‘ครูบาไก่’ ปิดวาจา เข้าถ้ำปฎิธรรม ปลงอาบัติ ไม่มีกำหนด

วันนี้ (9 ก.พ.) เมื่อเวลา 15.00 น. ที่สภ.มัญจาคีรี จ.ขอนแก่น นายธรรมราช สาระปัญญา ทนายความของครูบาไก่ หรือพระสุวิทย์ ชินวโร ประธานที่พักสงฆ์วัดป่าปฐมเทวาราม บ้านป่าผุ ต.สวนหม่อน อ.มัญจาคีรี จ.ขอนแก่น นำหลักฐานเข้าเข้าแจ้งความร้องทุกข์กล่าวโทษกับ ร.ต.อ.พงษ์พิชิต ธนาพันธ์ภักดี รองสว.(สอบสวน) สภ.มัญจาคีรี ให้เอาผิดกับนางสาววาสนา เคลือบสูงเนิน หรืออิคคิว อายุ 33 ปี นางสาวคมคาย เวกนวล หรือบุ๋ม อายุ 43 ปี และนายชำนาญ อาจวาที หรือบอล อายุ 36 ปี ในข้อหา ร่วมกันฉ้อโกงประชาชน และ ลักทรัพย์โดยใช้กลอุบาย

ภายหลังแจ้งความ และมอบหลักฐานให้พนักงานสอบสวนเสร็จแล้ว นายธรรมราช สาระปัญญา ทนายความของครูบาไก่ ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนกรณีที่เข้าแจ้งความในวันนี้ว่า เนื่องจากว่า กฐินที่วัดครูบาไก่ในปี 2564 ซึ่งเป็นช่วงที่อิคคิวกับพวกยังไม่เข้ามา ได้เงินกว่า 7 ล้านบาท หลังจากนั้นในช่วงปลายปี 2564 อิคคิวก็เข้ามาอยู่ในวัด และมาจัดแจงทุกเรื่อง โดยเฉพาะกันสร้างวัตถุมงคล และการสร้างท้าวเวสสุวรรณ รวมถึงการจะสร้างศาลาท้าวเวสสุวรรณขึ้นในวัด

จากนั้นก็จะมีการทำบุญเพื่อสมทบทุนการก่อสร้างท้าวเวสสุวรรณ ศาลาท้าวเวสสุวรรณ โดยคนกลุ่มนี้ได้ให้ประชาชนที่ร่วมทำบุญนั้น โอนเงินเข้าบัญชีตัวเองแล้วจะได้รับวัตถุมงคลในรุ่นที่ทำบุญกฐินของปี 2565 และในบุญกฐินในปี2565 ได้เงินที่มีผู้ร่วมบุญประมาณ 9 แสนบาท เพราะถูกคนกลุ่มนี้ระบุว่า หากอยากได้วัตถุมงคล ต้องทำบุญโอนเข้าบัญชาเท่านั้น ชาวบ้านไม่ได้โอนเงิน จึงไม่ได้รับวัตถุมงคลในรุ่นทำบุญกฐินปี 2565ไป และในกรณีที่มีประชาชนโอนเงินร่วมทำบุญ รับวัตถุงมงคลไปนั้น ได้มีการสอบถามกับครูบาไก่และทางวัดแล้ว ได้รัยคำตอบว่า อิคคิวกับพวกไม่ได้มอบเงินให้ทางวัดแต่อย่างใด มีเพียงการเขียนตัวเลข 5 แสนบาท ให้กรรมการวัดประกาศว่าบริจาค แต่ไม่มีเงินมาให้ทางวัดแต่อย่างใด

นายธรรมราช กล่าวอีกว่า จึงได้รวบรวมพยาน หลักฐานทั้งคนที่โอนเงินเข้าบัญชีของกลุ่มอิคคิว และคนที่ไม่ได้โอนไว้แล้ว รวมถึงรวบรวมหลักฐานต่างๆที่เกี่ยวข้องจากทางโซเชียลที่อิคคิวกับพวกโพสเชิญชวนประชาชนมาร่วมทำบุญแต่ให้โอนเงินเขบัญชีส่วนตัวนั้น ยื่นต่อปปง.ให้ตรวจสอบเส้นทางการเงินไปแล้ว วันนี้จึงนำหลักฐานที่เกี่ยวข้องเข้าแจ้งความร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวน ให้มีการสอบสวนเอาผิดกับอิคคิวและพวกรวม 3 คนในข้อหาดังกล่าว

ขณะนี้ครูบาไก่ได้ไปเข้าถ้ำ โดยไม่มีกำหนด หลังจากที่ขอขมาพระอุปัฌาและคณะสงฆ์พร้อมทั้งเคลียร์เอกสารหลักฐานทางคดีให้ แล้วก็ปิดวาจาเข้ากรรม ปฏิบัติธรรมเพื่อปลงอาบัติ และออกจากวัดไป ซึ่งขณะนี้ก็เชื่อว่า ครูบาไก่ไม่มีอะไรที่ต้องเป็นห่วง เพราะเป็นหน้าที่ของตนที่เป็นทนายความ ในการติดต่อกับทางพนักงานสอบสวน แต่หากมีความจำเป็นที่สุดที่ต้องมาให้ปากคำกับพนักงานสอบสวน ก็จะประสานกับพระที่ติดตามดูแลครูบาไก่ให้ครูบาไก่ออกหรืออาจจะต้องเลื่อนการเข้าให้ปากคำออกไปอีก เพื่อให้ครูบาปฏิบัติธรรม โดยไม่ต้องมีความวิตกกังวลอะไรอีก และหากมีอะไรที่ต้องสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมจากครูบาไก่ ก็จะต้องรอทางครูบาไก่พร้อมเปิดวาจาก่อน ก็จะมีการแจ้งให้ทราบอีกครั้งหนึ่งกับทางเจ้าหน้าที่