อาชญากรรม

หนุ่มแฝงตัว กลุ่มไลน์ผู้ปกครองรร.นานาชาติดัง หลอกทำวีซ่าไปเรียนต่างประเทศ

โดย attayuth_b

2 มี.ค. 2566

86 views

ตามนโยบายของ พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. และ พล.ต.อ.รอย อิงคไพโรจน์ รองผบ.ตร. / ผอ.ศูนย์ปราบปรามอาชญกรรมทางเทคโนโลยีให้ปราบปรามกลุ่มองค์กรอาชญากรรมที่กระทำความผิดในโลกออนไลน์ทุกรูปแบบที่สร้างความเดือนร้อนให้กับประชาชนผู้สุจริตจำนวนมาก โดยชุดลาดตระเวนออนไลน์ บก.สส.บช.น. ได้ออกลานตระเวนออนไลน์จนทราบถึงความเดือนร้อนจากประชาชน รวมทั้งมีผู้เสียหายร้องเรียนผ่านเพจ “ สืบสวนนครบาล IDMB ” ซึ่งถูกคนร้ายนายบอล ใจเป็นหญิง แฝงตัวเข้าไปในไลน์กลุ่มผู้ปกครองนักเรียนของโรงเรียนนานาชาติชื่อดังแห่งหนึ่งในกรุงเทพฯ

จากนั้นได้โพสต์ข้อความโฆษณาว่าสามารถทำวีซ่าเพื่อใช้ไปเรียนต่อต่างประเทศได้ หากใครสนใจให้ส่งข้อความส่วนตัวไปหานายบอล ซึ่งมีผู้เสียหายหลายรายสนใจ ต่อมาได้ปิดกั้นช่องทางการติดต่อทั้งหมด นักเรียนบางรายเงินเพื่อเดินทางหาความรู้แต่ต้องสูญเงินมูลค่าความเสียหายกว่า 300,000 บาท

เมื่อวานนี้ (1 มี.ค.) เวลา 08.30 น. พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น. พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รอง ผบช.น. สั่งการ พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. พ.ต.อ.เกียรติศักดิ์ สระทองออย รอง ผบก.สส.บช.น., พ.ต.อ.วรพจน์ รุ่งกระจ่าง รอง ผบก.สส.บช.น. พ.ต.อ.สมบูรณ์ สุขศรีดาวเดือน ผกก.สส.3 บก.สส.บช.น. พ.ต.ต.สัญญลักษ์  สังขะภักดี  สว.กก.สส.3 บก.สส.บช.น. ร.ต.ต.อภิสิทธิ์  ดวงใส รอง สว.กก.สส.3 บก.สส.บช.น. พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.สส.3 บก.สส.บช.น. ทำการจับกุมตัวนายปฎิพล หรือบอล (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 33 ปี  ที่อยู่ บ้านเลขที่ 219/703 หมู่ 12 ถ.เพชรเกษม ซอยเพชรเกษม 87 ต.อ้อมน้อย อ.กระทุ่มแบน จ.สมุทรสาคร ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลแขวงธนบุรี ที่ 370/2565 ลงวันที่ 7 ธันวาคม 2565 โดยกล่าวหาว่า "ฉ้อโกงทรัพย์"นำส่งพนักงานสอบสวน สน.ท่าข้าม ดำเนินคดีตามกฎหมาย

พฤติการณ์ในการกระทำความผิดคือ ขณะเกิดเหตุ เมื่อประมาณเดือนมีนาคม 2565 ผู้ต้องหาได้แฝงตัวเข้าไปในไลน์กลุ่มผู้ปกครองนักเรียนของโรงเรียนนานาชาติชื่อดังแห่งหนึ่งในกรุงเทพฯ จากนั้น ได้โพสต์ข้อความโฆษณาว่าสามารถทำวีซ่าเพื่อใช้ไปเรียนต่อต่างประเทศได้ หากใครสนใจให้ส่งข้อความส่วนตัวไปหาผู้ต้องหา ซึ่งมีผู้เสียหายหลายรายสนใจ จึงได้ติดต่อเพื่อทำวีซ่ากับผู้ต้องหา และจ่ายเงินค่าดำเนินการตามที่ผู้ต้องหาเรียกร้องมา และเมื่อถึงเวลาที่ตกลงกันไว้ ผู้เสียหายจึงได้ทวงถามความคืบหน้าการทำวีซ่ากับผู้ต้องหา แต่ปรากฎว่าผู้ต้องหาได้ปิดกั้นช่องทางการติดต่อทั้งหมด ทำให้ผู้เสียหายไม่สามารถติดต่อผู้ต้องหาได้ ผู้เสียหายทราบว่าถูกฉ้อโกงเอาเงินไปแน่นอนแล้ว จึงรวมตัวกันมาแจ้งความดำเนินคดีกับผู้ต้องหา โดยมีผู้เสียหายรวม 3 ราย ความเสียหายรายละ 100,000 บาท ซึ่งรวมแล้วมีมูลค่าความเสียหายมากกว่า 300,000 บาท

จากการตรวจสอบประวัติการกระทำความผิด พบว่าผู้ต้องหากระทำความผิดในลักษณะเดียวกันนี้ อีก 2คดี และมีหมายจับอื่นๆ อีก คือ

1.หมายจับศาลแขวงธนบุรี ที่ 371/2565 ลง 7 ธันวาคม 2565 ข้อหา "ฉ้อโกงทรัพย์" สน.ท่าข้าม

2.หมายจับศาลแขวงพระนครใต้ ที่ จ.207/2565 ลง 24 มิถุนายน 2565 ข้อหา"ยักยอกและฉัอโกง" สน.ทุ่งมหาเมฆ ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่าช่วง covid มีปัญหาเรื่องเงินจึงก่อเหตุ

พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผู้บังคับการสืบสวนสอบสวน กองบัญชาการตำรวจนครบาล เปิดเผยว่า นโยบายของ พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ และ พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ให้จัดชุดลาดตระเวนออนไลน์สืบสวนติดตามคนร้ายที่เป็นภัยออนไลน์ สร้างความเดือดร้อนให้กับประชาชนเป็นจำนวนมาก และยังก่อเหตุต่อเนื่อง จึงฝากเตือนไปยังประชาชนอย่าหลงเชื่อการหลอกลวงโดยอ้างเป็นหน่วยงานเอกชน หรือเป็นบุคคลอื่น ๆ รวมถึงการหลอกให้ลงทุนหรือก็ยืมเงินในรูปแบบต่างๆ เพื่อหลอกให้ประชาชนหลงเชื่อ และทำการโอนเงินไปยังบัญชีคนร้าย ซึ่งอาจก่อให้เกิดความเสียหายแก่ประชาชน


คุณอาจสนใจ

Related News