ฉุนโดนไล่-ด่าไม่ทำมาหากิน ลูกเขยประกาศลั่น “ไปแน่ แต่ต้องได้เลือดก่อน” ก่อนฟันพ่อตาแขนด้วน

ลูกเขยฟันพ่อตาแขนด้วน ฉุนโดนไล่-ด่าไม่ทำมาหากิน ประกาศลั่น “ไปแน่ แต่ต้องได้เลือดก่อน” ก่อนก่อเหตุ หนีหายไปกับแฟนสาว

เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 17 พ.ย. 2567 นายสถิตย์ ตีบจันทร์ อายุ 37 ปี ถูกนายอาทิตย์ (สงวนนามสกุล) หรือ เต๋า อายุ 18 ปี ลูกเขยที่เพิ่งมาอยู่ในบ้านได้ประมาณ 2 เดือน ใช้อาวุธมีดฟันขณะนอนในเปล ทำให้ข้อมือซ้ายขาด ส่วนนายเต๋าพาลูกสาวนายสถิตย์ขับรถจักรยานยนต์หลบหนีไป

นานไพรัตน์ สุขแสง อายุ 61 ปี ชาวบ้านที่อยู่ในหมู่บ้านเดียวกันกับนายเต๋า กล่าวว่า พ่อแม่ของนายเต๋า แยกทางกันประมาณ 10 ปี นายเต๋าเป็นคนอารมณ์ร้อนแต่ไม่ค่อยพูด เคยใช้อาวุธมีดจะมาแทงลูกชายมาแล้ว แต่หนีได้ทัน อยากให้ตำรวจทำงานให้เต็มที่เพราะถ้าข้อหามีโทษน้อย ออกมาจะกลายเป็นคนน่ากลัวทันที

ด้านนางอำนวย ตีบจันทร์ อายุ 40 ปี แม่ยายของนายเต๋า กล่าวว่า ตอนนั้นเธอไม่อยู่บ้าน ทราบจากสามีว่าหลังถูกฟันได้รีบเก็บข้อแขนของตัวเองใส่ถุงพลาสติก เอาใส่ตะแกรงหน้ารถแล้วขี่รถจักรยานยนต์มือเดียวไปที่โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพชุมชนจนหมอชมว่าสติดี ล่าสุดต่อข้อมือได้แล้ว แต่ไม่รู้ว่าจะใช้การเหมือนปกติหรือไม่

นางอำนวย กล่าวอีกว่า สาเหตุหลักคือนายเต๋า ที่เพิ่งมาอยู่ในบ้านไม่ยอมทำมาหากิน พ่อตานายเต๋าพยายามบอกแต่ไม่ฟัง จนถึงขั้นบอกว่า “ถ้าไม่ทำมาหากิน อยู่ไม่ได้ก็ไม่ต้องอยู่” จนกระทั่งย่าข้างบ้านได้ยินนายเต๋า พูดกับลูกสาวว่า “กูไปแน่ แต่จะขอเอาเลือดของคนในบ้านหลังนี้ออกก่อน” จนกระทั่งเกิดเรื่อง เธอรับไม่ได้เพราะรุนแรงเกินไป เพราะเป็นการหมายเอาชีวิต อยากจะให้ตำรวจเร่งจับตัวมาดำเนินคดีโดยเร็วและอยากให้ตำรวจตั้งข้อหาหนัก ส่วนลูกสาวที่ไม่ยอมห้ามแต่กลับหนีไปด้วยกัน ถ้าตำรวจสืบได้ว่าร่วมกันก็ให้ปล่อยไปตามกฎหมาย

สำหรับทางด้านคดี นายเต๋าได้ประสานตำรวจว่าจะขอเข้ามอบตัวแล้ว ตอนนี้หลบหนีอยู่ที่จังหวัดนครราชสีมา