเคชั่นหนึ่ง ทั้งนี้การที่เสี่ยต้นถูกลอบยิง และการเสียชีวิตที่มหาสารคาม พบว่ามีความเชื่อมโยงกัน



ชมผ่าน YouTube ได้ที่นี่ : https://youtu.be/G068Vs655yk

คุณอาจสนใจ

Related News