อาชญากรรม
ญาติติดใจ! 'จ่าคลั่ง' ถูกตั้งข้อหาเบา ทั้งที่ฆ่าผู้บริสุทธิ์ ซ้ำถามข้อมูลคนก่อเหตุ ตร.ตอบแค่ ไม่รู้ๆ
โดย paweena_c
26 ก.พ. 2567
65 views
ตำรวจคลั่งไล่แทงชาวบ้านหน้าแฟลตเสียชีวิต 1 สาหัส 1 ตรวจไม่พบสารเสพติด แต่พบประวัติป่วยจิตเวช ก่อนก่อเหตุดื่มเหล้าจนเมา และมีอาการคุ้มคลั่งอาละวาด วันคุมตัวฝากขัง ญาติผู้ตายรุกฮือล้อมรถตำรวจหวิดรุมประชาทัณฑ์ คาใจคดี แทงยับนับสิบแผล แต่ตั้งข้อหาเบาทำร้ายร่างกาย
จากกรณี สิบตำรวจเอก ชวนิล จินดามณีมาศ หรือจ่าอาร์ม ผู้บังคับจ่างานป้องกันปราบปราม สภ.ชะอวด จังหวัดนครศรีธรรมราช มีอาการคุ้มคลั่งก่อนก่อเหตุใช้มีดปลายแหลม จ้วงแทงชาวบ้านที่สัญจรผ่านไปมาจนเสียชีวิต 1 รายและบาดเจ็บสาหัสอีก 1 ราย บริเวณถนนหน้าศูนย์การศึกษานอกโรงเรียนอำเภอชะอวด ซึ่งอยู่ห่างจากโรงพักประมาณ 400 เมตร
หลังก่อเหตุสามารถคุมตัว จ่าอาร์ม ผู้ก่อเหตุไว้ได้แต่ยังไม่สามารถสอบปากคำได้ในขณะนั้นเนื่องจากผู้ก่อเหตุพูดจา วกวน ให้การไม่รู้เรื่อง และยังอยู่ในอารมณ์ฉุนเฉียว เจ้าหน้าที่จึงคุมตัวไปสงบสติอารมณ์ ที่โรงพักก่อนสอบปากคำต่อ
ขณะที่ผู้เสียชีวิตและผู้บาดเจ็บเป็นญาติกันขี่รถจักรยานยนต์ซ้อนท้ายมาด้วย จอดติดไฟแดงอยู่บริเวณสี่แยกไม่รู้อิโนอิเหน่ จู่ๆก็ถูกผู้ก่อเหตุมาจ้วงแทงหลายสิบแผล
โดยผู้ตายมีรอยถูกแทงทั้งที่ใบหน้าและลำคอ เสียชีวิตในที่เกิดเหตุ ทราบชื่อต่อมาคือนางสาววิจิตรา อายุ 51 ปี ส่วนผู้บาดเจ็บ มีรอยถูกแทงเข้าที่สะบักซ้าย 1 แผล อาการสาหัสเจ้าหน้าที่รีบนำตัวส่งโรงพยาบาล ทราบชื่อต่อมาคือนางสาวประภาอายุ 69 ปี เป็นญาติพี่น้องกับผู้ตาย
โดยวันรุ่งขึ้นหลังจากเจ้าหน้าที่สอบปากคำจ่าอาร์มเสร็จ ระหว่างนำตัวไปฝากขังต่อศาล ญาติของผู้ตายได้บุกมาเรียกร้องขอความเป็นธรรมที่โรงพักและอยากเห็นหน้าผู้ก่อเหตุ พร้อมทั้งแสดงความไม่พอใจที่ตำรวจมีการตั้งข้อหาเพียงทำร้ายร่างกายให้ผู้อื่นได้รับบาดเจ็บสาหัสและเสียชีวิต จึงพากันล้อมรถตำรวจ และพยายามเคาะกระจกถามผู้ต้องหาว่า ฆ่าพี่กูทำไม
จากจุดแรกหน้าโรงพัก ตำรวจไม่ยอมเปิดกระจกให้ญาติผู้เสียชีวิตได้ซักถาม และขับรถออกจากโรงพักไปที่โรงพยาบาล เพื่อนำตัวผู้ต้องหาไปตรวจร่างกายหาสารเสพติด ญาติผู้เสียชีวิตก็ยังไม่ลดละความพยายาม ขับรถตามไปที่โรงพยาบาลอีกรอบ ระหว่างที่คุมตัวจ่าอาร์มขึ้นรถ และจะขับออกจากโรงพยาบาล ญาติผู้เสียชีวิตตัดสินใจกระโดดเกาะท้ายกระบะรถตำรวจออกไปด้วย
เหตุการณ์ยังไม่จบ ญาติผู้เสียชีวิตขับรถตามรถตำรวจไปอีกกว่า 500 เมตร ก่อนจะยอมจอดรถและเปิดกระจก ให้ญาติผู้เสียชีวิตได้ซักถามตัวผู้ก่อเหตุเล็กน้อย แต่จ่าอาร์ม ไม่ยอมตอบใดๆซักคำ จากนั้นตำรวจต้องช่วยกันดันตัวญาติผู้เสียชีวิต ที่ยืนขวางหน้ารถตำรวจอยู่ แล้วบอกว่าอย่าขัดขวางเจ้าหน้าที่ไม่งั้นจะมีความผิด ก่อนจะขับรถออกไปพาผู้ต้องหาไปฝากขังต่อศาล
จากการสอบถาม คุณแหม่ม อายุ 49 ปี น้องสาวผู้เสียชีวิต (ลูกพี่ลูกน้อง) กล่าวด้วยความคับแค้นใจ หลังพี่สาวผู้บริสุทธิ์ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจกระหน่ำแทง ว่า ตอนนี้ทางครอบครัวกลัวว่าจะไม่ได้รับความเป็นธรรม เกรงว่าพี่สาวจะตายฟรี เพราะความยุติธรรมไม่มีอยู่จริง ยิ่งผู้ก่อเหตุเป็นตำรวจด้วยยิ่งน่ากลัว อ้างป่วยจิตเวช แต่ยังมาปฏิบัติหน้าที่ ทำไมไม่คลั่งแทงตำรวจโรงพักเดียวกัน ทำไมต้องมาฆ่าชาวบ้านผู้บริสุทธิ์
ขณะที่เกิดเหตุ เธอถาม ยังถามตำรวจ สภ.ชะอวด ว่าผู้ก่อเหตุชื่ออะไร อยู่โรงพักไหน ตำรวจบอกว่าไม่รู้จักชื่อ และไม่รู้ว่าโรงพักไหน แบบนี้จะให้เชื่อใจในการทำงานของตำรวจได้อย่างไร จนกระทั่งญาติได้ไปที่ สภ.ชะอวด เพื่อติดตามว่าตำรวจจับตำรวจที่ก่อเหตุมาจริงหรือไม่
และการจับผู้ก่อเหตุมา ก็ไม่มีการตรวจวัดแอลกอฮอล์ หรือตรวจสารเสพติด เพิ่งจะตรวจตอนที่ญาติทวงถาม ซึ่งปริมาณแอลกอฮอล์ที่ตรวจวัดได้ 49 มิลลิกรัมเปอร์เซ็น ต่ำกว่าเกณฑ์เพียง 1% แล้วตรวจหาสารเสพติดก็ไม่พบ แต่อ้างว่ามีประวัติด้านจิตเวช
ส่วนการตั้งข้อหา ล่าสุดหลังเป็นข่าวตำรวจชั้นผู้ใหญ่ เพิ่งมาสั่งให้ตั้งข้อหาพยายามฆ่า ทั้งที่ก่อนหน้านี้ตั้งข้อหาเพียงทำร้ายร่างกายเป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับบาดเจ็บสาหัสและถึงแก่ความตาย ซึ่งทำให้เธอและญาติรู้สึกคาใจการทำคดีของตำรวจ ทำไมเพิ่งมาเปลี่ยนข้อหา ถ้ามีความยุติธรรมจริงควรตั้งข้อหาหนักตั้งแต่แรก และแม้ว่าตอนนี้จะถูกจับกุมไปแล้วแต่หลังจากนี้ จะมีการช่วยเหลืออะไรกันอีกหรือไม่
ขณะเดียวกัน ทีมข่าวเที่ยงวัน ทันเหตุการณ์ ได้ภาพจากกล้องวงจรปิดเวลา 18:14 น. จับภาพ จ่าอาร์ม ผู้ก่อเหตุ โทรฯแจ้งให้รถยกมาลากรถของตนเองกลับแฟลตตำรวจ หลังจากไปดื่มจนเมาและขับรถตกคูน้ำ ขับรถกลับไม่ไหว ซึ่งเป็นช่วงเวลาก่อนเกิดเหตุไม่นาน ซึ่งข้อมูลจาก คนขับรถยกบอกว่าจ่าอาร์มโทรศัพท์คุยกับญาติที่บ้านตลอดทาง แล้วพอมาถึงที่เกิดเหตุ จ่าอาร์ม ลงจากรถและบอกว่า จะไปดื่มต่อ
คนขับรถยกจึงหันไปบอกด้วยความเป็นห่วงว่า "พี่เมาแล้วพอเถอะ กลับไปพัก" จ่าอาร์ม หันควับมามองด้วยสายตาและอารมณ์โกรธ
จากนั้นล้วงมีดในกระเป๋ากางเกงขึ้นมาปรี่เข้าจะแทงที่คนขับรถยก แต่โชคดีที่คนขับรถยกวิ่งหนีได้ทัน จากนั้นจ่าอาร์ม ก็เดินไปที่สี่แยกและลงมือก่อเหตุ
ซึ่งกล้องวงจรปิดบริเวณนั้น มุมกล้องไม่เห็นภาพขณะที่เกิดเหตุ แต่จะได้ยินเสียงจ่าอาร์ม ตะโกนเสียงดังโวยวาย ก่อนลงมือก่อเหตุแทงชาวบ้าน