รวบชายวัย 43 หลอกนักเรียน ม.5 หวังพาไปขืนใจ พบเพิ่งพ้นโทษ อ้างเด็กขี่เข้าป่าอ้อยเอง

จากกรณี ตำรวจ สภ.ประโคนชัย จ.บุรีรัมย์ ขอศาลออกหมายจับ นายเพลิน ติมานพ อายุ 43 ปี ที่ก่อเหตุหลอกนักเรียนหญิงวัย 17 ปี ที่ไปนั่งเล่นกับกลุ่มเพื่อน 3 คน ริมสระน้ำ 'บึงหนองระแซซัน' โดยนายเพลิน บอกกลุ่มเด็ก ๆ ว่า ลืมกระเป๋าเงินไว้กับกลุ่มเพื่อนนักตกปลาที่อยู่อีกฝั่งของสระน้ำ กลุ่มเด็ก ๆ เห็นนายเพลินทำหน้าตาน่าสงสาร ประกอบกับมองไปฝั่งตรงข้าม เห็นมีกลุ่มคนตกปลาอยู่จริง ๆ และไม่ไกล น้องชมพู่ อายุ 17 ปี จึงอาสาขี่จักรยานยนต์พาไปส่ง

แต่พอขี่รถไปได้ไม่นาน นายเพลินกลับบอกให้ไปอีกทางหนึ่ง และขู่ว่ามีระเบิด สั่งให้ขี่รถเข้าถนนสายรอง เข้าป่าอ้อยข้างทาง สั่งให้จอดรถ และดึงกุญแจรถออก ล็อกคอน้องชมพู่ ก่อนจะบอกว่า “ลุงขอทีเดียว” น้องเข้าใจทันทีว่า นายเพลินต้องการข่มขืน จึงผลักคนร้าย และวิ่งหนีแบบไม่คิดชีวิต จนมาเจอชาวบ้านขี่รถผ่านมา และช่วยเหลือไว้ ส่วนคนร้ายขี่รถของน้องหนีไป เหตุเกิดเมื่อวันที่ 24 ก.ค. ที่ผ่านมา เวลาประมาณ 17.00 น.

หลังได้รับแจ้งความ พ.ต.อ.วิษณุ อาภรณ์พงศ์ ผกก.สภ.ประโคนชัย สั่งชุดสืบสวนแกะรอยคนร้าย จนทราบชื่อ และขออนุมัติศาลออกหมายจับ พร้อมกับประกาศเป็นบุคคลอันตรายผ่านทางโซเชียล ให้ประชาชนช่วยกันแจ้งเบาะแส เบื้องต้นทราบว่า เป็นคนไม่มีที่อยู่เป็นหลักแหล่ง ทำให้ตามหาตัวยาก

ขณะที่ตำรวจเองก็ไปตรวจสอบกล้องวงจปิดตามเส้นทางที่น้องชมพู่ให้การ พบว่า พอน้องขับรถออกจากบึงหนองระแซซัน นายเพลินก็สั่งให้ขับรถลัดเลาะไปตามถนนสาย 24 จากนั้น บังคับให้เลี้ยวซ้าย เข้าถนนสายรอง แล้วก็บังคับให้ขับเข้าไปในป่าอ้อยข้างทาง ลึกประมาณ 200 เมตร ก่อนจะก่อเหตุ

ซึ่งในจุดป่าอ้อยไม่มีกล้อง ต่อมา น้องชมพู่วิ่งหนีออกจากป่าอ้อย จนมาเจอถนนลาดยาง ซึ่งเป็นเส้นทางระหว่างบ้านยางหมู่ 3 ต.หนองบอน อ.ประโคนชัย ห่างจากตัวอำเภอประมาณ 10 กม. และเจอชาวบ้านในพื้นที่ช่วยเหลือไว้ ส่วนนายเพลินก็ขี่รถหนีไป โดยมีกล้องวงจรปิดจับภาพนายเพลินขี่รถของน้องชมพู่ไว้ได้ชัดเจน

และหลังจากที่ตำรวจประกาศเตือนชาวบ้านให้ระวังบุคคลอันตราย ปรากฎว่า มีประชาชนแจ้งเบาะแสหลายช่องทาง หนึ่งในนั้น คือ นายสาคร อายุ 45 ปี  เจ้าของบ้านหลังหนึ่ง ในพื้นที่ ต.ประโคนชัย บอกว่า พอตนเห็นข่าว ก็รู้เลยว่า เป็นคนร้ายคนเดียวกับที่เคยบุกเข้ามาในบ้านของตน โดยคนร้ายทำทีเป็นมาหาคนนั้นคนนี้ แต่พอถูกซักถาม และถ่ายคลิปไว้เป็นหลักฐาน คนร้ายก็ตอบวกไปวนมา ทำให้เชื่อว่ามีเจตนาไม่ดีแน่นอน จึงไล่ออกจากบ้านไป คาดว่าหลังจากนั้น ถึงไปก่อเหตุล่อลวงนักเรียน

ต่อมา วานนี้ (29 ก.ค. 67) เวลา 11.00 น.ชุดสืบสวนทราบว่า นายเพลินหนีไปที่สถานีขนส่ง อ.นางรอง จ.บุรีรัมย์ เตรียมขึ้นรถหลบหนี จึงนำกำลังไปจับกุมตัว

พบนายเพลินนอนอยู่ที่ชานชาลาของสถานีขนส่ง จึงจับกุมตัวมาสอบปากคำที่โรงพัก สอบประวัติ พบว่า เพิ่งพ้นโทษคดีลักทรัพย์มาได้ไม่นาน และมีคดีติดตัวอีกหลายคดี

นายเพลิน ยอมรับว่า เอาจักรยานยนต์ของน้องชมพู่ไปจริง โดยเอาไปจอดที่ร้านก๋วยเตี๋ยวใน อ.สีขรภูมิ จ.สุรินทร์  พร้อมยืนยันเสียงแข็งว่า ตั้งใจเอาแต่รถ ไม่ได้คิดจะข่มขืน และอ้างว่า เด็กขี่รถเข้าป่าอ้อยเอง ตนไม่มีอาวุธหรือระเบิดอย่างที่เด็กกล่าวอ้าง

หลังก่อเหตุก็ขี่รถไปที่สุรินทร์ เอารถไปจอดร้านก๋วยเตี๋ยว แล้วนั่งรถไฟมาที่บุรีรัมย์ นั่งรถตู้มาที่ อ.นางรอง หวังจะไปหางานทำกับเพื่อนที่ต่างจังหวัด ส่วนที่มีผู้เสียหายอีกคนบอกว่า นายเพลินพยายามจะบุกเข้าไปในบ้าน เจ้าตัวก็อ้างว่า ไปตามหาเพื่อนคนรู้จัก ไม่ได้มีเจตนาไม่ดี

หลังจับกุมได้ ตำรวจติดต่อผู้เสียหาย และผู้ปกครอง รวมทั้งเพื่อน ๆ ของผู้เสียหาย มายืนยันตัวคนร้าย ซึ่งเด็ก ๆ ยืนยันว่า เป็นคนเดียวกัน

เบื้องต้น ตำรวจแจ้งข้อหาชิงทรัพย์เอาไว้ก่อน หากพบหลักฐานเพิ่มเติมหลังสอบสวน  ก็จะแจ้งข้อกล่าวหาเพิ่ม โดยเฉพาะคดีพรากผู้เยาว์ และกักขังหน่วงเหนี่ยว  

-------------



รับชมผ่านยูทูบได้ที่ : https://youtu.be/XzNYOGeIEHE