อาชญากรรม

ลูกชายแจ้งความ พ่อหมดตัวแขวนคอดับ เชื่อไปลงทุนดิไอคอน ขายบ้าน-รถ-ลูกไม่ได้เรียนต่อ

โดย olan_l

3 ชั่วโมงที่แล้ว

146 views

จากกรณีผู้เสียหายจาก ดิ ไอคอน กรุ๊ป บริษัทขายตรงที่กำลังอื้อฉาวอยู่ในขณะนี้ ซึ่งที่ จ.เชียงราย โดยที่ สภ.บ้านดู่ อ.เมืองเชียงราย ก็ได้มีญาติของหนึ่งในผู้เสียหายจากบริษัทดังกล่าว นำหลักฐานเดินทางมาพบ พ.ต.อ.อานันท์จักร์ กนกนพวัชร์ ผกก.สภ.บ้านดู่ เพื่อร้องทุกข์ โดยทางผู้กำกับก็ได้ให้ ร.ต.อ.เมที หน่อแก้ว รอง สว.(สอบสวน) สภ.บ้านดู่ เป็นผู้รับแจ้งความ

จากการสั่งการให้ทุก สภ. เปิดจุดรับแจ้งความร้องทุกข์ในคดีเกี่ยวกับดิไอคอนกรุ๊ป ซึ่งในส่วนของ สภ.บ้านดู่ ก็มีผู้เสียหายทยอยมาแจ้งความเรื่อยๆ โดยมีทั้งคนที่วอล์คอินเข้ามาแจ้งความด้วยตนเองจำนวน 7 เคส และคนที่แจ้งความผ่านระบบออนไลน์จำนวน 3 เคส รวมแล้วตอนนี้มีทั้งหมด 10 เคส มูลค่าความเสียหายประมาณ 4.2 ล้านบาท แต่ในภาพรวมทั้งจังหวัดตอนนี้มีผู้เสียหายรวม 62 ราย มูลค่าความเสียหายประมาณ 18 ล้านบาท ซึ่งยอดเสียหายสูงสุดก็อยู่ที่ สภ.บ้านดู่ เพราะมีผู้เสียหายรายหนึ่งสูญเงินไปในการลงทุนกับบริษัทดังกล่าวประมาณ 3.5 ล้านบาท

ล่าสุดมีเคสที่เพิ่มมาแจ้งความเมื่อช่วงค่ำวันนี้ เคสดังกล่าวครอบครัวต้องหมดเนื้อหมดตัว เพราะพ่อขายบ้านขายรถนำเงินไปลงทุนกับดิไอคอน จนครอบครัวแตกแยก ลูกไม่ได้เรียนต่อ ส่วนพ่อที่ไปลงทุนกับบริษัทดังกล่าว สุดท้ายเครียดหนักและไปแขวนคอตายในวัดใกล้บ้าน

ทั้งนี้ ทุกสถานีตำรวจที่เปิดศูนย์รับแจ้งความร้องทุกข์ในคดีดังกล่าว เพื่อลดขั้นตอนและอำนวยความสะดวกให้ประชาชนที่เป็นผู้เสียหาย จะได้ไม่ต้องเดินทางไปแจ้งความที่ บชก. ซึ่งคดีนี้ บก.ปคบ. เป็นเจ้าภาพในการดำเนินคดี โดยให้ทุกโรงพักรับแจ้งความและรวบรวบหลักฐานทุกอย่างของผู้เสียหาย และส่งเรื่องไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการ ผู้เสียหายไม่ต้องเดินทางไปดำเนินการด้วยตนเองที่ กทม. และไม่มีค่าใช้จ่ายในการดำเนินการไดๆ ทั้งสิ้น

ด้านนายพงษ์พันธ์ อายุ 23 ปี ซึ่งมาแจ้งความในคดีดังกล่าว เล่าว่า พ่อของตน ก่อนเสียชีวิตอายุ 56 ปี บ้านม.8 ต.ทานตะวัน อ.พาน จ.เชียงราย ได้นำเอาเงินเก็บไปลงทุนในธุรกิจดิไอคอน โดยมีภาพหลักฐานการไปร่วมทำกิจกรรม และยังมีภาพถ่ายคู่กับบอสพอลอีกด้วย ซึ่งหลังจากพ่อเข้าไปลงทุนดับบริษัทดังกล่าวเมื่อปี 2560 ก็ได้มาชักชวนแม่ อา รวมถึงญาติพี่น้องคนอื่นให้ร่วมลงทุน และมีการลงทุนเพิ่มเรื่อยๆ จากที่เคยมีเงินเก็บ มีบ้าน มีรถยนต์ 3 คัน กลับกลายว่าทุกอย่างสูญไปกับการลงทุนของพ่อ จนมาระยะหลังพ่อกับแม่ก็ทะเลาะกันเรื่องที่พ่อไปลงทุนดังกล่าว จนครอบครัวมีปัญหาการเงิน ตนและน้องสาวเลยไม่ได้เรียนต่อ สุดท้ายแม่ก็เลยขอหย่ากับพ่อ

จากนั้นพ่อก็ไปอาศัยอยู่ที่วัดใกล้บ้าน ก่อนที่สุดท้ายจะคิดสั้นแขวนคอตายในวัด เมื่อช่วงเดือน เม.ย. 63 หรือประมาณ 4 ปีกว่ามาแล้ว ตอนนั้นตนยังเด็ก ไม่รู้ว่าพ่อไปทำธุรกิจอะไรจนนำมาสู่ปัญหาชีวิต และแม่ก็ไม่เคยเล่าปัญหาให้ฟัง เพราะตอนนั้นแม่อยากให้พวกเราตั้งใจเรียนหนังสือ จนกระทั่งไม่นานมานี้มีการนำเสนอข่าวดิไอคอน ตนก็เลยจำได้ว่าเคยเห็นภาพของพ่อตอนไปร่วมกิจกรรม และมีภาพตอนพ่อถ่ายรูปร่วมกับบอสพอล

ตนก็เลยคิดว่าการเข้าสู่ธุรกิจดังกล่าวอาจเป็นชนวนเหตุพาไปสู่ปัญหาชีวิต เพราะปัญหาอย่างอื่นคงไม่ทำให้พ่อคิดสั้นแบบนี้ ประกอบกับหลังจากมีข่าวดิไอคอน ทางอาของตนได้บอกตนว่าพ่อของตนเคยชักชวนอาให้เอาเงินไปลงทุนกับดิไอคอนเหมือนพ่อ ตนจึงรวบรวมหลักฐานมาแจ้งความเพื่อดำเนินคดีกับบริษัทดังกล่าว หลังจากนี้ตนจะไปรวบรวมหลักฐานเพิ่มเติม และจะนำมาส่งมอบให้กับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจอีกครั้ง และตั้งใจจะเดินหน้าดำเนินคดีกับบริษัทขายตรงดังกล่าวให้ถึงที่สุด

"ที่ผ่านมา ตนกังวลเกี่ยวกับค่าใช้จ่ายในการแจ้งความดำเนินคดีกับบริษัทดังกล่าว แต่เพิ่งมาทราบว่าหากเราแจ้งความผ่านทางเจ้าหน้าที่ จะไม่มีค่าใช้จ่ายใดๆ ทางตนก็เลยรู้สึกดีใจมากๆ อยากจะขอบคุณเจ้าหน้าที่ตำรวจทุกคนที่ดูแลแนะนำตนเป็นอย่างดี" นายพงษ์พันธ์ กล่าว

แท็กที่เกี่ยวข้อง  แจ้งความ ,ดิไอคอน ,แขวนคอดับ

คุณอาจสนใจ

Related News