ผู้ว่าฯ ชัยภูมิ สั่งรื้อถอนสำนัก ‘พระบิดา’ กำชับตำรวจขยายผลที่มา 11 ศพ จ่อเอาผิดเพิ่ม

ความคืบหน้าที่สำนักในอ.คอนสาร วันนี้ ผู้ว่าฯ ชัยภูมิ วอนให้สาวกลัทธิประหลาดรื้อถอนสิ่งปลูกสร้าง ไม่กังวลพระบิดาได้ประกันตัว แต่กำชับตำรวจขยายผล จ่อเอาผิดเพิ่ม ขณะหมอปลา ทนายไพศาล ลงพื้นที่ไปยังสำนักประหลาด เพื่อหาตัวพระบิดา แต่ยังไม่เจอ

นายไกรสร กองฉลาด ผู้ว่าราชการจังหวัดชัยภูมิ กล่าวว่า ล่าสุดมีคำสั่งให้สาวกที่ยังอยู่ในสำนักประหลาดออกจากพื้นที่ เพราะชาวชัยภูมิ รับไม่ได้กับความเชื่อและพิธีกรรมที่ผิดเพี้ยนแบบนี้ ซึ่งการให้ออกจากพื้นที่ต้องทำตามกรอบกฎหมาย โดยจะให้เจ้าหน้าที่นำประกาศไปติดหน้าสำนัก ให้สาวกรื้อถอนสิ่งปลูกสร้าง และเก็บข้าวของภายในระยะเวลาที่กำหนด โดยวันนี้จะเรียกประชุมเจ้าหน้าที่ทุกส่วนที่เกี่ยวข้อง เพื่อกำหนดกรอบเวลา

ขณะเดียวกันได้ตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองท้องถิ่น ตั้งแต่กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน อบต. และนายอำเภอ ที่ปล่อยปละให้มีการตั้งสำนักแบบนี้ในพื้นที่ หากพบว่ารู้เห็นกับการตั้งลัทธิ การบุกรุกป่าสาธารณะ จะไม่ปล่อยไว้แน่นอน ส่วนเรื่องที่นายทวีได้ประกันตัว ก็เป็นดุลยพินิจของศาล ไม่รู้สึกกังวลใจ เพราะได้กำชับพนักงานสอบสวนให้ขยายผลเพิ่มเติม โดยเฉพาะเรื่องที่มา 11 ศพ รวมถึงตรวจสอบความผิดคนอื่นๆ ซึ่งหากพบพยานหลักฐานการทำผิดอีก ก็สามารถแจ้งข้อหาเพิ่มได้

นายสาโรจน์ บุญพร้อม หัวหน้าหน่วยป้องกันรักษาป่าคอนสาร ลงพื้นที่สำนักประหลาด พร้อมเผยว่า ที่ตั้งสำนักเป็นพื้นที่ป่าไม้ ที่เป็นผู้ดูแลอยู่ หลังทราบเรื่องได้ลงพื้นที่สำรวจเบี้องต้นตั้งแต่วันแรกแล้ว จากการจับพิกัดยืนยันว่า พื้นที่ดังกล่าวอยู่นอกเขตป่าสงวน และไม่อยู่ในเขตปฏิรูปที่ดิน ซึ่งหมายความว่าอยู่ในเขตป่าไม้ ดังนั้นการเข้ายึดถือครอบครองทำประโยชน์โดยไม่ได้ขออนุญาตจากกรมป่าไม้ ถือว่าเป็นการบุกรุกอย่างแน่นอน ขณะนี้ได้เตรียมเจ้าหน้าที่ออกรังวัดพิกัดทั้งหมด เพื่อคำนวนเนื้อที่ที่ถูกทำความเสียหาย เพื่อนำข้อมูลเข้าแจ้งความเพิ่มเติม ซึ่งจะใช้เวลาในการตรวจสอบประมาณ 3-4 วัน

สำหรับศพทั้ง 11 ศพ ที่นำไปเก็บไว้ที่มูลนิธิชุมแพ โรงพยาบาลคอนสารได้เข้ามาเก็บหลักฐาน พร้อมพิสูจน์อัตลัษณ์ตามหลักวิชาการอย่างละเอียดแล้ว และทราบข้อมูลของซากศพครบถ้วนอย่างเป็นทางการ โดยได้มอบให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องส่งมอบคืนญาติ เพื่อนำกลับไปบำเพ็ญกุศลต่อไป

นอกจากนี้ คุณนฤชา กมุทโยธิน ผู้สื่อข่าวเที่ยงวันทันเหตุการณ์ ได้รับเบาะแสจากลูกชายของอดีตสาวกพระบิดา เผยว่า แม่ตัวเองเป็นมะเร็งเต้านม ได้รับการผ่าตัดที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่งในกรุงเทพฯ จนหายดีแล้ว

ต่อมาถูกเพื่อนที่เป็นสาวกพระบิดามาชวนให้ไปปฏิบัติธรรม ซึ่งครอบครัวก็ไม่ติดใจอะไร เพราะคิดว่าเป็นการปฏิบัติธรรมถือศีลนั่งสมาธิทั่วไป จากนั้นแม่ก็ไปอยู่ที่สำนักเกือบปี ก่อนจะรู้ว่าที่นี่รักษาแม่แปลกๆ บีบน้ำหนองออกจากแผลผ่าตัดมะเร็งเต้านม และบอกว่าเป็นการไล่เชื้อมะเร็ง และเชื่อว่า บรรดาสาวกต้องให้แม่กินสิ่งปฏิกูลจากร่างกายพระบิดา กระทั่งแม่เสียชีวิตเมื่อปี 2561 ตอนแรกพระบิดาไม่ยอมให้นำศพแม่มาประกอบพิธีกรรมทางศาสนา ทางครอบครัวต้องทำทุกทาง จนพระบิดายอม ซึ่งครอบครัวตัดสินใจว่าไม่ดำเนินคดี

ล่าสุดหมอปลาและทนายไพศาล ได้เดินทางไปที่สำนักลัทธิประหลาดอีกครั้ง เพื่อตามหาตัวพระบิดาโจเซฟที่ล่องหน จนถึงขณะนี้ก็ยังไม่เจอตัว