อาชญากรรม

ทนาย 'อธิบดีกรมการข้าว' หวั่นใจ 'นาย จ.' ถูกปลดพ้นพนักงานของรัฐ อาจทำ ปปป. ไม่มีอำนาจสอบสวน

โดย nut_p

28 ม.ค. 2567

84 views

หลังจากกรณีที่ตำรวจกองบังคับการป้องกันและปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ หรือ ปปป. ได้เข้าจับนาย ศรีสุวรรณ จรรยา และพวก ในคดีข่มขู่เรียกรับเงินนาย ณัฏฐกิตติ์ ของทิพย์ อธิบดีกรมการข้าว แลกกับการไม่ร้องเรียน วันนี้ ยังมีหลักฐานต่างๆ ทยอยถูกเปิดเผย



วันนี้ นาย ณัฏฐกิตติ์ ของทิพย์ อธิบดีกรมการข้าว พร้อมภรรยา ได้เข้าพบพนักงานสอบสวนของกองบังคับการ ปปป. พร้อมกับนำสมุดบัญชีธนาคารของตัวเองและของภรรยา 20 เล่ม ไปมอบให้ตำรวจตรวจสอบเพื่อความบริสุทธิ์ใจว่า ไม่มีเส้นทางการเงินไปเกี่ยวข้องกับผลประโยชน์ ตามที่ถูกข่มขู่เรียกรับ



ขณะที่ภรรยาอธิบดีกรมการข้าว ได้เปิดเผยว่า มีหลักฐานอีกมาก ยิ่งวันเกิดเหตุ ยิ่งชัดเจนทุกอย่าง ทุกถ้อยคำ ได้รวบรวมหลักฐานทั้งหมดส่งให้กับเจ้าหน้าที่แล้ว



นอกจากการเข้าให้ปากคำของอธิบดีกรมการข้าวและภรรยาแล้ว วันนี้ผู้สื่อข่าวยังได้รับการเปิดเผยจาก นายดนุเดช ศิริวงษ์ตระกูล ทนายที่ปรึกษากฎหมายอธิบดีกรมการข้าว และอนุญาตให้ทีมข่าวบันทึกคลิปเสียงสนทนาบางส่วนมาเผยแพร่ รวมถึงแชทสนทนาบางส่วนของกลุ่มผู้ต้องหา ที่ได้ติดต่อกับอธิบดีกรมข้าว



คลิปแรก ถูกระบุว่า เป็นคลิปเสียงการสนทนาของภรรยาอธิบดีกรมการข้าว กับ นาย จ. ซึ่งบันทึกเมื่อวันที่ 21 ธันวาคม 66 ซึ่งในคลิปฝ่ายนาย จ. ระบุว่า กว่าจะพิสูจน์ทราบมาได้ว่าเราบริสุทธิ์ผุดผ่องเป็นยองใย มันเหนื่อยแล้วมันก็มัวหมอง และมีการต่อรองเงินกัน โดยใช้คำว่า "กิโล" แทนคำว่า "ล้านบาท" ซึ่งในคลิปจะมีการต่อรองว่าขอก่อนปีใหม่



นอกจากนี้ ระหว่างที่คุยกับภรรยาอธิบดีกรมข้าว นาย จ. ยังมีการพูดพาดพิงถึง อธิบดีกรมฝนหลวง ว่า "คนที่จะติดคุกด้วยคือ อธิบดีกรมฝนหลวง" โดยอ้างว่ามีการได้ล็อกทีโออาร์ ถ้าไม่ให้เรื่องบานปลาย พยายามให้จ่าย นาย ศ. จะได้จบๆ เพราะมีการนัดนักข่าวแล้ว



นอกจากนี้ยังมีอีกหนึ่งคลิปเสียงสนทนาระหว่างนางธัญญรัตน์ ภรรยาอธิบดีกรมการข้าว คุยกับ นาย ศ. โดยเป็นการคุยกันหลังจากที่มีการโอนเงินไปให้ส่วนหนึ่งแล้ว แต่ยังโอนไม่ครบตามจำนวนที่ตกลงกันคือ 1.5 ล้าน ทำให้ต้องมีการเจรจาว่า ต้องจ่ายเงินส่วนที่เหลืออีก และบอกว่า เขาจะไปคุยอะไรมันก็เป็นเรื่องของเขา ไม่เกี่ยวกับตนเอง



ทั้งนี้ นายดนุเดช ยังเปิดเผยอีกว่า สำหรับเรื่องดังกล่าวได้มีการติดตาม และติดต่อรับเงินกัน หลังจากที่มีการแถลงข่าวของนายศรีสุวรรณ เมื่อวันที่ 20 ธันวาคม 66 จากนั้นจึงมีการนัดพูดคุยกันระหว่าง นาย จ. กับอธิบดีกรมการข้าว ในวันที่ 21 ธันวาคมที่ผ่านมา ช่วงเที่ยง เช่นเดียวกับ เลขาของนาย จ. ก็ปรากฏภาพที่กรมการข้าวด้วยเช่นกัน



หลังจากนั้น จึงเป็นที่มาของคลิปเสียง คลิปแรก รวมถึงสลิปการโอนเงินจำนวน 2 ฉบับ ฉบับแรกจำนวนเงิน 50,000 บาท ในวันที่ 21 ธันวาคม 66 และอีกสลิปจำนวนเงิน 10,000 บาท ในวันที่ 23 ธันวาคม 66 โดยมีการอ้างว่าได้โอนให้กับเลขา และชื่อบัญชีเป็นชื่ออีกคนหนึ่ง ซึ่งอาจเป็นบัญชีม้า



พร้อมกันนี้ ยังมีแชทข้อความบางส่วนที่มีการเขียนมาว่า " 1 ขีดพอค่ะ จะได้มีเงินเที่ยวปีใหม่ เขาจะได้จบ" ก่อนที่จะมีการถามขอเลขบัญชี ซึ่งพบว่ามีสลิปการโอนเงิน



นายดนุเดช ยังให้ข้อมูลอีกว่า สำหรับการคุยต่อรองกับนายศรีสุวรรณนั้น ทางภรรยาของอธิบดีกรมการข้าว เคยเดินทางไปพบที่บ้านพักในจังหวัดปทุมธานี พร้อมกับที่ปรึกษาท่านหนึ่ง ช่วงปลายปีที่แล้ว อ้างว่าเพื่อพุดคุยเรื่องการจ่ายเงิน



นายดนุเดช ยังได้แสดงความเป็นห่วงว่า คำสั่งยกเลิกการแต่งตั้ง นาย จ. ออกจากคณะทำงานของรองนายกรัฐมนตรีตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน จะทำให้สถานะของนาย จ. ไม่เป็นเจ้าพนักงานของรัฐหรือไม่ และความผิดนั้นจะทำให้ ตำรวจ ปปป. ไม่มีอำนาจสอบสวนหรือไม่ และจะทำให้นาย ศ. ไม่มีความผิดฐานเป็นผู้สนับสนุนเจ้าพนักงานของรัฐกระทำความผิดตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ พ.ศ.2561 มาตรา 171-172 และ173 หรือไม่



อีกด้านหนึ่ง นายสมชัย ศรีสุทธิยากร อดีตกรรมการการเลือกตั้ง หรือ กกต.ได้ออกมาโพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัว พูดถึงกรณีที่ นายศรีสุวรรณ ถูกซ้อนและวางแผนจับกุม โดยเขียนข้อความระบุว่า ศรีสุวรรณ ร้องอะไร ..ประเด็นที่พี่สีร้อง ให้มีการตรวจสอบ คือ การใช้งบประมาณ กรมการข้าว 19,609 ล้านบาท ซึ่งมีรายการหลัก คือ โครงการสนับสนุนลดต้นทุนการผลิตด้านการเกษตรสำหรับเกษตรกรผู้ปลูกข้าว 15,260 ล้านบาท ตามเอกสารงบประมาณ ปี 2566 พร้อมแจกแจงรายละเอียดเป็นข้อๆ ดังนี้



1. รายการดังกล่าว เป็นรายการที่ผมเคยตั้งข้อสังเกตในการประชุม คณะกรรมาธิการงบประมาณ 2566 ว่า เป็นงบที่เพิ่มมาแบบผิดปกติ ถึง 15,260 ล้าน โดยเป็นการจัดซื้อครุภัณฑ์ทางการเกษตร ให้แก่ ศูนย์ข้าวชุมชน 5,000 แห่ง แห่งละ 3 ล้านบาท ทั้งๆ ที่ศูนย์ข้าวชุมชน ในขณะนั้น มีเพียง 2,400 แห่งเศษ และที่เข้มแข็งจริงมีไม่ถึง 1,000 แห่ง



2. รายการดังกล่าว ถูกยกเลิก และโอนไปให้กระทรวงพาณิชย์ เพื่อสมทบเงินช่วยเหลือชาวนารายย่อย ไร่ละ 1,000 บาท ไม่เกินรายละ 20 ไร่ ตามมติ ครม. 15 พฤศจิกายน 2565



3. กรมการข้าว ได้จ่ายเงิน 15,225 ล้านบาท ให้ ธ.ก.ส. เพื่อไปแจกจ่ายชาวนาตามมติ ครม. เท่ากับ กรมการข้าว มีแค่ตัวเลขงบประมาณ แต่เงินถูกไปบริหารโดย ธ.ก.ส. ดังนั้น อธิบดีกรมการข้าว จึงไม่รู้สึกว่า ทำไมตนต้องเดือดร้อน เมื่อพี่สีจะแฉความไม่ชอบมาพากล เพราะตนไม่เกี่ยวแล้ว จึงเป็นที่มาของการวางแผนจับกุม



4. งานนี้จะมีเบื้องหน้า เบื้องหลังอะไรอีก ยังไม่ทราบ ทราบแต่ว่า พี่สีที่เคยร้องเรื่องต่างๆ มาตลอด คราวนี้ ต้องร้องโอ๊ย

คุณอาจสนใจ

Related News