อาชญากรรม
ลูกเขยอ้างถูกแม่ยายด่า บอกมีคนจะมาสู่ขอเมียที่อยู่มา 13 ปีมีลูก 3 คน ก่อนชักปืนยิงปากสาหัส
โดย olan_l
31 ต.ค. 2567
81 views
ลูกเขยยิงปากแม่ยายปางตาย แค้นถูกพรากเมีย บอกกำลังจะมีคนมาสู่ขอเมีย ทั้งที่อยู่กินกันมา 13 ปี มีลูกด้วยกัน 3 คน ทีแรกตั้งใจจะมายิงหัวตัวเองแต่กลับถูกด่า
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวานนี้ (30 ต.ค.) เมื่อเวลา 20.00 น. พ.ต.ท.นิมมาน นิกูโน สารวัตร (สอบสวน) สภ.หาดใหญ่ จ.สงขลา รับแจ้งเกิดเหตุยิงกันที่บ้านเช่าเลขที่ 3/27 หมู่ 4 ต.คลองแห อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา หลังจากลงพื้นที่ไปตรวจสอบจุดเกิดเหตุพร้อมด้วย พ.ต.ท.อนุวัฒน์ ฤทธิชัย รอง ผกก.สส. พ.ต.ท.อดินันท์ วงศ์หมัดทอง รอง ผกก.ป.สภ.หาดใหญ่ พ.ต.ต.ธีระพงศ์ วิชิต สว.สส. สายตรวจชุดวิหค และชุดเผชิญเหตุเวหา กำลังตำรวจชุดสืบสวนตำรวจภูธร จ.สงขลา และชุดสืบสวน ภาค 9
ที่เกิดเหตุทราบว่า มีผู้ถูกยิงได้รับบาดเจ็บ 1 ราย คือ น.ส.นฤมล อายุ 55 ปี ถูกยิงด้วยอาวุธปืน.38 ไทยประดิษฐ์ เข้าปากทะลุแก้มบาดเจ็บจนฟันหลุด หน่วยกู้ชีพคลองแห และญาติ ได้พาตัวส่งโรงพยาบาลหาดใหญ่ ส่วนคนยิงคือ นายอดิศร อายุ 30 ปี หรือ โต้ ซึ่งเป็นลูกเขย หลังก่อเหตุได้วิ่งหลบหนีไปทางหลังบ้านพร้อมกับอาวุธปืนท่ามกลางความมืด
นอกจากนี้ยังพบรถเก๋ง โตโยต้า โคโรล่า รุ่นเก่า สีเขียว ทะเบียน กว-1966 สงขลา จอดอยู่ริมถนนข้างบ้าน ซึ่งเป็นรถของ นายอดิศร ที่ขับมาที่บ้าน กระจกหน้าแตกเป็นรูโบ๋ เพราะ ถูกญาติคนเจ็บขว้างก้อนหินใส่ขณะกำลังจะวิ่งหนีไปขึ้นรถ จนต้องทิ้งรถวิ่งหนีไป
ตำรวจต้องระดมกำลังปิดล้อมพื้นที่เกิดเหตุ เพื่อหาตัว เพราะคาดว่า น่าจะซ่อนตัวอยู่ในบริเวณเกิดเหตุ และใช้โดรนบิน เพื่อหาตัว และเจ้าหน้าที่ต้องระวังเพราะคนร้ายมีปืนด้วย และสภาพแวดล้อมที่มืดมาก หลังเวลาผ่านไปกว่า 2 ชม. ก็ไม่พบตัว
เหตุการณ์นี้เบื้องต้นจากการสอบถามสามีคนถูกยิงบอกว่า ก่อนเกิดเหตุ นายอดิศร ซึ่งเป็นลูกเขย ได้ขับรถเก๋งมาหาลูก 3 คน ที่บ้าน แต่ตอนนั้นเมียไม่อยู่ และเข้าไปกินข้าวในบ้าน และแม่ยายได้บอกให้กลับได้แล้ว แต่ นายอดิศร ขอเวลาอยู่ต่ออีก 5 นาที แต่แม่ยายไม่ยอมให้อยู่ต่อ เพราะ มาที่บ้านนานแล้ว จึงบอกให้กลับ
จากนั้น นายอดิศร จึงเดินออกจากบ้าน และชักปืนมายิงใส่แม่ยายเข้าที่ปาก และจะวิ่งไปขึ้นรถเก๋ง แต่ว่าถูกญาติๆ และชาวบ้านไล่ตาม จึงต้องวิ่งหนีลงไปในดงผักบุ้งข้างบ้าน โดย นายอดิศร ลูกเขย ได้แยกกันอยู่กับลูกสาวตนมาราว 2-3 เดือนแล้ว
ต่อมาเมื่อช่วงเที่ยงคืน นายอดิศร ได้ยอมเข้ามอบตัวกับตำรวจที่ สภ.ทุ่งลุง อ.หาดใหญ่ และทางตำรวจชุดสืบสวน สภ.หาดใหญ่ ได้ไปรับตัว และพากลับมาที่บ้านเกิดเหตุ เพื่อค้นหาอาวุธปืน .38 ที่ใช้ก่อเหตุ เละพบว่า ได้พาไปซ่อนไว้หลังบ้านแต่ระหว่างที่ตำรวจคุมตัวชี้จุดเกิดเหตุได้มีคุณลุง ซึ่งเป็นพี่ชายของแม่ยาย พยายามเข้ามาทำร้าย นายอดิศร ด้วยความโกรธ แต่ตำรวจได้กันตัวเอาไว้ และรีบพาขึ้นรถไปยัง สภ.หาดใหญ่ เพื่อป้องกันความวุ่นวายบานปลายจากญาติที่ต่างโกรธแค้น
ส่วนคุณลุง ที่จะเข้ามาทำร้ายถึงกับหน้ามืดทรุดตัวนั่งลงกับพื้่น หน่วยกู้ชีพเทศบาลเมืองคลองแห ต้องช่วยปฐมพยาบาล และพาตัวส่งโรงพยาบาลหาดใหญ่
จากการสอบ นายอดิศร ให้การว่า หลังจากที่ยิงแม่ยายแล้ว ทีแรกจะเดินไปขึ้่นรถเก๋ง แต่ถูกพ่อตาตามไล่หลังมา และตะโกนให้คนช่วยจับตัว และบอกให้ยิง ตนจึงวิ่งหนีมาเรื่อยๆ และมาออกตรงหน้าสวนสาธารณะหาดใหญ่ ทีแรกจะเข้ามอบตัวที่ สภ.หาดใหญ่ แต่ก็กลัวว่า จะไม่ปลอดภัย เพราะ ญาติพี่น้องแม่ยายเป็นตำรวจอยู่ จึงเดินมาเรื่อยๆและระหว่างทางก็ขออาศัยรถชาวบ้านบ้าง อ้างว่า รถเสีย
จนมาถึงปั้มน้ำมันในพื้นที่ ต.บ้านพรุ อ.หาดใหญ่ ระหว่างนั้นได้โทรศัพท์กลับไปหาพ่อ และเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นให้ฟัง และขอช่วยให้เด็กปั๊มโทรไปหาตำรวจ สภ.ทุ่งลุง เพื่อให้มารับตัว เพราะว่า ตนเดินไปมอบตัวไม่ไหวแล้ว เพราะ เดินไกลจนเท้าเจ็บ
นายอดิศร เล่าว่า ต้นตอของเรื่องนี้มาจากการที่แม่ยายพาลูกเมียของตนกลับมาอยู่ที่บ้าน เพื่อให้ห่างกัน และบอกว่า กำลังจะมีคนมาขอเมียตนแต่งงาน เพราะอยู่กับตนลำบาก ซึ่งตนช็อคมาก เพราะอยู่กินกันมานานถึง 13 ปี มีลูกด้วยกัน 3 คน อายุ 5 ปี 7 ปี และ 10 ปี และตนกับเมียก็ไม่เคยมีปัญหาอะไรกัน ที่ผ่านมาก็ทำงานหาเลี้ยงครอบครัวคนเดียว ไม่รู้ว่ามันเกิดอะไรขึ้น โดยแยกกันอยู่กับเมียมาประมาณ 2 เดือนกว่าแล้ว
นายอดิศร กล่าวว่า เรื่องนี้เริ่มจากเมื่อ 2 เดือนก่อน แม่ยายได้ไปรับลูกเมียของตนจากบ้านมากินหมูกะทะ แต่พอตนจะไปรับกลับ แม่ยายก็ไม่ให้กลับ โดยบอกว่า ไม่ให้อยู่ด้วยกันแล้ว เมื่อไม่ยอมให้ลูกเมียกลับไปอยู่ที่บ้าน ตนก็ขอมาทำงาน และอยู่กับลูกกับเมียที่บ้านแม่ยาย แต่แม่ยายก็ไม่ยอมให้อยู่ ซึ่งตอนนั้นตนยังไม่รู้ว่า มีมือที่สามเข้ามาเกี่ยวข้อง
แต่มารู้จากลูกเล่าให้ฟังว่า มีคนมารับเมียรับลูกไปกินข้าว และมีอยู่ครั้งหนึ่งที่ตนไปเห็นเต็มตา และเข้าไปพูดกับชายคนนั้นตรงๆว่า อย่ามายุ่งกับลูกกับเมียตน ซึ่งถ้าตนคิดร้ายจริงๆ หรือพาปืนทุกวัน ตนคงจะยิงชายคนนี้ตั้งแต่วันนั้นไปแล้วไม่ดีกว่าหรือ ทั้งที่รู้ว่าทำกันแบบนี้ แต่ก็ทนเจ็บสะสมมามาก
จนกระทั่งเมื่อวานนี้แม่ยายบอกว่าจะมีคนมาสู่ขอเมียตน ซึ่งฟังแล้วมันแทงใจดำมาก และตนขอมานอนที่บ้านแม่ยาย 1 คืน เพื่อขอคุยกับเมียว่า ถ้าไม่อยู่ด้วยกันแล้ว ก็บอกตรงๆ ตนจะได้ทำใจ แต่ว่า เมียกลัวตนเสียความรู้สึก ไม่กล้าบอกตรงๆ และบอกว่า จะให้คำตอบในวันนี้ตอนค่ำ ก็เลยขับรถมาหาเมียที่บ้านแม่ยาย
นายอดิศร กล่าวว่า ความตั้งใจจริงไม่ได้จะมายิงแม่ยาย แต่จะมายิงหัวตัวเองในบ้านแม่ยาย ด้วยความที่เจ็บใจทั้งเมียและแม่ยาย และก่อนหน้านี้ก็คุยกับเมียทางมือถือไว้ก่อนแล้วว่า ถ้าตนตาย ก็ให้มาร่วมงานศพ และบอกให้ซื้อของมาเตรียมไว้ และยังบอกกับแม่ยายด้วยว่า ถ้าไปงานศพตนอย่าไปทะเลาะกับแม่ตน และยังได้ลาพ่อลาแม่มาแล้วด้วย เพราะ เหนื่อยกับชีวิตมามาก
และตอนที่มาที่บ้านแม่ยายก็บอกกับเมียว่า ขอกินข้าวด้วยกันเป็นมื้อสุดท้าย ด้วยความที่เจ็บใจ และคำตอบที่ได้จากปากเมียคือ มันเป็นไปไม่ได้แล้วที่จะกลับไปเหมือนเดิม ตนถึงกับกินข้าวไปร้องให้ไป และถึงกับกราบตีนเมียอ้อนวอนขอให้กลับมาอยู่ด้วยกัน เพราะ รักเมียรักลูกมาก
นายอดิศร บอกว่า ตอนที่นั่งคุยกับเมียกลับถูกแม่ยายไล่ให้กลับ และทีแรกตนก็ตั้งใจจะกลับเดินออกไปใส่รองเท้าแล้ว แต่ถูกแม่ยายด่าแม่ไล่หลังบอกว่า ไม่ต้องกลับมาเหยียบที่นี่อีก พอได้ยินคำนี้จึงชักอาวุธปืนออกมายิงใส่ทันที โดยที่แทบไม่ได้เล็ง และถึงตอนนี้ นายอดิศร บอกว่า ที่ทำไป เพราะ อารมณ์ชั่ววูบ เสียใจยอมรับผิด ขอโทษกับทุกสิ่งทุกอย่าง แต่ตอนนั้นห้ามใจตัวเองไม่ได้ ถ้าย้อนเวลากลับได้จะไม่ทำ
หลังเกิดเหตุตำรวจชุดสืบสวน สภ.หาดใหญ่ ได้ทำบันทึกการจับกุม พร้อมกับคุมตัวดำเนินคดี 4 ข้อหา คือ พยายามฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา พกพาอาวุธปืนติดตัวเข้าไปในเมือง หมู่บ้าน หรือทางสาธารณะ มีอาวุธปืนซึ่งนายทะเบียนไม่อาจออกใบอนุญาตให้มีไว้ในครอบครองและยิงปืนในที่สาธารณะโดยไม่มีเหตุอันควรเร่งด่วน ส่วนคนเจ็บยังคงรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลหาดใหญ่