สังคม

นาทีระทึก! คนร้ายปาระเบิดใส่ร้านกาแฟดัง นายก อบต.-ตำรวจ สติดีโดดหนี คาดลอบสังหาร จนท.รายวัน

โดย passamon_a

11 มี.ค. 2567

790 views

ปัตตานี คลิปคนร้ายปาระเบิดใส่คาเฟ่อเมซอน นายก อบต.เจ็บ ส่งชุดสืบล่ามือปาระเบิด พร้อมคุมเข้มทุกด่าน แม่ทัพน้อยสั่งรักษาความปลอดภัยเดือนรอมฎอน


ช่วงเช้า วันที่ 10 มี.ค.67 เวลาประมาณ 10.00 น. เกิดเหตุคนร้ายขว้างระเบิดใส่ร้านคาเฟ่อเมซอน ที่ตั้งอยู่ภายในปั๊ม ปตท.ทุ่งยางแดง หมู่ 6 ต.น้ำดำ อ.ทุ่งยางแดง จ.ปัตตานี ทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 1 ราย


กล้องวงจรปิดภายในร้านกาแฟบันทึกภาพไว้ได้ ขณะที่ นายซอบรี เปาะซู นายกองค์การบริหารส่วนตำบลน้ำดำ, พ.ต.ท.วีระวัฒน์ ดำรงกูล สวป.สภ.ทุ่งยางแดง และตำรวจอีก 1 นาย กำลังนั่งคุยกันที่โต๊ะหน้าร้าน สักพักมีคนโยนระเบิดข้ามรั้วต้นไม้เข้ามา 2 ลูก ลูกแรกตกอยู่ใต้โต๊ะ อีกลูกไปตกอยู่ที่ด้านหลังโต๊ะ ทั้ง 3 คนตาไวเห็นระเบิด รีบกระโดดหนีออกจากโต๊ะและหมอบลงกับพื้น ไถลตัวไปให้ห่างจากระเบิดมากที่สุด จากนั้นไม่กี่วินาทีถัดมา กล้องวงจรปิดก็สั่นอย่างแรง เพราะเกิดระเบิดขึ้น ก่อนที่กล้องจะจับภาพอีกครั้ง สภาพบริเวณหน้าร้านกาแฟพังเสียหายจากแรงระเบิด


ระเบิดลูกแรกทำให้ลูกค้าพากันวิ่งหนีออกจากร้าน ส่วนเจ้าหน้าที่ที่ประสบเหตุทั้ง 3 คน มีอาการหูอื้อ ส่วนนายซอบรี ได้รับบาดเจ็บจากสะเก็ดระเบิดที่แขนและลำตัวเล็กน้อย ถูกนำตัวส่งโรงพยาบาล และหลังจากนั้นประมาณ 1.30 น. ระเบิดลูกที่ 2 จึงระเบิดขึ้น แต่ตอนนั้นไม่มีใครอยู่ในร้านแล้ว จึงไม่มีใครได้รับบาดเจ็บ  


หลังเกิดเหตุ พ.ต.อ.อลัมต์ เมฆารัฐ ผกก.สภ.ทุ่งยางแดง นำกำลังเจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ และปิดกั้นบริเวณที่เกิดเหตุ เพื่อป้องกันเหตุซ้ำซ้อน ก่อนที่ชุดเก็บกู้วัตถุระเบิดเข้าตรวจสอบ เพื่อให้แน่ใจว่าปลอดภัย จากการตรวจสอบจุดเกิดเหตุ ซึ่งอยู่บริเวณด้านนอกห้องกระจกของร้าน แรงระเบิดทำให้กระจกร้านแตกกระจายเสียหายทั้งหมด โต๊ะเก้าอี้ล้มระเนระนาด ในที่เกิดเหตุพบกระบอกเหล็กทรงกลมตกอยู่ที่พื้น และมีชิ้นส่วนระเบิดกระจายไปทั่ว เจ้าหน้าที่จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน


พ.ต.อ.อลัมต์ เมฆารัฐ ผกก.สภ.ทุ่งยางแดง เปิดเผยว่า ช่วงเกิดเหตุร้านคาเฟ่ดังกล่าวเปิดให้บริการเหมือนทุกวัน โดยมีประชาชนและเจ้าหน้าที่มานั่งดื่มกาแฟหรือซื้อกลับบ้านตามปกติ ขณะเกิดเหตุนั้นนายซอบรี เปาะซู นายก อบต.น้ำดำ นั่งดื่มกาแฟกับเจ้าหน้าที่ตำรวจอีก 2 นาย ที่ด้านหน้าร้าน มีคนร้ายไม่ทราบจำนวน คาดว่าแอบเข้ามาจากด้านหลังของร้าน ขว้างระเบิดไปป์บอมบ์เข้ามา ทั้งสามคนเห็นจึงกระโดดหนี ก่อนที่จะเกิดระเบิดขึ้นเสียงดังสนั่น ทำให้ลูกค้าและพนักงานที่อยู่ในร้านต่างตกใจหนีออกจากร้าน


ส่วนระเบิดลูกที่ 2 ไม่ทำงาน จนผ่านไป 1.30 น. ระเบิดลูกที่ 2 จึงทำงาน แต่ไม่มีใครอยู่ที่ร้านแล้ว จึงไม่มีผู้บาดเจ็บเพิ่ม ส่วนสาเหตุเชื่อว่าเป็นฝีมือกลุ่มก่อความไม่สงบ พยายามทำร้ายเจ้าหน้าที่ของรัฐเพื่อหวังสร้างสถานการณ์  


โดยได้สั่งการให้ชุดสืบสวนสอบสวน สนธิกำลังร่วมกับทุกฝ่ายในพื้นที่ แกะรอยติดตามกลุ่มคนร้ายที่ก่อเหตุแล้ว โดยเฉพาะตรวจสอบกล้องวงจรปิดทุกตัวทั้งบริเวณที่เกิดเหตุและจุดต่าง ๆ พร้อมทั้งปิดล้อมตรวจค้นพื้นที่เป้าหมายในรัศมี 500 เมตร เชื่อว่าคนร้ายน่าจะมีไม่ต่ำกว่า 2-4 คน และเป็นกลุ่มก่อความไม่สงบที่เคยก่อเหตุในพื้นที่ เนื่องจากรู้เส้นทางหลบหนี


ด้าน พล.ต.ต.สันทัศน์ เชื้อพุฒตาล ผบก.ภ.จ.ปัตตานี กำชับให้เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนสอบสวนจังหวัดปัตตานี ลงพื้นที่เพื่อขยายผลจากพยานหลักฐานเกี่ยวกับรูปพรรณคนร้ายที่ก่อเหตุ พร้อมเพิ่มมาตรการคุมเข้มรักษาความปลอดภัยก่อนเข้าสู่เดือนรอมฎอน เนื่องจากมีรายงานเพิ่มเติมว่า กลุ่มผู้ก่อเหตุรุนแรงยังคงมีความพยายามที่จะก่อกวนในพื้นที่ ซึ่งเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงได้เพิ่มกำลังคุมเข้มความปลอดภัยทุก 4 มุมเมือง ประตูเข้า-ออกเขตเทศบาลเมืองปัตตานี โดยตั้งด่านตรวจยานพาหนะ เน้นรถยนต์และรถจักรยานยนต์ที่เป็นรถเป้าหมาย และตรวจบุคคลที่มีระบุตามหมายจับ รวมทั้งจัดชุดลาดตระเวนขนาดเล็ก รถจักรยานยนต์ รถยนต์ ตรวจตราตามเส้นทางต่าง ๆ ในพื้นที่รอบนอก พร้อมทั้งกำชับไปยังอำเภอต่าง ๆ ในพื้นที่จังหวัดปัตตานี ให้คุมเข้มเป็นพิเศษในระหว่างนี้ เพื่อป้องกันกลุ่มผู้ก่อความไม่สงบก่อเหตุความไม่สงบก่อนเข้าสู่เดือนรอมฎอน


ทางด้าน พล.ท.ปราโมทย์ พรหมอินทร์ แม่ทัพน้อยที่ 4 เปิดเผยว่า กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า มีหน้าที่สำคัญในการรักษาความปลอดภัยในพื้นที่ และเพื่อบรรยากาศที่ดีในช่วงเดือนรอมฎอน เจ้าหน้าที่มีการลดระดับการปิดล้อมในพื้นที่  ยกเว้นมีความจำเป็นจริง ๆ หรือเป็นเป้าหมายที่ไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้ ส่วนด่านตรวจก็จะมุ่งเน้นการอำนวยความสะดวกของประชาชน อีกทั้งป้ายหมายจับที่ด่านตรวจ ซึ่งเป็นอำนาจของพนักงานสอบสวนที่ไม่สามารถละเว้นได้ แต่สามารถที่จะปรับเปลี่ยนรูปแบบของป้ายหมายจับ เพื่อไม่ให้เกิดผลกระทบของความรู้สึกของประชาชน


อย่างไรก็ตาม แม่ทัพภาคที่ 4 เป็นห่วงในเรื่องความปลอดภัยของกำลังพล ซึ่งมุ่งเน้นให้เจ้าหน้าที่ประกอบศาสนากิจภายในฐานปฏิบัติการเพื่อความปลอดภัย โดยเฉพาะ 10 วันสุดท้ายของเดือนรอมฎอน ก็จะมีการเน้น และกำชับให้ดูแลฐานปฏิบัติการอย่างเข้มงวด และกิจกรรมที่จะเดินทางไปละศีลอดกับประชาชนนั้น ก็จะพยายามหลีกเลี่ยง ยกเว้นการจัดงานในภาพรวมเท่านั้น


รับชมผ่านยูทูบได้ที่ : https://youtu.be/fQg8qmRW8zc


คุณอาจสนใจ