อาชญากรรม

ญาติ 'เสี่ยก้อง' โวยกลางงานศพ หลังเห็นคลิปตัวเต็ม ด้านสาวคนสนิทอ้าง คิดว่าแกล้ง

โดย sujira_s

1 ก.พ. 2565

367 views

กรณีมีคลิปเสี่ยเกาลัดร้านดังในกาญจนบุรี ตกรถของสาวคนสนิทจนเสียชีวิต ทำให้ญาติที่เห็นคลิปโวยกลางงานศพ และไล่สาวคนสนิทออกจากงาน ล่าสุดตำรวจแฉพิรุธ หลังเกิดเหตุไม่มีการแจ้งอุบัติเหตุ แต่หลังจากนั้นสาวคนสนิทไปติดต่อขอเอกสารการเสียชีวิตเพื่อไปเบิกประกันชีวิต พร้อมเตรียมเรียกทั้งสาวคนสนิทและน้องชาย สอบปากคำ


นี่เป็นภาพบรรยากาศงานเผาศพ ของนายอภิชาต พูลเผือก หรือเสี่ยก้อง อายุ 39 ปี เจ้าของธุรกิจร้านเกาลัดชื่อดังใน จังหวัดกาญจนบุรี ที่บริเวณเมรุวัดศรีโลหะราษฎร์บำรุง อำเภอท่าม่วง จังหวัดกาญจนบุรี โดยบรรดาญาติพี่น้องที่มาร่วมงานต่างตะโกนด่าทอ น.ส.แหม่ม เพื่อนสาวคนสนิทของเสี่ยก้อง ที่มาร่วมงานด้วย


หลังจากที่ญาติและเพื่อนสนิทของเสี่ยก้องได้เห็นคลิปวิดีโอจากกล้องหน้ารถ ซึ่งบันทึกภาพเหตุการณ์วันที่เสี่ยก้องประสบอุบัติเหตุเมื่อวันที่ 22 มกราคม 65 ก่อนจะเสียชีวิตที่โรงพยาบาลเมื่อวันที่ 25 มกราคมที่ผ่านมา


โดยคลิปจากกล้องหน้ารถ บันทึกเหตุการณ์วันที่เสี่ยก้อง ประสบอุบัติเหตุตกจากรถกระบะที่มี น.ส.แหม่ม สาวคนสนิทเป็นคนขับ ซึ่งในคลิปจะได้ยินเสียง น.ส.แหม่ม ตะโกนด่าทอหลังจากจอดรถลงมาดู ว่าให้รีบลุกมาขึ้นรถ โดยไม่ได้เข้าไปชวยเหลือใด ๆ ขณะที่น้องชายของ น.ส.แหม่ม ซึ่งขับรถตามหลังมา ได้ตะโกนบอกว่า ไม่ต้องเข้าไปช่วย ปล่อยให้นอนอยู่อย่างนั้น เพราะเสี่ยก้องกระโดดลงมาเอง แถมยังแกล้งเจ็บเรียกร้องความสนใจ จากนั้น น.ส.แหม่ม ก็ขึ้นรถไป ไม่มีการช่วยเหลือเสี่ยก้องหรือโทรแจ้งเจ้าหน้าที่แต่อย่างใด


โดยปล่อยเวลาทิ้งไว้นานกว่า 20 นาที จนเสี่ยก้องเริ่มอาการสาหัส ก่อนที่เจ้าหน้าที่กู้ภัยจะเข้ามาช่วยเหลือปฐมพยาบาล และนำส่งโรงพยาบาล รักษาตัวได้เพียง 3 วัน สุดท้ายก็เสียชีวิต



ซึ่งคลิปที่ญาติได้เห็นนี้ ขัดแย้งกับคำบอกเล่า ของ น.ส.แหม่ม ที่ให้ข้อมูลกับครอบครัวของเสี่ยก้อง ก่อนหน้านี้ ว่าในวันเกิดเหตุ เสี่ยก้องและ น.ส.แหม่ม ทะเลาะมีปากเสียงกันบนรถกระบะป้ายแดง ที่มี น.ส.แหม่ม เป็นคนขับ โดยเสี่ยก้อง พยายามบอกให้ น.ส.แหม่ม จอดรถ แต่ น.ส.แหม่ม ไม่ยอมจอด ทำให้เสี่ยก้อง เปิดประตูรถและกระโดดลงไปจากรถเอง ศีรษะกระแทกพื้นถนนได้รับบาดเจ็บสาหัส ส่วนน้องชายของ น.ส.แหม่ม ที่ขับรถตามหลังมาได้รีบลงไปช่วยเสี่ยก้อง และโทรศัพท์แจ้งกู้ภัย



ขณะที่นายกฤษณะ พูลเผือก อายุ 42 ปี พี่ชายของเสี่ยก้อง กล่าวว่า จากคลิป น.ส.แหม่มขับ ก็ไม่ได้ขับเร็ว แต่ในจังหวะที่เสี่ยก้องเปิดประตู ดูคล้ายกับว่า น.ส.แหม่ม พยายามเร่งความเร็วรถ จนรถเกิดการกระชาก ส่งผลให้เสี่ยก้อง ร่วงตกรถได้รับบาดเจ็บ อีกทั้งจากคำพูดของแพทย์ที่ทำการรักษา บอกว่า ด้านหลังศรีษะของเสี่ยก้องได้รับบาดเจ็บหนัก คล้ายกับถูกกระแทก ด้วยของแข็งหลายครั้ง จนสมองเกิดอาการบวมอย่างหนัก แต่ในที่เกิดเหตุ กลับไม่พบรอยเลือดใดๆ หลงเหลืออยู่เลย จึงอาจเป็นไปได้ว่า อาการบาดเจ็บที่ศรีษะของเสี่ยก้อง อาจจะไม่ได้เกิดจากการตกรถศีรษะกระแทกพื้นเพียงอย่างเดียว



นางลักษ์ชนก ฮิดาคา อายุ 39 ปี พี่สะใภ้ของเสี่ยก้อง ได้พาผู้สื่อข่าวไปดูจุดเกิดเหตุ อยู่ในซอยวังขนาย 11 กล่าวว่า ทางครอบครัวได้รับทราบเรื่องราวจากปากของ น.ส.แหม่ม เพียงอย่างเดียว โดยไม่มีใครเคยเห็นคลิปดังกล่าว ทางครอบครัวจึงไม่มีใครที่กล่าวโทษ น.ส.แหม่ม และเชื่อว่าเหตุการณ์ทั้งหมดนั้นเป็นอุบัติเหตุ แต่เมื่อได้เห็นคลิปและได้ยินเสียงสนทนาดังกล่าว ทุกคนต่างรู้สึกเหมือนกันว่า หาก น.ส.แหม่ม รีบนำตัวเสี่ยก้องส่งโรงพยาบาล หรือโทรตามรถพยาบาล เสี่ยก้องคงอาการไม่หนัก และไม่ต้องมาเสียชีวิตเช่นนี้ พฤติกรรมดังกล่าวเหมือน น.ส.แหม่ม กับน้องชาย ต้องการให้เสี่ยก้องอาการสาหัสและถึงแก่ความตาย



ส่วนที่มาของคลิปตัวเต็ม ซึ่งสวนทางกับคลิปที่ตำรวจได้ไปก่อนหน้านี้ ถูกนำออกมาเปิดเผยได้อย่างไร ทางญาติเสี่ยก้องให้ข้อมูลว่า น้องชายของ น.ส.แหม่ม ได้นำรถคันที่มีกล้องไปที่ศูนย์รถ เพื่อขอถอดกล้องและเซฟเวอร์ออก แล้วบังเอิญว่า ที่ศูนย์รถยนต์เป็นเพื่อนกับเสี่ยก้อง จึงมีการนำคลิปตัวเต็มทั้งหมดมามอบให้กับญาติ



ด้าน น.ส.พภัสสภรณ์ ปิ่นจุ อายุ 37 ปี ภรรยาเสี่ยก้อง กล่าวว่า ตนกับเสี่ยก้องแต่งงานจดทะเบียนกันอย่างถูกต้องตามกฎหมาย โดยมีลูกคนโต อายุ 7 ขวบ และตอนนี้กำลังตั้งท้องได้ 7 เดือน ช่วง 4-5 ปีที่ผ่านมา รับรู้ว่าเสี่ยก้องไปคบหากับ น.ส.แหม่ม และมีลูกด้วยกันอายุ 6 เดือน จนวันที่เกิดเหตุตนมีนัดตรวจครรภ์ที่คลินิกในอำเภอท่าม่วง สามีจึงพาไปคลินิก ต่อมาทาง น.ส.แหม่ม รู้เรื่องก็ตามมาที่คลินิก ตนเห็นสามีทะเลาะตบตีกับ น.ส.แหม่ม พยายามเดินเลี่ยงเพราะลูกสาวมาด้วย น.ส.แหม่ม ก็มากันไม่ให้ตนหนี จนเจ้าหน้าที่คลินิกเข้ามาช่วยห้าม ตนจึงขับรถกลับบ้านไปก่อน ส่วนสามีก็ขึ้นรถไปกับ น.ส.แหม่ม จนช่วงเย็น เพื่อนของเสี่ยก้องโทรมาบอกว่าเกิดอุบัติเหตุอยู่โรงพยาบาล



ซึ่งวันนี้ ทางครอบครัวได้เข้าไปแจ้งความเพิ่มเติมกับตำรวจ สภ.ท่าม่วง เพื่อให้เอาผิดกับ น.ส.แหม่มและน้องชาย รวมทั้งสอบสวนให้เกิดความชัดเจนว่า อาการบาดเจ็บที่ศีรษะของเสี่ยก้อง ที่เป็นสาเหตุของการเสียชีวิต เกิดจากอุบัติเหตุจริง หรือเกิดจากการกระทำของใครกันแน่ แต่ทางตำรวจไม่ได้รับแจ้งความ เนื่องจากเป็นคดีอยู่แล้ว



พันตำรวจเอกศราวุธ ศรีสังวรณ์ ผู้กำกับ สภ.ท่าม่วง กล่าวว่า เรื่องอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นตามในคลิปตั้งแต่วันที่ 22 มกราคมที่ผ่านมา ไม่ได้มีการเดินทางมาแจ้งความกับเจ้าหน้าที่แต่อย่างใด มีเพียงการเดินทางมาแจ้ง เพื่อขอรับเอกสารจากทางตำรวจไปยืนยันการเสียชีวิตของเสี่ยก้อง โดย น.ส.แหม่ม เป็นผู้เดินทางมาขอรับเอกสารเมื่อวันที่ 28 มกราคมที่ผ่านมา แต่ทางเจ้าหน้าที่รู้สึกผิดสังเกต กับเรื่องราวที่เกิดขึ้น จึงได้มีการส่งศพของเสี่ยก้อง ไปทำการผ่าพิสูจน์อย่างละเอียดที่กรุงเทพฯ ขณะนี้อยู่ระหว่างรอผลการตรวจพิสูจน์ ยืนยันว่า ในคดีนี้ทางตำรวจจะทำคดีด้วยความรอบคอบและให้ความเป็นธรรมกับทั้งสองฝ่าย ซึ่งขณะนี้ก็ได้เริ่มมีการตรวจสอบคลิปวิดีโอดังกล่าวแล้ว หากตรวจสอบแล้วพบว่ามีการกระทำความผิดอะไรบ้างก็จะได้ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป



ทั้งนี้มีรายงานว่า เจ้าหน้าที่ได้เรียก น.ส.แหม่ม และนายเจฟ น้องชาย ซึ่งเป็นเจ้าของรถที่มีกล้องหน้ารถมาสอบปากคำแล้ว

คุณอาจสนใจ

Related News