ยายร้องสื่อ หลายชายถูกแฟนเก่า ลวงไปให้แฟนใหม่ จ่อยิงกระทืบปางตาย คดีไม่คืบ

วันนี้ (17 เม.ย.) เมื่อเวลา 15.00 น. ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ชุมชนสวนวัด ซอย 1 ต.เชิงเนิน อ.เมือง จ.ระยอง หลังได้รับแจ้งจากนางลัตนี สวยสด อายุ 62 ปี ว่า หลานชายชื่อ นายนภวัต งาช้าง อายุ 24 ปี ถูกลวงไปยิงและรุมกระทืบปางตาย ในเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อคืนวันที่ 15 เม.ย.66 เวลา 01.00 น. ตรงหลังร้าน แฮปปี้โซน ถนนราษฎรบำรุง อ.เมือง จ.ระยอง

โดยก่อนเกิดเหตุ นายนภวัต อาศัยอยู่กับย่า ที่บ้านพักในชุมชนสวนวัด จากนั้นมีแชทจากแฟนเก่าลวงว่า ได้ทะเลาะกับแฟนใหม่ ขอมานอนด้วย แต่ชวนไปกินข้าวก่อน

หลังจากแฟนเก่าซึ่งผันตัวเป็นนกต่อขี่รถจักรยานยนต์มารับที่บ้านพักพอไปถึงหลังร้านแฮปปี้โซน แฟนใหม่กับเพื่อนอีก 1 คนได้ซุ่มรออยู่ พอนายนภวัตไปถึง ปรากฎว่าแฟนใหม่ได้ชักปืนยิง 2 นัด แต่นายนภวัตปัดได้ จากนั้นแฟนของนางนกต่อกับพวกก็กระหน่ำกระทืบใช้หมวกฟาดจนนายนภวัตสลบจากนั้นนางนกต่อกับผู้ก่อเหตุก็ได้หนีไป หลังเกิดเหตุมีชาวบ้านมาพบเจอนายนภวัต นอนสลบอยู่จนมีการแจ้งกู้ภัยมาช่วยนำนายนภวัตส่งโรงพยาบาล

นางลัตนี ได้พาผู้สื่อข่าวดูจุดเกิดเหตุซึ่งยังพบคราบเลือดติดอยู่ตามพื้นถนน นางลัตนี เล่าอีกว่า ก่อนหลานชายโดนนางนกต่อลวงไปยิงและกระทืบปางตาย หลายชายหรือนายนภวัต ได้ไปเที่ยวสงกรานต์ ที่ถนนราษฎรบำรุง ปรากฎว่าได้มีการไปกระทบกระทั่งกับรุ่นน้องของผู้ก่อเหตุ ซึ่งเรื่องเครียร์กันจบไปแล้วมีการขอโทษกันไปแล้ว แต่เมื่อผู้ก่อเหตุซึ่งเป็นรุ่นพี่ของคนที่นายนภวัตไปกระทบกระทั่งด้วยทราบ จึงมีการวางแผนให้นางนกต่อมาลวงนายนภวัตออกไป จ่อยิงและรุมกระทืบปางตาย

นางลัตนี กลัวว่าคดีไม่คืบและผู้ก่อเหตุคือนางนกต่อรวมถึงผู้ก่อเหตุยังลอยนวลจึงร้องเรียนผ่านสื่ออีกช่องทางหนึ่ง เพื่อขอความเป็นธรรมในสิ่งที่เกิดขึ้นกับหลานชาย

ผู้สื่อข่าวได้วิดีโอคอลสัมภาษณ์ นายนภวัต ซึ่งตอนนี้นอนรักษาตัวอยู่ที่ รพ.ระยอง นายนภวัตยืนยันว่าถูกลวงไปจ่อยิงและรุมทำร้ายจริง ตอนนี้รอการผ่าตัดเลือดคั่งในสมองอาการหลังผ่าตัดยังไม่รู้จะกลับมาปกติหรือไม่

นายนภวัต ยังยืนยันว่าผู้ที่มาลวงตนเองไปถูกยิงและกระทืบนั้นคือแฟนเก่า ชื่อแบบ แฟนเก่าคนนี้หยุดคุยหยุดติดต่อกันไปนานแล้ว จนมาล่าสุดวันเกิดหตุเขาทักมาว่าทะเลาะกับแฟนขอมานอนด้วยแต่ขอให้พาไปกินข้าวก่อน แต่กลายเป็นว่าถูกลวงไปจ่อยิงและรุมกระทืบแทน

เบื้องต้นผู้เสียหายได้ร้องขอความเป็นธรรมกับสื่อมวลชนเพื่อตีแผ่ให้สังคมทราบว่าในพื้นที่จังหวัดระยองยังมีกลุ่มผู้มีอิทธิพลที่ก่อเหตุอย่างป่าเถื่อนไม่เกรงกลัวกฏหมายพร้อมขอให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ เร่งติดตามคดีด้วย