อาชญากรรม

สุดโหด! หนุ่มเดนคุกตามจีบสาววัย19 ถูกพ่อเลี้ยงกีดกัน ฉุนควักปืนยิงดับ ลุงหาของป่าผ่านมาเจอถูกยิงดับอีกราย

โดย weerawit_c

6 พ.ย. 2566

2.1K views

วานนี้ (5 พ.ย.66) เจ้าหน้าที่ตำรวจสถานีตำรวจภูธรเลาขวัญ รับแจ้งเหตุมีผู้ถูกยิงเสียชีวิตจำนวน 2 ราย เหตุเกิดภายในป่าสัก พื้นที่บ้านพุบอน หมู่ 3 ตำบลเลาขวัญ อำเภอเลาขวัญ จังหวัดกาญจนบุรี หลังรับแจ้งจึงประสานเจ้าหน้าที่มูลนิธิพิทักษ์กาญจน์เดินทางไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ


ในที่เกิดเหตุ พบศพผู้เสียชีวิต นอนเสียชีวิตอยู่บนพื้น จำนวน 2 ราย ทราบชื่อผู้เสียชีวิต คือ นายเสริมศักดิ์ หรือ ต้อม ขุนกลาง อายุ 38 ปี (ไม่ใส่เสื้อ) มีบาดแผลถูกยิงที่บริเวณใบหน้าและลำตัวรวม 3 นัด และ นายบุญส่ง ศรีทับทิม หรือ ลุงส่ง อายุ 50 ปี มีบาดแผลถูกยิงด้วยอาวุธปืนเข้าที่บริเวณใบหน้าและลำตัวรวม 3 นัดเช่นกัน


ส่วนตัวผู้ก่อเหตุ ทราบชื่อคือนายจิระเดช ทองยิ้ม อายุ 36 ปี ซึ่งหลังก่อเหตุได้หลบหนีออกไปจากจุดเกิดเหตุ ก่อนเจ้าหน้าที่ตำรวจจะติดตามไปจับกุมตัวได้ที่บ้านของผู้ก่อเหตุซึ่งอยู่ห่างจากจุดเกิดเหตุประมาณ 3 กิโลเมตร หลังถูกจับกุมผู้ก่อเหตุให้การรับสารภาพว่าเป็นผู้ลงมือก่อเหตุจริง เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงควบคุมตัวมาสอบปากคำต่อที่สถานีตำรวจภูธรเลาขวัญ


สอบถามนางสาวมด ซึ่งเป็นภรรยาของนายเสริมศักดิ์ หนึ่งในผู้เสียชีวิต ให้ข้อมูลว่า นายจิระเดช ผู้ก่อเหตุ ได้เข้ามาจีบและติดพันน้องเนย ซึ่งเป็นลูกสาวของตนเองได้ประมาณ 2-3 เดือนแล้ว แต่ลูกสาวของตนไม่เล่นด้วย ทำให้นายจิระเดชเกิดความโมโหและพยายามมาตามตื๊อลูกสาวของตนที่บ้านอยู่หลายครั้ง


ก่อนเกิดเหตุ ตนและสามี ได้ออกไปหาตัดไม้เผาถ่านตามปกติ กระทั่งนายจิระเดชได้เข้ามาหา ที่บริเวณป่าสักจุดเกิดเหตุ ซึ่งตนพร้อมสามีรวมถึงวัยรุ่นหนุ่มสาวอีก 2 คน กำลังนั่งเล่นกันอยู่ นายจิระเดช ได้เข้ามาพยายามสอบถามว่าน้องเนยไปอยู่ที่ไหน แต่ตนและสามีไม่ยอมบอก ทำให้นายจิระเดชเกิดความโมโห ควักอาวุธปืนขนาด 9 มม.ที่พกติดตัวออกมาข่มขู่ แต่สามีของตนก็ยังไม่ยอมบอก ทำให้นายจิระเดชตัดสินใจใช้ปืนยิงเข้าใส่สามีของตนที่ใบหน้าและลำตัว รวม 3 นัด ต่อหน้าต่อตาของตนและวัยรุ่นอีกสองคนที่อยู่ข้างๆ


และเป็นจังหวะเดียวกับที่ นายบุญส่ง ซึ่งมีอาชีพหาของป่า เดินผ่านมาพอดี นายจิระเดชจึงหันปืนไปรัวยิงใส่นายบุญส่งอีก 3 นัด จนล้มลงเสียชีวิตข้างศพของนายเสริมศักดิ์ หลังก่อเหตุเสร็จเรียบร้อย นายจิระเดชยังได้บังคับให้ตนนั่งซ้อนท้ายรถจักรยานยนต์และพากลับมาส่งที่บ้านของตน พร้อมย้ำไม่ให้บอกเรื่องที่เกิดขึ้นกับใคร ก่อนที่นายจิระเดชจะขี่รถหลบหนีไป ด้วยความกลัวตนจึง รีบหนีออกไปจากบ้าน ก่อนจะโทรไปแจ้งให้ป้าทราบเรื่องและให้ช่วยโทรแจ้งตำรวจ จนนำไปสู่การจับกุมตัวนายจิระเดชดังกล่าว


ขณะเดียวกัน นางทิม แก้วบุตรดี อายุ 59 ปี ซึ่งเป็นป้าของนางสาวมด ให้ข้อมูลกับผู้สื่อข่าวว่า นายจิรเดช ผู้ก่อเหตุ ได้เข้ามาพยายามจีบน้องเนยหลานสาวของตนได้ประมาณ 2-3 เดือนแล้ว แต่ตลอดเวลาน้องเนยไม่เล่นด้วย เพราะรู้ถึงพฤติกรรมที่ไม่ดีของนายจิระเดช จึงไม่อยากยุ่งด้วย แต่นายจิระเดชก็ยังตามตื๊อไม่เลิก คืนก่อนเกิดเหตุ ก็ได้ขับรถมาเบิ้ลเครื่องหน้าบ้านและพยายามเข้าไปหาน้องเนยที่อยู่ในบ้านตลอดทั้งคืน จนน้องเนยต้องโทรไปหานางสาวมด ซึ่งเป็นแม่และนายเสริมศักดิ์ที่เป็นพ่อเลี้ยง ให้มาช่วยอยู่เป็นเพื่อน และพยายามไล่ให้นายจิระเดชกลับบ้านไป


กระทั่งช่วงเช้า เมื่อนายเสริมศักดิ์และนางสาวมด ออกไปเข้าป่าตัดฟืนมาเผาถ่านตามปกติ ก็ไปเจอกับนายจิรเดชผู้ก่อเหตุ จนนำมาสู่การก่อเหตุสุดอุกอาจครั้งนี้


ทั้งนี้ จากการตรวจสอบประวัติของนายจิระเดช ผู้ก่อเหตุ พบว่า เมื่อช่วงปี 2559 ได้เคยก่อเหตุฆ่าผู้สูงอายุและ นำศพไปยัดเตาเผาถ่านเพื่อจุดไฟเผาอำพรางคดีมาแล้ว โดยศาลได้ตัดสินจำคุกนายจิระเดชเป็นเวลา 25 ปี แต่นายจิระเดชได้รับการลดหย่อนโทษกระทั่งพ้นโทษออกมาเมื่อประมาณปี 2565 ติดคุกจริงเพียง 5 ปี ก่อนจะกลับมาอยู่ที่บ้าน ก่อนจะมาติดพันน้องเนยจนนำไปสู่การก่อเหตุในครั้งนี้

คุณอาจสนใจ

Related News