'บิ๊กโจ๊ก' ปัดท้ารบ นายกฯ ปมฟ้องแต่งตั้ง 'บิ๊กต่อ' เป็น ผบ.ตร. ชี้ว่ากันตามกม.

"บิ๊กโจ๊ก" เดินหน้าฟ้องนายกรัฐมนตรีอีกคดี กรณีการแต่งตั้ง "ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ" โดยมิชอบ ชี้ขัดหลักเกณฑ์ของพ.ร.บ.ตำรวจแห่งชาติ



วันนี้พลตำรวจเอก สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ นำเอกสาร 4 แฟ้ม แบ่งเป็น 2 แฟ้มใหญ่ และ 2 แฟ้มเล็ก เข้ามายื่นให้กับคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ หรือ ป.ป.ช. เป็นรายละเอียดต่าง ๆ ในคดี โดยเฉพาะเอกสารที่เกี่ยวข้องกับเส้นทางการเงิน และคำชี้แจงข้อกล่าวหาฐานฟอกเงิน พร้อมบอกว่าสถานะของ "บิ๊กโจ๊ก" ตอนนี้ไม่ใช้ "ผู้ต้องหา" แต่เป็น "ผู้ถูกตรวจสอบ" เพื่อรอการไต่สวนและชี้มูล ดังนั้นตราบใดที่ ป.ป.ช.ยังไม่ชี้มูลก็ถือว่ายังบริสุทธิ์



นอกจากนี้ "บิ๊กโจ๊ก" มายื่นกล่าวหานายกรัฐมนตรี ในความผิดตามมาตรา 157 คือ เป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ กรณีแต่งตั้ง "บิ๊กต่อ" เป็นผบ.ตร. ซึ่งก่อนหน้านี้ เมื่อวันที่ 22 เมษายน ได้ยื่นฟ้องไปแล้ว แต่วันที่ 23 เมษายน ได้ถอนฟ้อง เพราะพลตำรวจเอก เสรีพิศุทธ์ เตมียเวช ได้มายื่นกล่าวหาไปแล้วครั้งหนึ่งจึงไม่อยากให้เกิดความซ้ำซ้อน แต่ล่าสุดได้เจอกับพลตำรวจเอก เสรีพิศุทธ์ และทราบว่าท่านได้ถอนฟ้องไปแล้วแต่ไม่ทราบเหตุผล จึงตัดสินใจมายื่นฟ้องอีกครั้ง ในฐานะผู้เสียหายโดยตรง



"บิ๊กโจ๊ก" มองว่า การแต่งตั้ง "บิ๊กต่อ" เป็น ผบ.ตร.ไม่เป็นไปตามหลักเกณฑ์ที่ต้องคำนึงถึง 2 ส่วน คือ ความอาวุโส และมีความรู้ความสามารถในการป้องกันและปราบปราม แต่ขณะนั้นนายกรัฐมนตรี ให้เหตุผลการแต่งตั้งว่า "เพื่อสามารถตอบสนองนโยบายรัฐบาลของรัฐบาลได้ และเป็นที่ไว้วางใจ" ดังนั้นหากแต่งตั้งแบบนี้ ก็จะขัดกับ พ.ร.บ.ตำรวจ ซึ่งหากปฏิบัติตามเกณฑ์ พลตำรวจเอก รอย อิงคไพโรจน์ เป็นผู้อาวุโสลำดับที่หนึ่ง แล้ว "บิ๊กโจ๊ก" เป็นอาวุโสลำดับที่ 2 แต่กลับเสนอชื่ออันดับสุดท้ายมาเลยโดยไม่ไล่เรียงอันดับ1 2 3 ก่อน



แม้นายกรัฐมนตรีจะมีอำนาจในการเสนอชื่อบุคคลใดก็ได้เป็นแคนดิเดต แต่ก็จะต้องชี้แจงเหตุผล หากจะไม่เอา เบอร์123 ว่าเป็นเพราะอะไร ไม่ใช่อยู่ๆไปเอาเบอร์สุดท้ายมาเลย ถ้าจะไม่เอาหลักเกณฑ์ลำดับอาวุโส ก็ต้องแก้กฎหมายใหม่ไปเลย ส่วน ก.ตร.ในขณะนั้นที่เห็นชอบแต่งตั้ง "บิ๊กต่อ" ก็ต้องรับผิดชอบด้วย และครั้งนี้จะไม่มีการถอนฟ้อง เพราะเป็นความผิดอาญาแผ่นดินถอนฟ้องไม่ได้



นอกจากนี้จะฟ้องนายกรัฐมนตรีเพิ่มกรณีเซ็นคำสั่งให้ "บิ๊กโจ๊ก" กลับไปยังสำนักงานตำแหน่งแห่งชาติ และเรื่องเซ็นต์รับรองผลการประชุมก.ตร. รวมถึงกูรู ตำรวจทั้งหลายที่ต้องโดนฟ้อง แต่ต้องขอตรวจสอบจากรายละเอียดให้รอบคอบก่อน



กรณีที่นาย อัจฉริยะ เรืองรัตนพงษ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม แสดงความเป็นห่วงว่า ไปไล่ฟ้องคนนั้นคนนี้ไปทั่วอาจโดนไล่ยิงเหมือนสมัยก่อน "บิ๊กโจ๊ก" บอกว่า ไม่ได้กังวลอะไร แค่ดำเนินการตามกระบวนการยุติธรรม ตอนนี้ก็ฟ้องร้องดำเนินคดีไปแล้วหลายคน ก็ไม่เห็นถูกยิงสักที มีเพียงโดนยิงรถในคดีเดิมเมื่อปี 2563 ผ่านมา 4 ปี เปลี่ยนผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติแล้วถึง 4 คน แต่ก็ยังไม่มีความคืบหน้า พร้อมเปิดเผยว่า รู้อยู่แล้วว่าใครทำ แต่พูดไม่ได้ เพราะจะไปเข้าความผิดหมิ่นประมาท ซึ่งเชื่อว่า ตอนนี้เวรกรรมก็กำลังตามทันคนที่ก่อเหตุ



ส่วนก่อนหน้านี้ที่ พลตำรวจตรี จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนถึงความขัดแย้งกับตัวเอง โดยบอกว่า ถ้าตายก็ยังไปเผาผี ไปร่วมงานฌาปนกิจได้อยู่ มองว่า อยากจะพูดอะไรก็พูดไป ถ้าแค่พูดเสียดสีก็ไม่เป็นไร แต่ถ้าเข้าข่ายหมิ่นประมาทก็จะดำเนินคดี อย่างก่อนหน้านี้ก็ดำเนินคดีหมิ่นประมาทไปแล้วถึง3กรรม แต่ฝั่งพลตำรวจเอกจรูญเกียรติ ก็เลื่อนนัดไต่สวนมาตลอด

https://youtu.be/KMnXpsrhVtY