เกิดเหตุสลด เมื่อขณะรถบัสทัศนศึกษาของโรงเรียนแห่งหนึ่งในตัวเมืองฉะเชิงเทรา กำลังจะพานักเรียนไปทัศนศึกษา โดยไม่ทันเห็นว่ามีเด็กล้มอยู่ข้างรถจนขาหลุดเข้าไปใต้ท้องรถ ทำให้ถูกล้อหลังรถบัสเหยียบและขุดไปกับพื้นถนน จนผู้ปกครองของเด็กคนอื่นที่มาส่งลูกเห็นเหตุการณ์ รีบไปทุบให้รถบัสจอดแล้วดึงเด็กออกมาจากใต้ท้องรถ ในสภาพที่ต้นขาขวาจนถึงหัวเข่าเนื้อฉีกขาดจนเห็นกระดูก





เมื่อเวลา 07.20 น. วันที่ 8ส.ค.66 ร.ต.อ.บัณฑิต ทรัพย์คง รองสารวัตรสอบสวนสถานีตำรวจภูธรเมืองฉะเชิงเทรา ได้รับแจ้งเหตุว่ามีรถบัสเฉี่ยวชนนักเรียนจนได้รับบาดเจ็บสาหัส ที่บริเวณลานจอดรถวัดแห่งหนึ่ง ตำบลบางตีนเป็ด อำเภอเมืองฉะเชิงเทรา จึงได้เดินทางไปตรวจสอบในที่เกิดเหตุพร้อมกับเจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยฉะเชิงเทรา เมื่อไปถึงที่เกิดเหตุพบผู้ได้รับบาดเจ็บเป็นชาย 1 ราย ในสภาพนอนคว่ำหน้า กางเกงฉีกขาด และมีบาดแผลขนาดใหญ่ตั้งแต่ช่วงก้นจน เกือบถึงหัวเข่าด้านขวา จนมองเห็นกระดูก มีเลือดไหลเป็นจำนวนมาก





โดยทราบชื่อต่อมาคือเด็กชาย เอ (นามสมมติ) นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 ของโรงเรียนแห่งหนึ่ง เจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยฉะเชิงเทราเร่งทำการปฐมพยาบาลก่อนนำตัวส่งโรงพยาบาลพุทธโสธร จากการสอบถามนางสาวณิชกุล ผู้ปกครองของนักเรียนคนหนึ่งที่เดินทางมาส่งบุตรสาวเพื่อไปทัศนศึกษาในขบวนรถบัสครั้งนี้ กล่าวว่า ตนเองมาส่งลูกสาวขึ้นรถ และได้ยินเสียงเด็กร้องจึงหันไปดู ก็พบว่าเด็กชายเอ ล้มลงไปนอนอยู่ใต้ท้องรถบัสตรงช่วงล้อหลัง และกำลังถูกล้อลากไปกับพื้นถนน ตนจึงรีบไปทุบรถบัสให้จอด




จากนั้นก็รีบไปลากเด็กออกมาจากใต้ท้องรถ ก็พบว่ามีบาดแผลขนาดใหญ่มาก จนเนื้อบริเวณนั้นหลุด และฉีกขาด จนเห็นกระดูก จึงได้รีบประสานเจ้าหน้าที่กู้ภัยให้เข้ามาให้การช่วยเหลือ ด้านนายศักดา อายุ 50 ปี คนขับรถบัส ทะเบียนฉะเชิงเทรา ให้การว่า ตนเองกำลังขับรถบัสเพื่อพานักเรียนไปทัศนศึกษา โดยในขบวนที่รถบัสทั้งสิ้น 6 คัน ตนเองเป็นคันที่ 4 ซึ่งขณะเกิดเหตุ เป็นช่วงที่รถกำลังเริ่มออกตัว โดยมีรถตำรวจนำทาง และมีรถบัสคันที่ 1-3 ขับออกไปแล้ว ในลักษณะตามๆ กันเป็นแถว แต่ช่วงที่ตนเองกำลังเคลื่อนรถไปได้ระยะหนึ่งก็มีนางสาวณิชกุลวิ่งมาทุบที่รถเพื่อให้จอด ตนจึงหันไปมองก็พบว่ามีเด็กอยู่ใต้ท้องรถแล้วจึงรีบจอดทันที แล้วนางสาวณิชกุลก็รีบก้มไปดึงเด็กออกมาจากใต้ท้องรถ ซึ่งตนเองไม่รู้ว่าเด็กล้มหรือว่าเกิดจากสาเหตุอะไร ถึงได้เข้าไปนอนอยู่ใต้ท้องรถ






ในขณะที่นายศราวุฒิ อายุ 53 ปี คนขับรถตู้โตโยต้า ซึ่งเป็นรถรับส่งนักเรียน ที่เด็กชายเอนั่งมา ได้กล่าวว่า ตนเองจะส่งนักเรียนบริเวณลานจอดรถของทางวัดเป็นประจำทุกวัน ซึ่งวันนี้เด็กที่นั่งมาในรถจำนวน 10 คน ก็ได้ลงจากรถจนหมดแล้ว และเด็กๆ ก็จะรีบเดินเข้าโรงเรียน เหลือเพียงเด็กโต ที่ต้องรอกระเป๋านักเรียนที่อยู่ท้ายรถตู้ ซึ่งตนเองจะเป็นคนไปเปิดท้ายเพื่อหยิบกระเป๋าให้นักเรียน จนกระทั่งได้ยินเสียร้อง จึงหันไปดู ก็พบว่าเด็กชายเอ อยู่ใต้ท้องรถและมีนางสาวณิชกุล กำลังดึงเด็กชายเอ ออกมาจากใต้ท้องรถ




ส่วนเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นได้อย่างไร ไม่มีใครเห็น แต่ทางคุณครูบอกว่าเห็นเด็กชายเอเดินอยู่ข้างรถบัส โบกไม้โบกมือกับเพื่อนๆ ที่อยู่บนรถ จากนั้นก็ไม่ทราบว่าเกิดอะไร จนกระทั่งเด็กชายเอ ถูกรถทับลากไปกับพื้นถนนแล้ว ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจะได้ทำการตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดที่อยู่ภายในวัด ว่าจะมีตัวไหนเห็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นได้บ้าง แต่ในเบื้องต้นเด็กชายเอเริ่มมีอาการเหงื่อออก ตัวเย็น และดูเหมือนจะเป็นลม คงเป็นเพราะพิษบาดแผลและเสียเลือดมาก