จับนายก อบต.คนดัง คดียิงลูกบ้านดับปริศนา ญาติเหยื่อ หวั่นไม่ได้รับความเป็นธรรม

วันนี้ (20 ก.ย.) เมื่อเวลา 10.00 น. ที่ สภ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช พ.ต.อ.นัษฐวุฒิ ทองทิพย์ ผกก.สภ.เมืองนครศรีธรรมราชและพ.ต.ท.สุวิทย์ นวลสงค์ สว.(สอบสวน)สภ.เมืองนครศรีธรรมราช ได้อนุญาตให้ประกันตัวนายทรงศักดิ์ มุสิกอง หรือนายกหนึ่ง อายุ 46ปี นายก อบต.ปากนคร อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราชและนายทรงศักดิ์ยังมีตำแหน่งเป็น กต.ตร.ประจำสภ.เมืองนครศรีธรรมราช อยู่บ้านเลขที่ 120 หมู่ 6 ต.ปากนคร อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช ซึ่งเป็นตกเป็นผู้ต้องหาตามหมายจับของศาลจังหวัดนครศรีธรรมราช เลขที่ 344/2565 ลงวันที่ 19 ก.ย.65 ในข้อกล่าวหาร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา ร่วมกันมีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้อนุญาตและร่วมกันพาอาวุธปืนไปในเมืองหรือทางสาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาตและไม่มีเหตุอันสมควรและจำเป็นเร่งด่วน ซึ่งเบื้องต้นนายทรงศักดิ์หรือ “นายกหนึ่ง”

โดยนายทรงศักดิ์ ใช้หลักทรัพย์วงเงิน2แสนบาทประกันตัวออกไป โดยมีญาติๆและทีมงานนำรถตู้มารับตัวนายทรงศักดิ์ หรือ นายกหนึ่ง ออกด้านหลังโรงพักหลบผู้สื่อข่าวไปอย่างรวดเร็ว

สำหรับคดีนี้เกิดขึ้นเมื่อเวลา 22.00น.วันที่ 18ก.ย.ที่ผ่านมา ได้เกิดเหตุคนร้ายใช้อาวุธปืนลูกซองสั้นและ9มม.จำนวน 2กระบอกยิงนายยอดเพชร รอดศร อายุ 38ปี ได้รับบาดเจ็บสาหัส บริเวณหน้าบ้านเลขที่ 2/6 หมู่ 3 ต.ปากนคร อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช หลังจากตนและสามีเพิ่งกลับมาจากงานศพญาติจาก อ.ร่อนพิบูลย์ จ.นครศรีธรรมราช มาถึงบ้านแล้วตนได้เข้าบ้าน ส่วนสามีได้ถอดเสื้อออกมานั่งเล่นหน้าบ้านได้ไม่นาน

ขณะเกิดเหตุได้มีนางวาสนา ทองสุข อายุ 43ปี ซึ่งกำลังเข้าห้องน้ำปัสสาวะในบ้านได้ยินเสียงปืนดังขึ้น 3นัด นางวาสนา จึงวิ่งออกมาดูหน้าบ้านพบร่างนายยอดเพชรฯสามีนอนจมกองเลือดอยู่แล้ว และในที่เกิดเหตุได้พบนายทรงศักดิ์หรือนายกหนึ่ง พร้อมพวกรวม2คนขับรถยนต์กระบะตอนครึ่งสีดำ จอดเปิดไฟหน้ารถจอดอยู่ข้างร่างของสามี ห่างจากบ้านประมาณ 100เมตร นางวาสนาจึงรีบเดินไปที่รถ ได้เห็น นายทรงศักดิ์ มุสิกอง หรือนายกหนึ่ง ยืนท้ายรถยนต์กระบะด้านขวา และเห็นชายวัยรุ่นอีก 1 คนยืนท้ายกระบะ ด้านซ้าย กับมีชายวัยรุ่นอีก 1 คน ยืนอยู่ท้ายรถยนต์กระบะ ส่วนผู้ตายนอนได้รับบาดเจ็บอยู่ที่พื้นดิน ที่ท้ายรถกระบะด้านซ้าย(ทิศเหนือของรถ)

ขณะนั้นนายทรงศักดิ์ฯกับพวก จะพาผู้ตายขึ้นรถยนต์กระบะของนายทรงศักดิ์ แต่ภรรยาผู้ตายเข้าใจว่า จะพาสามีไปซ้อมทำร้าย เพราะเข้าใจว่าถูกทำร้ายในตอนแรก จึงได้ยกมือไหว้ขอร้องขอชีวิตบอกนายทรงศักดิฯ ว่า อย่าทำผู้ตาย ผู้ตายมีลูก 4 คน แต่นายทรงศักดิ์ฯ บอกว่าผู้ตายถูกยิง จะพาไปโรงพยาบาล แต่ภรรยาไม่ให้พาไป นายทรงศักดิ์ฯจึงบอกว่ามีตำรวจมาด้วย จากนั้นได้พาผู้ตายขึ้นรถ แล้วนางสาววาสนาฯ ขอไปด้วย นั่งด้านหลังกับผู้ตาย พร้อมกับชายวัยรุ่นอีก 1 คน ส่วนอีก 1 คน นั่งคู่ด้านหน้ากับนายทรงศักดิ์ฯ โดยนายทรงศักดิ์ฯ เป็นคนขับ แต่ระหว่างทางนายทรงศักดิ์ฯ ได้จอดรถให้คนร้ายที่นั่งท้ายกระบะลงระหว่างทาง 1 คน

จากนั้นเมื่อพานายยอดเพชรไปส่ง รพ.มหาราชนครศรีธรรมราช ส่งเข้าห้องฉุกเฉินแล้ว นายทรงศักดิ์ก็ขับรถออกไปทันที โดยไม่ได้แจ้งเหตุเรื่องผู้ตายถูกยิงแก่เจ้าหน้าที่ตำรวจแต่อย่างใด ผู้ตายมีบาดแผลบริเวณหน้าอกและปลายคางเป็นรูพรุน และบาดแผลชายโครงซ้าย อีก2แผล แพทย์ระบุบาดแผลน่าจะถูกยิงด้วยอาวุธปืนลูกซองสั้นและอาวุธปืน9มม.รวมจำนวน 2กระบอก ซึ่งแพทย์พยายามช่วยเหลือชีวิตสามีอย่างเต็มที่ แต่สุดท้ายไม่รอด นายยอดเพชรสามีมาเสียชีวิตที่ รพ.มหาราชฯเมื่อเวลา 08.30น.วันที่ 19 ก.ย.65 ที่ผ่านมา

ต่อมาเมื่อบ่ายวันที่ 19 ก.ย.65 พ.ต.อ.นัษฐวุฒิ ทองทิพย์ ผกก.สภ.เมืองนครศรีธรรมราชได้รับรายงานเหตุการณ์แล้วว่าผู้ก่อเหตุเป็นถึงนายก อบต.ปากนครและกต.ตร. จึงพร้อมด้วย พ.ต.ท.ธีระพล พุ่มชัย รอง ผกก.ป. พ.ต.ท.สมเชิญ ทองใหญ่ รอง ผกก.(สอบสวน) พ.ต.ท.สุวิทย์ นวลสงค์ สว.(สส.) พ.ต.ท.ณัฐภัทร พุทธังกุโร สว.สส.และตำรวจชุดสืบสวนลงพื้นที่ออกทำการสืบสวนสอบสวนและรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อออกหมายจับคนร้าย

ล่าสุดเมื่อค่ำ19 ก.ย.ทาง พ.ต.อ.นัษฐวุฒิ ทองทิพย์ ผกก.สภ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช ได้เชิญตัวนายทรงศักดิ์หรือนายกหนึ่งมาทำการสอบสวนปากคำที่ห้องสอบสวน สภ.เมืองนครศรีธรรมราช เป็นจังหวะที่ศาลจังหวัดนครศรีธรรมราช ได้อนุมัติออกหมายจับนายทรงศักดิ์หรือนายกหนึ่ง ทาง พ.ต.อ.นัษฐวุฒิ จึงนำหมายจับของศาลไปแจ้งข้อหาจับกุมนายทรงศักดิ์หรือนายกหนึ่งทันที

ซึ่งเบื้องต้นนายทรงศักดิ์ หรือนายกหนึ่งให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา อ้างว่าขณะเกิดเหตุกำลังจะขับรถพร้อมลูกน้องไปดูนากุ้ง ผ่านไปเจอนายยอดเพชรถูกยิงได้รับบาดเจ็บพอดี จึงลงไปช่วยเหลือนำร่างนายยอดพชร ส่ง รพ.มหาราชนครศรีธรรมราช และเสียชีวิตเวลาต่อมา ซึ่งตนไม่ได้เป็นคนก่อเหตุตามที่เข้าใจกัน

แต่ทาง พ.ต.อ.นัษฐวุฒิ ทองทิพย์ ผกก.สภ.เมืองนครศรีธรรมราช เผยว่าแม้ผู้ต้องหาจะปฏิเสธแต่ตำรวจมั่นใจมีน้ำหนักพยานหลักฐานมากพอจึงอนุมัติศาลออกหมายจับดังกล่าว ซึ่งตำรวจทำคดีอย่างตรงไปตรงมาไม่ต้องกลัวว่าตำรวจะเข้าข้างใคร โดยหลังออกหมายจับนายทรงศักดิ์แล้วตำรวจได้คุมตัวนายทรงศักดิ์ เข้าห้องขังทันที พร้อมนำอาวุธปืน9มม.จำนวน 1กระบอก,อาวุธปืน.380 จำนวน 3กระบอกรวม 4กระบอกของนายทรงศักดิ์ มาทำการตรวจสอบอย่างละเอียดแล้วและตรวจหารอยเขม่าดินปืนที่มือนายทรงศักดิ์แล้วด้วย

ส่วนที่ตำรวจอนุญาตให้ประกันตัวนายทรงศักดิ์ ด้วยหลักทรัพย์2แสนบาทเพราะเห็นว่าผู้ต้องหามีตำแหน่งหน้าที่การงานซึ่งเชื่อว่าจะไม่หลบหนี จึงอนุญาตให้ประกันตัวออกไปในเช้าวันนี้(20ก.ย.) ส่วนผู้ต้องหาที่เหลืออีก2คน ตำรวจกำลังเร่งรวบรวบรวมหลักฐานเพื่อเสจอขออนุมัติศาลออกหมายจับผู้ต้องหาที่เหลือเพิ่มเติมต่อไปในเร็วๆนี้

ขณะที่ศพของนายยอดเพชร รอดศร บ่ายวันนี้(20ก.ย.)หลังแพทย์ทำการผ่าชันสูตรพลิกศพแล้ว ทางนายวาสนา ทองสุข เมียและญาติๆได้รับศพนายยอดเพชร สามีออกจาก รพ.มหาราชนครศรีธรรมราช ไปตั้งบำเพ็ญกุศลศพที่วัดคีรีรัตนารามหรือวัดเผียน หมู่ 6 ต.หินตก อ.ร่อนพิบูลย์ จ.นครศรีธรรมราช ท่ามกลางญาติๆมาร่วมรดน้ำศพและบรรยากาศเศร้าโศกเสียใจ โดยมีกำหนดฌาปนกิจศพนายยอดเพชร ในวันที่ 26 ก.ย.65 ที่วัดแห่งเดียวกัน

ซึ่งนางวาสนา เมียผู้ตายเผยว่า ขณะเกิดเหตุนายยอดเพชรสามีตนถูกยิงตนไม่เห็นขณะสามีถูกยิงว่าใครเป็นคนยิง เนื่องจากอยู่ในบ้านกำลังนั่งปัสสาวะในห้องน้ำ แต่พอได้ยินเสียงปืนดัง3-4นัดก็ตกใจรีบวิ่งออกมามาดูหน้าบ้านก็พบร่างสามีถูกยิงเจ็บสาหัสแล้ว โดยมีนายทรงศักดิ์หรือนายกหนึ่งพร้อมพวกรวม3คนยืนในที่เกิดเหตุแล้ว แต่เมื่อตำรวจออกหมายจับนายทรงศักดิ์หรือนายกหนึ่งก็เชื่อว่าตำรวจน่าจะมีพยานหลักฐานมากพอที่จะออกหมายจับนายทรงศักดิ์หรือนายกหนึ่งในครั้งนี้ ก็คงปล่อยให้เป็นหน้าที่ของตำรวจในการทำคดีนี้ต่อไป และขอให้ความเป็นธรรมให้กับตนและครอบครัวด้วย เพราะขาดที่พึ่งเสาหลักของครอบครัวไปแล้วไม่รู้จะไปพึ่งใครนอกจากตำรวจ และคนก่อเหตุก็เป็นผู้กว้างขวางในพื้นที่จนไม่มีใครกล้าสู้กับบุคคลเหล่านี้ นางวาสนากล่าวกับผู้สื่อข่าวในที่สุด

ขณะที่ผู้สื่อข่าวได้พยายามติดต่อนายทรงศักดิ์หรือนายกหนึ่ง แต่ยังไม่สามารถติดต่อได้ ซึ่งจะได้ติดต่อสอบถามข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นจากนายทรงศักดิ์หรือนายกหนึ่งต่อไป

ผู้สื่อข่าวรายงานสำหรับสาเหตุลึกๆของคดีนี้น่าจะมาจากเรื่องที่ทางกลุ่มของนายทรงศักดิ์ ได้เคยห้ามปรามนายยอดเพชรไปจับปลาในบ่อปลาแห่งหนึ่งในหมู่บ้าน แต่ห้ามไม่ฟังทำให้นายทรงศักดิ์และพวกอาจจะโกรธแค้นพาพวกมายิงสั่งสอนแต่เกิดพลาดยิงเข้าจุดสำคัญทำให้นายยอดเพชรเสียชีวิตดังกล่าว ซึ่งทางตำรวจกำลังเร่งคลี่คลายคดีต่อไปแล้ว