ย้อนไทม์ไลน์เหตุกราดยิง #พารากอน ตร.ควบคุมเหตุการณ์ได้ใน 1 ชม. เจ็บ 5 เสียชีวิต 2

ย้อนไทม์ไลน์เหตุกราดยิงในพารากอน ตำรวจใช้เวลาเพียง 1 ชม.ก็สามารถควบคุมสถานการณ์เอาไว้ได้ ผู้ก่อเหตุเป็นเด็กชายวัย 14 มีผู้บาดเจ็บ 5 คน และเสียชีวิต 2 คนเป็นชาวต่างชาติทั้งคู่

คนที่มาใช้บริการในห้างสรรพสินค้าสยามพารากอนช่วงประมาณ 16.00 น. ถ่ายคลิปเหตุการณ์ขณะที่มีเสียงปืนดังขึ้นต่อเนื่อง 4-5 นัด และบอกว่ามีการยิงกัน จากนั้นคลิปก็ตัดไป ทำให้บรรยากาศภายในห้างเต็มไปด้วยความวุ่นวาย ต่างคนต่างหนีตาย ขณะนั้นยังไม่มีใครทราบรายละเอียดชัดเจนว่าเกิดอะไรขึ้น รู้เพียงมีเสียงปืนดังขึ้นมา และยังไม่ทราบจุดเกิดเหตุที่ชัดเจน

ขณะที่คลิปภาพจากคนที่อยู่ในห้างและบริเวณโดยรอบถูกแชร์ออกไปทางโซเชียลมีเดียหลายช่องทางเพื่อเตือนภัยว่าเกิดเหตุกราดยิงภายในห้าง จากนั้นไม่นานมีการปล่อยภาพคนร้าย เป็นชาย ผมยาว รูปร่างสัดทัด สวมกางเกงคาร์โก้สีครีม สวมเสื้อยืดสีดำ สวมหมวกแก็บ รองเท้าบูธหุ้มข้อ สวมถุงมือ และในมือถือปืนสั้นแบบออโตเมติก

ราว 16.30 น. ข้อมูลที่ออกมาชัดเจนที่สุดคือ จุดเริ่มต้นของเหตุการณ์เกิดที่ชั้น M หน้าช็อปหลุยส์วิคตอง และบริเวณห้องน้ำ เป็นเหตุการณ์ต่อเนื่องกัน จากนั้นคนร้ายได้เดินไปมาตามชั้นต่างๆ และไล่ยิงคน ทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิต

กระทั่ง 17.10 น. ตำรวจพบตัวคนร้ายเดินอยู่ภายในร้านเฟอร์นิเจอร์แห่งหนึ่งที่ชั้น 3 ของห้างสยามพารากอน จึงเรียกให้หยุดแล้วบอกให้ใจเย็นๆ จากนั้นบอกให้คนร้ายคุกเข่า วางปืนแล้วนอนหมอบลงกับพื้น ก่อนจะเข้าประชิดตัวแล้วจับกุมตามหลักยุทธวิธี พร้อมยึดปืนพกสั้นได้ 1 กระบอก

แต่ที่น่าตกใจคือ คนร้ายเป็นเด็กอายุเพียง 14 ปี เรียนอยู่โรงเรียนนานาชาติแห่งหนึ่ง และตอนที่ถูกจับได้ยังมีอาการเพ้อคล้ายกับว่า มีคนตามมาจะทำร้าย หลังเหตุการณ์สงบ ยืนยันการจับคนร้ายได้แล้ว เจ้าหน้าที่อาสาสมัครกู้ภัยมูลนิธิป่อเต็กตึ๊งก็เข้าไปนำตัวผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตออกมา

ศูนย์ปฏิบัติการสำนักงานตำรวจแห่งชาติ รายงานว่า เหตุการณ์นี้มีเหยื่อ 7 คน เสียชีวิต 2 คน คือ หญิงสาวชาวจีนที่เข้ามาเที่ยวในไทย ถูกยิงเข้าที่ลำตัว 1 นัด เสียชีวิตบริเวณห้องน้ำ ชั้น M ศพที่ 2 หญิงชาวเมียนมา ซึ่งเป็นลูกจ้างของร้านค้าแห่งหนึ่งในสยาม ถูกยิง 3 นัด เสียชีวิตที่โรงพยาบาลตำรวจ

ขณะที่ผู้บาดเจ็บอยู่โรงพยาบาลจุฬา 3 คน เป็นชายไทยอายุประมาณ 30 ปี เป็น รปภ. หญิงชาวไทย อายุ 30 ปี ถูกยิงที่ศีรษะ ทั้งคู่ยังรักษาตัวอยู่ในห้องไอซียู ส่วนหญิงชาวจีนอีกคนอาการปลอดภัยแล้ว พักฟื้นอยู่ที่ห้องผู้ป่วยทั่วไป

ส่วนที่โรงพยาบาลตำรวจ มีผู้บาดเจ็บ 1 คน คือ นายธัญภัทร ธิติระสกุล ถูกยิงบริเวณไหล่ซ้าย ส่วนที่โรงพยาบาลกรุงเทพศริสเตียน เป็นหญิงชาวลาวเป็นแม่บ้าน ถูกยิงเข้าที่รักแร้และหลัง อาการสาหัส ซึ่งพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและสมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินี ทรงมีพระมหากรุณาธิคุณ รับผู้ที่ได้รับบาดเจ็บทั้งหมดเป็นคนไข้ในพระบรมราชชานุเคราะห์

ระหว่างที่มีการเคลื่อนย้ายคนเจ็บและผู้เสียชีวิต ตำรวจยังคงคุมตัวเด็กชายคนนี้ที่ร้านเฟอร์นิเจอร์ โดยมีนายชาดา ไทยเศรษฐ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทยเข้ามาพูดคุยกับเด็กด้วย รวมถึง พลตำรวจเอก ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผบ.ตร. ก็เดินทางมาที่เกิดเหตุและได้คุยกับเด็กวัย 14 ปี คนนี้ด้วยตัวเอง จากนั้นราว 19.00 น. ตำรวจคุมตัวเด็กชายคนนี้ไปที่ สน.ปทุมวัน เพื่อให้แพทย์ตรวจสภาพจิต และสอบปากคำเบื้องต้นร่วมกับทีมสหวิชาชีพ

ส่วนนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เดินทางมาถึงที่ห้างสยามพารากอนราว 19.20 น. ก่อนจะเข้าไปดูที่เกิดเหตุ ฟังรายงานสรุปจาก ผบ.ตร. โดยใช้เวลาประมาณ 40 นาที ก่อนจะเดินทางไปที่ไปโรงพยาบาลตำรวจและโรงพยาบาลจุฬา เพื่อเยี่ยมอาการคนเจ็บ โดยเปิดเผยกับสื่อสั้นๆ ว่า ทางการจีนขอบคุณที่เจ้าหน้าที่ไทยช่วยดูแลคนจีนที่เป็นเหยื่อในเหตุการณ์ครั้งนี้ พร้อมแสดงความเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ส่วนเหตุการณ์ที่เกิดถือว่าตำรวจปฏิบัติงานได้ที่ดีสุดแล้ว สามารถระงับเหตุได้อย่างรวดเร็ว

ขณะที่พลตำรวจเอกต่อศักดิ์ กล่าวว่า เด็กชายที่ก่อเหตุมีประวัติรักษาอาการทางจิตอยู่ที่โรงพยาบาลเด็กราชนครินทร์ เบื้องต้นยังไม่สามารถสอบปากคำได้ เพราะยังมีอาการเพ้อ พูดจาไม่รู้เรื่อง คล้ายกับหูแว่วว่ามีคนสั่งให้ยิง ส่วนปืนที่ใช้สั่งซื้อมาจากอินเทอร์เน็ตเป็นแบลงกัน หรือปืนดัดแปลง แต่ครั้งนี้ถือว่าโชคดีที่ตำรวจเคยมีการประชาสัมพันธ์หลักสูตร “วิ่ง ซ่อน สู้” และอบรมให้พนักงานตามหน่วยงานต่างๆ ทำให้เกิดความสูญเสียน้อย

ส่วนบรรยากาศที่ สน.ปทุมวัน นายจ้างและญาติของสาวชาวเมียนมาที่ถูกยิงเสียชีวิต เดินทางมาแจ้งความ ยืนยันจะเอาเรื่องเด็กที่ก่อเหตุให้ถึงที่สุด เพราะลูกจ้างแค่เอาเงินที่ร้านไปฝากธนาคารแล้วแวะเข้าห้องน้ำ กลับต้องมาเสียชีวิตทั้งที่ไม่เคยมีปัญหากับใคร และเป็นคนเก่ง นิสัยดี กตัญญู พูดได้ถึง 4 ภาษา ไทย จีน อังกฤษ และเมียนมา หลังจากนี้จะห้องเพื่อเอาเงินก้อนให้กับครอบครัวผู้ตาย และเธอซึ่งเป็นนายจ้างจะจ่ายเงินให้กับพ่อแม่ผู้ตายทุกเดือน เดือนละ 10,000 บาท เหมือนที่ผู้ตายเคยให้พ่อแม่ เพื่อเป็นการดูแลและแทนคำขอบคุณที่ทำงานให้กับร้าน

ขณะที่เพื่อนของหญิงชาวเมียนมา กล่าวว่า ตกใจและเสียใจเมื่อรู้ว่าเพื่อนโดนยิง ไม่เข้าใจทำไมต้องมาฆ่าเพื่อนด้วย

ต่อมาเวลา 01.00 น. พลตำรวจตรี นครินทร์ สุคนธวิทย์ ผู้บังคับการตำรวจนครบาล 6 เปิดเผยว่า หลังจากให้จิตแพทย์เข้ามาตรวจสอบสภาพจิตของเด็กชายที่ก่อเหตุ พบว่าสภาพจิตยังไม่พร้อมที่จะให้การ เพราะมีอาการเพ้อ พูดจาไม่รู้เรื่อง ยังไม่สามารถให้การกับทีมสหวิชาชีพได้ จึงต้องเลื่อนไปก่อน ขณะที่พ่อแม่เด็กยังคอยปลอบใจลูกตลอดเวลา และให้การว่าไม่เคยรู้ว่าลูกใช้ความรุนแรง

รับชมทางยูทูบที่ : https://youtu.be/07gUJjUMMIY