ประกันตัวแล้ว! เมียยิง 'พล.ต.ท.ปัญญา' ดับ คาดปมส่วนตัว 'อดีตลูกน้อง' ยัน ผู้ตายเป็นคนดี

ความคืบหน้ากรณี พลตำรวจโท ปัญญา ปิ่นสุข ผู้บัญชาการประจำสำนักงานผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ถูกภรรยายิงเสียชีวิตภายในบ้านพัก ภายในซอยบรมราชชนนี 70 ลูกสาววางเงินสด 5 แสนบาท ยื่นประกันตัวไปเมื่อคืนนี้ และญาติจะเข้ารับศพที่โรงพยาบาลศิริราชช่วงเที่ยงวันนี้


เหตุเกิดช่วงบ่าย 2 โมงครึ่งวานนี้ (14ก.พ.) จุดเกิดเหตุเป็นบ้านเดี่ยวหลังหนึ่ง ตั้งอยู่ในซอยบรมราชชนนี 70 ย่านทวีวัฒนา ที่หน้าบ้านพบร่างของ พลตำรวจโท ปัญญา ปิ่นสุข ผู้บัญชาการประจำสำนักงานผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ อายุ 59 ปี นอนเสียชีวิต อยู่ที่หน้าบ้านข้างรถยนต์ส่วนตัว โดยใส่กางเกงขายาวตัวเดียว ไม่สวมเสื้อ สภาพศพถูกยิงเข้าที่หน้าอกขวา 1 นัด และใต้รักแร้ซ้าย 1 นัด ขณะที่นาง พรประภา ปิ่นสุข อายุ 67 ปี ภรรยานั่งร้องไห้อยู่หน้าบ้าน


เจ้าหน้าที่ขึ้นไปตรวจสอบบนห้องนั่งเล่นชั้น 2 ใกล้บันได พบรอยเลือดกระจายอยู่ทั่วบริเวณ บนตู้ไม้เก็บของสูงประมาณ 1 เมตร พบปืนลูกโม่ขนาดจุด38 วางอยู่ 1 กระบอก และเจอปืนขนาด 9 มม. อยู่ในซองปืนอีก 1 กระบอก


จากการสอบถามคนงานในบ้าน ทราบว่า ก่อนเกิดเหตุได้ยินเสียงพลตำรวจโท ปัญญา ทะเลาะกับภรรยาที่ชั้น 2 ของบ้าน ต่อมาได้ยินเสียงปืนดังขึ้น 2 สองนัด จากนั้นก็ได้ยินภรรยาของผู้ตายร้องเสียงดัง จึงวิ่งขึ้นไปดูและพยายามอุ้มคนเจ็บเพื่อนำตัวส่งโรงพยาบาล แต่ก็ไม่ทัน ขณะที่ภรรยา ถูกคุมตัวไปสอบปากคำที่ สน.ธรรมศาลา


ต่อมาพลตำรวจโท ธิติ แสงสว่าง ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล เดินทางมาที่เกิดเหตุ พร้อมระบุว่า ภรรยาของพลตำรวจโท ปัญญา เป็นคนยิง แต่ขณะนี้ยังไม่สามารถพูดคุยได้ เพราะยังอยู่ในอาการช็อคกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ส่วนสาเหตุคาดว่ามาจากปัญหาความเครียดส่วนตัว


จากนั้นราว 5 โมงเย็น ร่างของ พลตำรวจโท ปัญญา ถูกนำไปที่ สน.ธรรมศาลา โดยมีญาติและคนสนิทมาขอขมาต่อหน้าศพ ซึ่ง 1 ในนั้นเป็นเพื่อนผู้หญิงที่บอกว่าสนิทกับครอบครัวนี้ พูดว่า "พี่ปัญญา พี่ทำแกไปเยอะแล้วนะ หนูขอเถอะนะพี่ ปล่อยพี่บุ๊มเถอะนะคะ"


เมื่อทีมข่าวสอบถามว่า สาเหตุที่พูดเรื่องนี้คืออะไรเธอบอกว่าจำไม่ได้ว่าพูดอะไรไปบ้าง ก่อนจะเดินหนีไป แต่ก่อนหน้านี้เธอยืนยันว่า ครอบครัวนี้รักกันดี ไม่เคยมีปัญหาในครอบครัว และไม่ทราบถึงสาเหตุการลงมือ


กระทั่ง 1 ทุ่ม นาง พรประภา ยอมรับเป็นผู้ใช้ปืนยิงสามีเอง แต่ไม่ยอมเปิดเผยสาเหตุที่แท้จริง เนื่องจากยังไม่พร้อมจะให้การกับตำรวจ เบื้องต้นตำรวจแจ้งข้อหา ฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา จากนั้นลูกสาวก็นำเงินสด 5แสนบาท มายื่นขอประกันตัวไปในชั้นสอบสวน ซึ่งพนักงานสอบสวนก็อนุญาต เนื่องจากรับสารภาพทุกข้อหา มีที่อยู่เป็นหลักแหล่งและไม่มีพฤติการณ์หลบหนี


เมื่อเช้าที่ผ่านมาทีมข่าวลงพื้นที่บ้านเกิดเหตุอีกครั้ง พบว่าบ้านถูกปิดเงียบ มีเพียงแม่บ้านที่อยู่ด้านใน แต่ก็ปฏิเสธที่จะคุยกับสื่อมวลชน ทีมข่าวจึงไปสอบถามเพื่อนบ้านที่อยู่ฝั่งตรงข้ามบ้านเกิดเหตุ คือ นาง สำรอง ชนิดกุล อายุ 77 ปี แม่ค้าขายของ เปิดเผยว่า ประมาณบ่ายโมงครึ่งได้ยินเสียงปืนดังขึ้นหนึ่งนัด ออกมาจากชั้น 2 ของบ้านเกิดเหตุ ก่อนจะได้ยินเสียงผู้หญิงร้อง จึงวิ่งไปถามเพื่อนบ้านว่ามีใครได้ยินเสียงปืนไหม


สักพักก็ได้ยินเสียงปืนดังขึ้นอีก 1 นัด พร้อมเสียงตะโกนโวยวายด้วยความตกใจ จากนั้นนาง พรประภา วิ่งออกมาหน้าบ้านตะโกนขอความช่วยเหลือ ซึ่งมีเพื่อนบ้านเป็นผู้ชาย 4 คน เข้าไปช่วยกันอุ้มร่างของ พลตำรวจโท ปัญญา ลงมาจากชั้น 2 และพยายามนำขึ้นรถที่จอดรอหน้าบ้าน แต่ไม่สามารถนำขึ้นได้ จึงตัดสินใจวางร่างลงคือหน้าบ้านและโทรเรียกเจ้าหน้าที่กู้ภัย


นาง สำรอง ยอมรับว่าตกใจเนื่องจากที่ผ่านมาทั้งคู่ เป็นคนอัธยาศัยดี พูดจาไพเราะ เป็นมิตรกับเพื่อนบ้าน และไม่เคยได้ยินเสียงทะเลาะกันมาก่อน ครั้งนี้เป็นครั้งแรกที่ได้ยินเสียงปืนออกจากบ้านหลังนี้ และตั้งแต่เมื่อวานจนถึงตอนนี้ยังไม่มีใครกลับมาที่บ้านหลังนี้ นอกจากแม่บ้านที่เข้ามาทำงานตามปกติ


ขณะที่นาย ชัยรัตน์ เชาวลิตพิเชษฐ์ เพื่อนบ้าน หนึ่งในคนที่เข้าไปอุ้มร่างพลตำรวจโท ปัญญา ในวันเกิดเหตุ เล่าว่า ตอนขึ้นไปชั้น 2 พบ ร่างของนายตำรวจนอนอยู่ที่พื้นในห้องทำงานฝั่งริมน้ำ ในลักษณะนอนหงาย จมกองเลือด และด้านข้างมีผ้าขนหนูซับเลือดวางอยู่ แต่ไม่ได้สังเกตว่ามีปืนอยู่ในจุดเกิดเหตุหรือไม่ ซึ่งตอนนั้นไม่ทันได้สังเกตว่า ผู้ตายยังหายใจอยู่หรือไม่ คิดแต่เพียงว่าจะนำร่างออกมาเท่านั้น


แต่พอมาถึงชั้นล่างไม่สามารถนำร่างขึ้นรถได้ เนื่องจากมีน้ำหนักมาก จากนั้นมีเพื่อนบ้านรายหนึ่งบอกว่าหากเสียชีวิตไม่ควรเคลื่อนย้ายศพ ทุกคนจึงตัดสินใจวางร่างไว้กับพื้น รอการช่วยเหลือของเจ้าหน้าที่ และยืนยันว่าที่ผ่านมาพลตำรวจโท ปัญญาและภรรยา แทบจะไม่เคยทะเลาะกัน เคยได้ยินครั้งเดียวคือเมื่อหลายปีที่แล้ว


พันตำรวจเอก กฤติเดช จันทร์เพชร ผู้กำกับการ สน.ธรรมศาลา เปิดเผยว่า หลังได้รับการประกันตัว นาง พระประภา จะไปพักอาศัยที่บ้านของลูกสาวที่อยู่ที่อื่น เพราะกลัวว่าหากกลับไปพักที่บ้านจะทำให้เกิดความเครียด เพราะยังทำใจไม่ได้กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ประกอบกับบ้านหลังเกิดเหตุดังกล่าวอยู่กันแค่เพียง 2 คน เกรงว่าจะไม่มีใครดูแลสภาพจิตใจ


พรุ่งนี้ (21ก.พ.) ผู้บัญชาการตำรวจนครบาลจะแถลงสรุปสำนวนคดีนี้ ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล ขณะที่มีรายงานว่า ชนวนเหตุของการสังหารน่าจะมาจากเรื่องชู้สาว


ล่าสุด พันตำรวจเอกกฤษณะ พัฒนเจริญ โฆษกกองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี หรือ สอท. บอกว่า พลตำรวจโท ปัญญา เป็นประธานชุดสอบสวนคดีมาเก๊า 888 แต่เชื่อว่าไม่น่าจะเกี่ยวกับที่ถูกยิง เพราะการทำงานไม่ได้กดดัน หรือเร่งรัดคดี


ขณะที่ช่วงบ่ายวันนี้ (20ก.พ.) ญาติจะไปติดต่อรับศพพลตำรวจโท ปัญญา ที่โรงพยาบาลศิริราช เพื่อนำร่างไปประกอบพิธีทางศาสนา


สำหรับพลตำรวจโท ปัญญา จบการศึกษา โรงเรียนนายร้อยตำรวจ รุ่นที่ 40 ส่วนใหญ่อยู่ในสังกัดกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง มีผลงานโดดเด่น ขณะรับตำแหน่งเป็นผู้บังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ดูแลคดีลักลอบล่าสัตว์ป่าในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวรด้านตะวันตก ที่มี นาย เปรมชัย กรรณสูต อดีตผู้บริหารบริษัท อิตาเลียนไทย เป็นผู้ต้องหาคนสำคัญ และดูแลคดีด้านทรัพยากรธรรมชาติอีกหลายคดี ถือว่าเป็นผู้เชี่ยวชาญคดีที่เกี่ยวข้องกับทรัพยากรธรรมชาติ สิ่งแวดล้อม


โดยมีเพื่อนตำรวจร่วมรุ่น คือ พลตำรวจเอก รอย อิงคไพโรจน์ รอง ผบ.ตร. พลตำรวจโท สมพงษ์ ชิงดวง ผู้ช่วย ผบ.ตร. พลตำรวจโท วรวัฒน์ วัฒน์นครบัญชา ผู้บัญชาการ สอท. และ พลตำรวจโท ธิติ แสงสว่าง ผบช.น.


https://youtu.be/-EfRWev859A