อาชญากรรม

สาวไม่ทน แฟนหนุ่มทุบตีไม่เว้นวัน ขโมยรถติด GPS ข่มขู่-กักขัง ก่อนหนีตายขอความช่วยเหลือ

โดย paweena_c

17 เม.ย. 2566

445 views

สาวอายุ 37 ปี ถูกแฟนหนุ่ม ทำร้ายร่างกาย ทุบตี ไม่เว้นวัน แถมกักขัง หน่วงเหนี่ยว จนเธอต้องต้องหนีตายออกมาขอความช่วยเหลือ

นางสาวปุณยนุช (สงวนนามสกุล) หรือ ฟ้า อายุ 37 ปี แม่ค้าขายของที่ตลาดย่านสนามบินน้ำ จังหวัดนนทบุรี ร้องขอความเป็นธรรม หลังจากถูกแฟนหนุ่มทุบตี ทำร้ายร่างกาย และกักขังหน่วงเหนี่ยว ยึดโทรศัพท์มือถือ หนำซ้ำยังถูกขโมยรถไปติดจีพีเอส ไม่ให้หนีไปไหน จนเธอต้องตัดสินใจหนีตายออกมาแจ้งความและขอความช่วยเหลือผ่านสื่อฯ เพราะตอนนี่เดือดร้อนมากไม่สามารถกลับไปขายของได้ เพราะกลัวแฟนหนุ่มจะตามมาราวี

นางสาว ฟ้า บอกว่าตัวเองรู้จักกับ นายป็อป เพราะขายของอยู่ในตลาดสนามบินน้ำด้วยกัน ซึ่ง ตอนแรก นายป๊อป จะคอยเข้ามาช่วยเหลือให้คำปรึกษาตลอด ดูนิสัยดีไม่อารมณ์ร้อน รู้จักกันมา 1 ปี จนตัวเองตัดสินใจคบหาเป็นแฟน

หลังจากคบหากันเป็นแฟนและย้ายมาอยู่ด้วยกันได้ไม่กี่เดือน นายป๊อป เริ่มมีท่าทีเปลี่ยนไป ทั้งที่เป็นคนไม่ดื่มเหล้าสูบบุหรี่ แต่อยู่ๆกลายเป็นคนอารมณ์ร้อน ฉุนเฉียว เวลาอะไรไม่ได้ดั่งใจก็จะเริ่ม ลงมือทำร้ายร่างกาย ทั้งทุบตี เตะตามลำตัวเธอ เหมือนเธอเป็นกระสอบทราย จนเนื้อตัวเขียวช้ำ เมื่อถามหาเหตุผลว่าทำแบบนี้ทำไม นายป๊อบ ก็ไม่ตอบ

นางสาวฟ้า ยืนยันว่า ตัวเองไม่มีเรื่องมือที่สามหรือไปมีผู้ชายคนอื่นเลย ทุกครั้งที่ถูกทำร้ายร่างกายเกิดจากตัวในป๊อปไม่ได้ดั่งใจอย่างอื่นแล้วก็เอามาลงที่เธอ, โทรศัพท์มือถือก็ถูกนายป็อปยึดไป ทำให้ไม่สามารถติดต่อขอความช่วยเหลือจากใครได้

นอกจากนี้นายป๊อบ ยังขโมยรถยนต์ของเธอไปติดจีพีเอส เชื่อมกับโทรศัพท์ของตัวเองเพื่อดูความเคลื่อนไหว ซึ่งเธอพยายามปฏิเสธเพราะมองว่า มันรุกล้ำสิทธิส่วนบุคคลมากเกินไป แต่นายป๊อบ ไม่ยอมฟัง ลงมือทำร้ายเธอ และขโมยรถไปติดจีพีเอสในที่สุด ซึ่งทุกครั้งที่เธอถูกทำร้ายจะพยายามร้องขอความช่วยเหลือตลอด แต่นายป๊อบก็บอกว่า "มันเรื่องของผัวเมียไม่มีใครมายุ่งหรอก"

โดยนางสาวนุช ตั้งข้อสังเกตว่า เหตุที่ฝ่ายชาย ทำร้ายร่างกายเธอ เพราะต้องการทรัพย์สินของเธอ เพราะหลังจากที่คบหากันเป็นแฟน ฝ่ายชายชอบถามเกี่ยวกับเรื่องเงินของเธอ เคยขอดูสมุดบัญชีเงินฝาก พอไม่ให้ ก็ลงมือทำร้ายทุกครั้ง และยังเคยพาเพื่อนมายืมเงินจากเธอด้วย



https://youtu.be/SJ2u2tqvjok


คุณอาจสนใจ

Related News