อาชญากรรม

ทลายรังแก๊งไลฟ์สดเล่นพนัน ชวนแทงเลขท้ายบัตรเติมเงิน รายได้วันละ 2 ล้าน

โดย nut_p

25 พ.ค. 2567

587 views

ตำรวจไซเบอร์ เปิดปฏิบัติการ 'FULL STEAM'บุกค้นรังแก๊งไลฟ์สดเล่นพนัน ชวนแทงเลขท้ายบัตรเติมเงิน อึ้ง รายได้วันละ 2 ล้าน พบเงินหมุนเวียนกว่า 30 ล้าน ยึดเงินสด ทองคำ และอื่น ๆ รวมมูลค่ากว่า 20 ล้านบาท



กองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี พร้อมเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องร่วมแถลงผลปฏิบัติการ FULL STEAM กรณีตำรวจไซเบอร์บุกค้นรังแก๊งไลฟ์สดชวนแทงเลขท้ายบัตรเติมเงิน พบเงินหมุนเวียนกว่า 30 ล้าน ยึดเงินสด ทองคำ และอื่น ๆ รวมมูลค่ากว่า 20 ล้านบาท



พล.ต.ต.จิตติพล กล่าวว่า ตำรวจไซเบอร์ บก.สอท.4 พบเบาะแสการไลฟ์สดเล่นพนันออนไลน์ผ่านเฟซบุ๊กในกลุ่มลับ จึงได้ร่วมกันสืบสวนจนทราบว่า มีผู้ใช้บัญชีเฟซบุ๊กชื่อ “โคขุน อภิมหาเฮง” ได้ไลฟ์สดเชิญคนทั่วไปเข้าเล่นพนันออนไลน์ (ท้ายเลขบัตรเติมเงิน) ในกลุ่มลับจริง ซึ่งต่อมาได้มีการเปลี่ยนชื่อเฟซบุ๊กเป็น “บ้านฉลามทอง อภิมหาเฮง” และยังคงมีพฤติกรรมไลฟ์สดเล่นพนันเรื่อยมา เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนได้เฝ้าดูพฤติกรรมพร้อมเก็บรวบรวมหลักฐาน จนทราบวิธีการเล่นพนันออนไลน์ท้ายเลขบัตรเติมเงิน



โดยผู้ไลฟ์สดมีแผ่นกระดาษซึ่งที่หัวกระดาษมีข้อความว่า “บ้านฉลามทอง อภิมหาเฮง” ในแผ่นกระดาษมีการแบ่งเป็น 2 ฝั่ง ฝั่งที่ 1 มีข้อความว่า “บน” มีตัวเลข 00-49 และอีกฝั่งมีข้อความว่า “ล่าง” มีตัวเลข 50-99 และผู้ไลฟ์สดได้มีบัตรเติมเงินจำนวนหลายใบวางอยู่ ต่อมาผู้ไลฟ์สดจะหยิบบัตรเติมเงิน 1 ใบขึ้นมาแล้วให้ผู้ชมไลฟ์สดเลือกว่าแทงฝั่งไหน ระหว่าง บน และ ล่าง ซึ่งอัตราส่วนการได้เสีย คือ แทง 1 ต่อ 1 หากผู้ชมแทงได้ จะต้องเสียค่าส่วนต่างให้แก่ผู้ที่ไลฟ์สดในอัตรา 5 เปอร์เซ็นต์



ต่อมาตำรวจสามารถรวบรวมพยานหลักฐานขออำนาจศาลจังหวัดนครปฐม ออกหมายค้นพื้นที่เป้าหมายที่ใช้ในการกระทำความผิดได้ จึงได้ระดมกำลังเข้าตรวจค้นบ้านพักจำนวน 4 จุด ดังนี้ จุดที่ 1 บ้านพักในพื้นที่ ม.1 ต.ดอนตูม อ.บางเลน จ.นครปฐม จุดที่ 2 บ้านพักในพื้นที่ ม.1 ต.ดอนตูม อ.บางเลน จ.นครปฐม จุดที่ 3 บ้านพักในพื้นที่ ม.6 ต.ดอนตูม อ.บางเลน จ.นครปฐม จุดที่ 4 บ้านพักในพื้นที่ ม.6 ต.ดอนตูม อ.บางเลน จ.นครปฐม



ผลการตรวจค้นพบบ้านหลังหนึ่ง 1 ใน 4 จุดตรวจค้น ถูกใช้เป็นสถานที่ไลฟ์สดเล่นการพนันอีกทั้ง พบเจ้าของเฟซบุ๊ก “บ้านฉลามทอง อภิมหาเฮง” กำลังนั่งไลฟ์สดการพนันพร้อมแอดมิน รวมจำนวน 3 ราย ได้แก่ นายเพ็ชรราช อายุ 31 ปี น.ส.ปักเป้า อายุ 34 ปี และนายปุริษธรรม อายุ 29 ปี อีกทั้งยังพบอุปกรณ์ในการเล่นพนันอีกจำนวนมาก เช่น โทรศัพท์มือถือ จำนวน 2 เครื่อง บัตรเติมเงิน จำนวน 400 ใบ สมุดจดรายชื่อลูกค้า และแผ่นกระดาษที่ใช้จดข้อมูลการเล่นการพนันอีกจำนวนมาก และยังตรวจพบอาวุธปืนสั้นผิดกฎหมาย พร้อมเครื่องกระสุนบรรจุในรังเพลิงพร้อมใช้งานอีกจำนวน 1 กระบอก



ขณะเจ้าหน้าที่ตรวจค้นนั้น เจ้าของเฟซบุ๊กได้แอบส่งข้อความทางแอปพลิเคชันไลน์หาพ่อของ 1 ในผู้ต้องหา ให้แอบขนย้ายตู้เซฟจากชั้นบนของบ้านในจุดตรวจค้นที่ 2 ไปซุกซ่อน เจ้าหน้าที่ตรวจพบข้อมูลในโทรศัพท์มือถือ จึงนำกำลังไปตรวจสอบ



จากการสอบถามพ่อผู้ต้องหา รับว่าผู้ต้องหาได้ส่งข้อความทางไลน์ให้นำตู้เซฟไปซ่อน ตนเองรักลูกจึงยอมทำตาม แต่เนื่องจากตู้เซฟมีน้ำหนักมาก ตนเองจึงใช้วิธีกลิ้งตู้เซฟจากชั้นบนของตัวบ้านลงมาซุกซ่อนไว้บริเวณหลังบ้าน และตอนนั้นตนเองก็ไม่ทราบว่าสามารถกลิ้งตู้ที่เซฟที่มีน้ำหนักมากขนาดนี้ลงมาคนเดียวได้อย่างไร เพราะตนมีอายุ 70 ปีแล้ว และยังมีรูปร่างผอมบางอีก จากการตรวจสอบภายในตู้เซฟ พบเงินสดจำนวนกว่า 3,700,000 บาท พระเลี่ยมทองจำนวนหลายรายการ และทองคำแท่งน้ำหนักรวมกว่า 10 บาท



พล.ต.ต.จิตติพล กล่าวว่า ผลการตรวจค้นจุดอื่นๆ ยังพบอาวุธปืนพกสั้นผิดกฎหมายเพิ่มเติมอีกจำนวน 1 กระบอก และรถยนต์ที่มีผู้อื่นนำมาจำนำไว้โดยผิดกฎหมายอีก จำนวน 13 คัน ซึ่งจากข้อมูลการสืบสวน ทราบว่าเจ้าของเฟซบุ๊กดังกล่าวได้มีพฤติกรรมเปิดรับจำนำรถและอาวุธปืนที่ผิดกฎหมายต่าง ๆ อีกด้วย ซึ่งเจ้าตัวยังให้การปฎิเสธในเรื่องดังกล่าว



ร.ต.อ.เปรมประชา กล่าวว่า จากการตรวจสอบประวัติผู้ต้องหา ยังไม่พบว่าเคยถูกจับกุมในคดีอื่น แต่ทางผู้ต้องหาที่เป็นแอดมินเคยถูกจับในข้อหามีและใช้พกพาอาวุธปืน นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่กำลังขยายผลในส่วนของการเล่นในลักษณะเดียวกันแต่เปลี่ยนจากทรัพย์สินเงินสดเป็นพระเครื่องแทน จะเข้าข่ายการพนันผิดกฎหมายหรือไม่ เจ้าหน้าที่ตำรวจจะสืบสวนขยายผลต่อไป ทั้งนี้ ยังมีทางเจ้าหน้าที่ไซเบอร์การ์ดคอยตรวจสอบอยู่ตลอดเวลา



อย่างไรก็ตาม ผู้ต้องหายอมจำนนต่อหลักฐาน พร้อมรับสารภาพว่าตนเองเปิดให้เล่นและชักชวนให้ผู้อื่นเล่นการพนันออนไลน์จริง โดยทำมากว่า 1 ปี โดยไลฟ์สดวันละ 2 ครั้ง ในช่วงบ่ายและช่วงกลางคืนทุกวัน จากการไลฟ์สดแต่ละครั้งมีผู้เล่นจำนวนมากทำให้มียอดเงินในการเล่นกว่า 1 ล้านบาทต่อการไลฟ์ 1 ครั้ง เจ้าหน้าที่จึงแจ้งข้อหา “ร่วมกันจัดให้มีการเล่นหรือทำอุบายล่อ ช่วยประกาศโฆษณา หรือชักชวนโดยทางตรงหรือทางอ้อม ให้ผู้อื่นเข้าเล่นหรือเข้าพนันในการเล่น ซึ่งไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าพนักงาน และข้อหา “มีอาวุธปืนไว้และเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต”สำหรับเจ้าของปืน เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงนำผู้ต้องหาทั้งหมดพร้อมของกลาง ส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

คุณอาจสนใจ

Related News