อาชญากรรม
สาวสุดแสบ นำบ้านถูกธนาคารยึด หลอกปล่อยเช่านานกว่า 5 ปี
โดย attayuth_b
16 ก.ย. 2566
2.3K views
วันนี้ (16 ก.ย.) น.ส.สุภัสสร รักไทย อายุ 54 ปี และ น.ส.แพรตะวัน ปิติวัชรเจริญสุข อายุ 36 ปี สองผู้เสียหายได้นำผู้สื่อข่าวไปดูบ้านเลขที่ 333/109 อยู่ภายในหมู่บ้านเดอะเฮ้าส์เรสซิเด้นท์ ม.6 ต.สุรนารี อ.เมือง จ.นครราชสีมา โดยเป็นบ้านเดี่ยว 1 ชั้น 3 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ หลังจากที่ถูก น.ส.ณัฐมา กระแสวุฒิ อายุ 39 ปี หลอกให้มาเช่าบ้านหลังนี้ โดย น.ส.ณัฐมา หลอกให้ผู้เสียหายโอนเงินค่ามัดจำ และค่าเช่าล่วงหน้ากว่า 12,000 บาท แต่ผู้เสียหายมาทราบภายหลังว่า บ้านหลังนี้ถูกกรมบังคับคดีประกาศยึดเป็นของธนาคาร ทำให้ไม่สามารถเข้ามาอยู่ได้ ซึ่งต่อมาทราบว่ายังมีกลุ่มผู้เสียหายอีกเกือบ 20 ราย ที่ถูก น.ส.ณัฐมา หลอกลวงในลักษณะดังกล่าว โดยผู้เสียหายแต่ละรายเสียเงินตั้งแต่หลักหลายพันบาทไปจนถึงหลักหมื่นบาท
น.ส.สุภัสสร รักไทย อายุ 54 ปี หนึ่งในผู้เสียหาย เปิดเผยว่า เมื่อช่วงปลายเดือน ส.ค.ที่ผ่านมา ตนเองกับลูกสาวได้ค้นหาบ้านเช่าในโซเชียล และไปพบข้อความประกาศให้เช่าบ้านหลังนี้ ในกลุ่มเฟซบุ๊ก บ้านเช่าโคราช โดยผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อ Ann Ann Nattama โพสต์รูปภาพบ้าน และรายละเอียดว่า ให้เช่าบ้านหลังนี้ในราคาเดือนละ 5,500 บาท ทำสัญญา 1 ปี จ่ายล่วงหน้า 12,000 บาท สามารถเข้าอยู่ได้ทันที ตนเองจึงสนใจ และทักไปทางแชทส่วนตัว ซึ่งต่อมาก็ได้มีการนัดดูบ้าน โดย น.ส.ณัฐมา ได้ใช้กุญแจเปิดประตูบ้านให้เข้าไปดูว่า ภายในบ้านมี แอร์ และเฟอร์นิเจอร์อื่นๆ จนเป็นที่พอใจทั้ง 2 ฝ่าย ตนจึงตกลงกันว่าจะทำสัญญาเช่ากันในวันที่ 1 ก.ย. และตนเองจะได้ย้ายเข้าอยู่ในวันที่ 7 ก.ย.ที่ผ่านมา
ต่อมา น.ส.ณัฐมา ก็บ่ายเบี่ยงอ้างบอกว่า ขณะนี้ตัว น.ส.ณัฐมา ทำงานอยู่ที่ จ.ชลบุรี ไม่น่าจะกลับมาทันตามกำหนด และได้มีการขอเบิกเงินล่วงหน้าไปก่อน 3,000 บาท จนกระทั่งถึงวันที่ 1 ก.ย.ก็นัดกันไปทำสัญญาเช่าที่ สภ.เมืองนครราชสีมา ซึ่งหลังจากทำสัญญาเช่าเสร็จ น.ส.ณัฐมา ก็ขอเบิกเงินอีก 3,500 บาท ตนเองก็ให้ไป หลังจากนั้นก็มีการขอเบิกเงินค่าต่างๆ เรื่อยมา เช่น ค่าเปลี่ยนแอร์ และค่าช่างซ่อมแซมบ้าน เป็นต้น รวมเงินที่ตนจ่ายไปให้ น.ส.ณัฐมา ทั้งหมดจำนวน 14,000 บาท แต่ตนเองก็ยังไม่สามารถเข้าไปอยู่ในบ้านได้
จนกระทั่งถึงกำหนดเข้าอยู่ในวันที่ 7 ก.ย. ที่ผ่านมา น.ส.ณัฐมา ก็โทรมาบอกว่า ขอยืมเงินตนอีก 14,000 บาท เพื่อที่จะนำไปจ่ายค่าทำมิเตอร์น้ำ เพราะทุกอย่างทำครบแล้ว ขาดเหลือแต่มิเตอร์น้ำอย่างเดียว ตนเองจึงบอกว่าไม่มีเงินแล้ว ซึ่งตนเองจึงรู้สึกเอะใจ และอยากขอเงินคืนทั้งหมด แต่กลับถูกท้าทายว่า ให้ไปแจ้งความสู้คดีเอาเอง ทำให้ตนเองรู้สึกเสียใจมาก จึงได้ไปค้นหาข้อมูลของบ้านหลังนี้ และพบข้อมูลว่า บ้านหลังนี้มีชื่อของชายอีกคนเป็นเจ้าของบ้าน ซึ่งเจ้าของบ้านถูกฟ้องล้มละลาย และมี น.ส.ณัฐมา เป็นแค่ผู้อยู่อาศัย โดยปัจจุบันบ้านหลังนี้ ถูกกรมบังคับคดีสั่งยึดให้เป็นของธนาคารแล้วตั้งแต่ปี 2561 และยังทราบมาอีกว่า น.ส.ณัฐมา ได้ใช้บ้านหลังนี้หลอกหลวงให้คนมาเช่าในลักษณะนี้มาหลายรายแล้ว
นอกจากนี้ น.ส.ณัฐมา ยังมีพฤติกรรมไปเช่าบ้านอีกหลัง แล้วนำมาหลอกปล่อยให้ผู้เสียหายรายอื่นเช่าต่อ โดยมีผู้เสียหายอีกหลายราย ส่วนใหญ่จะเป็นนักศึกษา และคนต่างจังหวัดที่มาทำงานในจังหวัดนครราชสีมา ซึ่งผู้เสียหายหลายคนไม่ได้แจ้งความ แต่ก็มีผู้เสียหายบางคนแจ้งความไว้แล้วเช่นเดียวกัน แต่คดีไม่คืบ เพราะเรื่องที่เกิดขึ้นเป็นคดีแพ่ง สามารถยอมความกันได้ แต่จากพฤติกรรมที่งหมดแล้ว ตนเห็นว่าควรที่จะเป็นคดีอาญา เพราะเป็นคดีฉ้อโกงประชาชน มีการนำเข้าซึ่งข้อมูลอันเป็นเท็จผิดตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ และมีผู้เสียหายถูกหลอกลวงเป็นจำนวนมาก ซึ่งขณะนี้สามารถรวบรวมผู้เสียหายได้จำนวน 16 คนแล้ว และกำลังเตรียมที่จะเข้าไปแจ้งความดำเนินคดีกับ น.ส.ณัฐมา ในข้อหาฉ้อโกงประชาชนต่อไป
น.ส.แพรตะวัน ปิติวัชรเจริญสุข อายุ 36 ปี ผู้เสียหายอีกราย เปิดเผยว่า เมื่อช่วงเดือน ก.ย. 65 ตนเองติดต่อขอเช่าบ้านกับ น.ส.ณัฐมา จากกลุ่มเฟสบุ๊ค บ้านเช่าโคราช โดยถูกขอเบิกเงินล่วงหน้าเรื่อยมาหมดเงินไปกว่า 10,000 บาท ต่อมาเดือน ต.ค.65 ตนเองได้เข้ามาดูบ้านเพื่อเตรียมที่จะเข้ามาอยู่ตามกำหนด ในวันที่ 1 พ.ย. 65 แต่ รปภ.ของหมู่บ้านแจ้งว่า บ้านหลังนี้เข้าอยู่ไม่ได้ เพราะถูกธนาคารยึดไว้แล้ว ซึ่ง รปภ.บอกว่า มีคนถูกหลอกลักษณะนี้มาหลายคนแล้ว หลังจากนั้นตนก็ไม่สามารถติดต่อ น.ส.ณัฐมา ได้อีกเลย เพราะถูกบล็อกทุกช่องทาง ตนเองจึงได้ไปแจ้งความไว้ที่ สภ.โพธิ์กลาง อ.เมืองนครราชสีมา แค่คดีก็ยังไม่คืบหน้า จนทราบว่ามีผู้เสียหายหลายคนถูก น.ส.ณัฐมา หลอกลวงในลักษณะนี้ ตอนนี้เงินที่เสียไปไม่อยากได้แล้ว แต่อยากให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเร่งติดตามตัว น.ส.ณัฐมา มาดำเนินคดีให้ได้โดยเร็ว เพื่อไม่ให้ไปหลอกลวงเหยื่อรายอื่นอีก
แท็กที่เกี่ยวข้อง สาวแสบ ,ธนาคารยึด ,ปล่อยเช่า