อยากให้ทุกข์ที่สุด! ‘ผู้สูญเสีย’ จี้เอาผิด ‘ทนายแอม’ เพื่อนเผย ‘แอม’ หวังฮุบเงินประกัน 7 ล้าน

วันที่ 10 พ.ค. 66 รายการโหนกระแสพูดคุยกับ ด.ต.นิติพนธ์ นุชิต สามีของหนิม (ผู้เสียชีวิต), วรรณเพ็ญ ยายของแด้ (ผู้เสียชีวิต), ใหม่ เพื่อนสมัยมัธยมของแอม ที่ทำประกันให้แด้ และ ดร.วิเชียร ชุบไธสง นายกสภาทนายความ ถึงกรณี “แอม ไซยาไนด์” พัวพันผู้เสียชีวิตหลายราย

โดย “ใหม่” เพื่อนสมัยมัธยมของแอม ที่ทำประกันให้แด้ เปิดเผยว่า ตนและแอมเป็นเพื่อนสมัยมัธยมที่ไม่ได้คุยกันมานาน วันหนึ่งแอมทักมาพยายามขอคุยด้วย พอรู้ว่าตนขายประกันก็อ้างว่าจะทำประกันให้ “แด้” (สามีที่เสียชีวิตไปแล้ว) บอกขอทำในระดับพรีเมี่ยม ไม่ติดปัญหาเรื่องการเงิน อีกทั้งยังขอเพิ่มทุนชีวิต เพิ่มวงเงินอุบัติเหตุ หวังเงินประกัน 7 ล้าน แต่พักหลังเบี้ยวจ่ายค่าประกัน อ้างทะเลาะกันบ่อย ซึ่ง “แอม” เคยส่งแชทที่ทะเลาะกับ “แด้” มาให้ดู ไล่ให้แด้ไปตาย ต่อมา 2 เดือน “แด้” เสียชีวิต

“อยากรู้ว่าแต่ละวันนอนหลับลงได้ยังไง ตลอดระยะเวลา 10 ปี ที่เกิดเรื่องตั้งแต่เราไปเจอแอม ก็บอกเพื่อนให้เอาตัวเองออกมา ดูแล้วแปลกๆ เสียเวลาทำมาหากิน มันเป็นพลังลบ เขาขี้โม้อ่ะ เราถามทำอะไร บอก ปล่อยเงินกู้ ทำธุรกิจเทา เลยบอกเพื่อนให้เอาตัวเองออกมา เดี๋ยวติดคุกติดตาราง เขาชวนไปกินข้าวแต่เรายังไม่ได้ไป เพื่อนอีกคนบอก แอมชวนกูไปทำบุญกูก็ตื่นสาย กูก็ไม่ไป เพื่อนไม่ชอบมู ก็ตื่นสาย เลยไม่ได้ไป” เพื่อนแอม กล่าว...

ด.ต.นิติพนธ์ นุชิต สามีของหนิม (หนึ่งในผู้เสียชีวิต) เปิดเผยว่า ทนายความส่วนตัวของ “แอม” ทำให้ตนในฐานะผู้เสียหายรู้สึกเจ็บช้ำน้ำใจทั้งเวลาตอบคำถาม หรือการหัวเราะในรายการ จึงเตรียมรวบรวมผู้เสียหายในคดี “แอม ไซยาไนด์” ทำหนังสือร้องเรียนไปยังสภาทนายความ เพื่อให้ตรวจสอบเรื่องมรรยาททนายความ

“ญาติเหยื่อทุกคนก็เศร้าพออยู่แล้ว แล้วมาทำกิริยาที่ซ้ำเติมความเศร้า มันรับไม่ได้ ผิดศีลธรรมอย่างรุนแรง ไม่เห็นใจคนที่กำลังเศร้า มันอาจไม่เข้าข้อทนาย แต่มันผิดศีลธรรมอย่างชัดเจน คุณอยู่ในหน้าที่ทนายความที่มีเกียรติ แต่คุณไม่ได้ทำให้มีเกียรติเลย”

พร้อมฝากถึง “แอม” ทิ้งท้ายว่า “ระหว่างที่เขากำลังรอโทษประหารชีวิต ผมอยากให้เขาทุกข์ทรมานที่สุดในระหว่างนี้ด้วยการขึ้นศาล ผมจะฟ้องครอบครัวของเขา ระหว่างเขารอโดนประหาร ก่อนเขาตาย ผมอยากให้เขารับความทุกข์มากที่สุด ในสิ่งที่เขาทำลงไป สามีเขาโดนออกราชการเพราะเขาเอง ลูกของคุณจะอยู่ในสังคมที่ถูกตราหน้าว่าเป็นฆาตกร คุณจะไม่มีโอกาสออกมาดูแลลูกเมื่อลูกคุณป่วย คุณจะต้องรับโทษ อยากให้เขารู้สึกอย่างงี้ ก่อนที่เขาจะได้โทษประหาร”

“อยากให้เขารู้ว่าพ่อแม่เจ็บป่วย แล้วดูแลไม่ได้รู้สึกยังไง เหมือนที่ผมไม่สามารถไปช่วยภรรยาได้ในวันนั้น ถ้าผมอยู่วันนั้น ผมอาจช่วยเขาได้ แต่ผมไปไม่ได้ผมอยากให้เขารู้สึกแบบนั้น ผมรับปากกับภรรยาและลูกว่าจะทำให้ดีที่สุด” ด.ต.นิติพนธ์ กล่าว...