อาชญากรรม

คนร้ายคลุมโม่งบุกบ้าน ตะโกนเรียกชื่อ ก่อนฟันหัวลุงพิการ สาหัสปางตาย

โดย paweena_c

27 มิ.ย. 2565

35 views

คนร้ายคลุมไอ้โม่งปิดบังใบหน้า บุกขึ้นบ้าน ก่อนใช้มีดฟันหัวลุงพิการไม่ยั้ง อาการสาหัสปางตาย ญาติสงสัยคนใกล้ตัว เพราะมีการเรียกชื่อก่อนลงมือก่อเหตุ

ทีมข่าวเที่ยงวันทันเหตุการณ์คุณนฤชา กมุทโยธิน ลงพื้นที่ตรวจสอบเรื่องดังกล่าว ที่ ต.โพทะเล อ.โพทะเล จ.พิจิตร

พบ นางออด อายุ 63 ปี พี่สาวของลุงเต่า เล่าให้ฟังว่าขณะเกิดเหตุตัวเองก็อยู่บนบ้านด้วยกัน ช่วงประมาณ 19:50 น. วันที่ 16 มิถุนายน ที่ผ่านมา คนร้ายคลุมไอ้โม่งปิดบังใบหน้า ขับรถจักรยานยนต์มาจอดหน้าบ้านก่อนจะเดินมาที่บันไดและตะโกนเรียกชื่อลุงเต่า จากนั้นก็เดินขึ้นมาที่ชั้นสองและยืนอยู่ตรงหน้าประตู

ก่อนถามหาว่าลุงเต่าอยู่ไหน จังหวะนั้นคนร้ายหันไปเห็นลุงเต่าพอดี กำลังนั่งดูทีวีอยู่ที่พื้น คนร้ายก็กระหน่ำใช้มีดฟันแบบไม่ยั้งมือเข้าที่ศรีษะและใบหน้า จนปากฉีกถึงหู อาการสาหัสปางตาย

วินาทีนั้นตกใจมากทำอะไรไม่ถูก เพราะอยู่กันแค่สองคน ไม่คิดกล้าที่จะสู้คนร้าย จึงได้แต่ตะโกนเรียกคนให้ช่วย ยอมรับว่ายังรู้สึกหวาดผวาอยู่ เพราะผ่านมากกว่า 10 วัน ตำรวจยังจับคนร้ายไม่ได้

ขณะที่ญาติพี่น้องลุงเต่า หลังทราบข่าว ด้วยความเป็นห่วงต้องลางาน และมาอยู่เป็นเพื่อนในระยะนี้ เนื่องจากที่บ้านหลังเกิดเหตุ อยู่กันแค่สองคน คือ ป้าออด และ ลุงเต่า ที่ถูกทำร้ายปางตาย ซึ่งลุงเต่าเป็นคนพิการ ถูกตัดขาได้ประมาณ 5 ปีก่อน ปกติก็จะอยู่แต่บ้านไม่ได้ออกไปไหน

ขณะที่ ลุงเต่าเล่าว่า มีปากเสียงกับชาวบ้านคนหนึ่ง เนื่องจากลุงลัง พี่ชาย ไปรับจ้างตัดต้นไม้ แต่พี่ชายไปขโมยมีดอีโต้หัวตัดกลับมาด้วย เจ้าของบ้านเลยมาตามทวงคืนและมีปากเสียงทะเลาะกัน โดยลุงเต่า พูดออกไปว่า จะเอาอะไรกับคนบ้า เนื่องจากลุงลัง เป็นคนสติไม่ค่อยสมประกอบ ชอบปั่นจักรยานไปทั่วหมู่บ้านแต่ก็รับจ้างเลี้ยงวัวตัดหญ้า

ซึ่งลุงเต่าก็คิดว่า อาจจะเกี่ยวกับเรื่องนี้หรือไม่เพราะตัวเองไม่เคยมีปัญหาทะเลาะกับใคร ซึ่งตอนเกิดเหตุคนร้ายกระหน่ำฟันอย่างแรงเหมือนต้องการเอาชีวิต และไม่คิดว่าจะรอดกลับมาอยากให้ตำรวจตามจับตัวคนร้ายได้ไม่ว่าจะเป็นใครอยากให้ดำเนินคดีถึงที่สุด

ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวได้ไปตรวจสอบกล้องวงจรปิด เพื่อหาเบาะแสคนร้าย ปรากฎว่าพบกล้องวงจรปิดหลายจุด ซึ่งตำรวจได้เก็บหลักฐานไปแล้วอยู่ระหว่างตรวจสอบ หารถจักรยานยนต์ต้องสงสัยที่ขับผ่านไปมาในระหว่างเกิดเหตุ ส่วนการสอบปากคำ ตำรวจ สภ.โพทะเล ได้เรียกสอบแล้วกว่า 4 ปาก รวมบุคคลที่ทางครอบครัวและญาติลุงเต่าสงสัยด้วย

ด้าน นายเอ็ม ผู้ที่ตกเป็นผู้ต้องสงสัย ทำร้ายลุงเต่า ยอมรับว่า ก่อนหน้านี้มีปากเสียงทะเลาะกับบ้านลุงเต่าจริงเรื่องมีดอีโต้ที่ถูกขโมยไป แต่ก็ไม่ได้ติดใจเอาความ ได้มีดคืนแล้วก็จบไป ส่วนตำรวจถ้าต้องการจะนำมีดไปตรวจสอบก็ยินดี ตัวเองบริสุทธิ์ใจและไม่คิดจะทำร้ายคนแก่ คนพิการ ซึ่งตัวเองก็รับไม่ได้กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น, ตำรวจได้เรียกสอบปากคำตัวเองแล้ว ซึ่งวันเกิดเหตุตัวเองก็อยู่ที่บ้าน ส่วนจะจ้างวานใครให้ไปทำร้าย คงไม่จำเป็นขนาดนั้น

คุณอาจสนใจ