มุมมองนักกฎหมาย หลัง ‘โรเบิร์ต’ ให้การขับเรือกระชาก อาจมีเพียงคนเดียวถูกดำเนินคดี

หลังจากที่ตำรวจแถถลง กรณีที่โรเบิร์ต ยอมรับสารภาพว่าขับเรือกระชาก จนเป็นเหตุให้ แตงโมนิดา ตกเรือ ล่าสุดทนายความ ระบุว่า คนที่ถูกดำเนินคดีมีเพียงคนเดียวคือคนขับเรือ

โดยทนายรณณรงค์ แก้วเพ็ชร์ ประธานเครือข่ายรณรงค์ทวงคืนความยุติธรรมในสังคม เปิดเผยถึงกรณี ที่โรเบิร์ต รับสารภาพว่า ขับเรือกระชาก จนเป็นเหตุให้ แตงโม นิดา ตกเรือสปีดโบ๊ท จนพลัดตกกลางแม่น้ำเจ้าพระยาเสียชีวิตว่า

หากโรเบิร์ต รับสารภาพจริง ก็ไม่เกินความคาดหมาย ส่วนตัวได้ตั้งสมมุติฐานเอาไว้ตั้งแต่แรกแล้วว่า แรงกระชากของเรือทำให้แตงโมตกน้ำ มีความสอดคล้องกับบาดแผลที่ปรากฏบริเวณต้นขาของแตงโม

ซึ่งหากโรเบิร์ตรับสารภาพจริง จะถูกดำเนินคดีเพียงคนเดียว ในความผิดฐานประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย

โดยจากที่เคยทำคดี ในลักษณะนี้ ถ้าคดีไปถึงศาลฎีกาแล้ว คนที่ถูกลงโทษจะมีเพียงคนเดียว ซึ่งเป็นคนขับเรือ ส่วนผู้ที่โดยสารจะไม่มีความผิด

ส่วนนายจ๊อบ อาจถูกดำเนินคดีด้วยแต่เป็นคนละฐานความผิด ซึ่งเป็นคดีปกปิดซ้อนเร้น ทำลายหลักฐาน โดยจะมีโทษจำคุกสูงถึง 5 ปี ปรับไม่เกิน 5 แสนบาท ส่วนกระติกอาจไม่ถูกดำเนินคดีเลย

ขณะที่ แซน จะมีความผิดหรือไม่นั้น ทนายรณณรงค์ ยอมรับ ขณะนี้นักกฎหมายมอง 2 มุม คือ ถูกดำเนินคดีแน่นอน เพราะเมื่อเรือเกิดการกระชากเหตุใดถึงไม่จับแตงโมไว้ หรืออาจไม่ถูกดำเนินคดี เนื่องจากขณะเรือกระชาก แตงโมเป็นผู้จับแซนเอง

ด้าน ทนายเกิดผล แก้วเกิด กล่าวในเรื่องเดียวกันว่า หากตำรวจพิสูจน์ไม่ได้ว่าผู้ที่โดยสารที่อยู่บนเรือมีความประมาทร่วมด้วย ความผิดจะตกอยู่กับคนขับเรือสปีดโบ๊ท และจะถูกดำเนินคดีเพียงคนเดียว ในความผิดฐานประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย

อย่างไรก็ตาม ทั้งหมดก็ขึ้นอยู่กับหลักฐาน และสำนวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ว่าจะมีความผิดด้วยหรือไม่