เมียหลวง 'เสี่ยก้อง' พร้อมสู้คดี พิสูจน์ความจริง ชี้คู่กรณี-น้องชายแจงสื่อ ไม่เป็นความจริง

อาชญากรรม

เมียหลวง 'เสี่ยก้อง' พร้อมสู้คดี พิสูจน์ความจริง ชี้คู่กรณี-น้องชายแจงสื่อ ไม่เป็นความจริง

โดย sujira_s

2 ก.พ. 2565

31 views

ภรรยาคนแรก เสี่ยเกาลัด ระบุ น.ส.แหม่ม ภรรยาอีกคนพูดไม่จริง หลังควงน้องชายร่ำไห้ชี้แจงกับสื่อ ยันพร้อมสู้คดีพิสูจน์ความจริง


เมื่อวานนี้ (1 ก.พ. 65) น.ส.แหม่ม ภรรยาอีกคนของนายอภิชาต พูลเผือก หรือเสี่ยก้อง อายุ 39 ปี และนายเจฟ น้องชายของแหม่ม ได้เข้าพบทนายเดชา กิตติวิทยานันท์ เพื่อขอคำปรึกษาทางคดี และเปิดใจชี้แจงกับสื่อ พร้อมนำภาพจากกล้องหลังรถมาเปิดเผย เพื่อยืนยันความบริสุทธิ์ใจว่าพยายามให้การช่วยเหลือเสี่ยก้อง หลังจากกระโดดลงจากรถ แต่ที่ไม่ได้ช่วยทันที เพราะเข้าใจว่าเสี่ยก้องแกล้งสลบ


ซึ่งจากคลิปจะเห็น น.ส.แหม่ม เดินเข้าไปหาเสี่ยก้อง ผู้ตาย หลังจากนั้นจะเห็นนายเจฟ น้องชาย พร้อมด้วยลูกน้องคนสนิทของเสี่ยก้อง 2 คน เดินเข้าไปช่วยพยุงตัวเสี่ยก้อง จากนั้นนายเจฟ เดินกลับมาที่รถ ถอยรถไปเพื่อจะยกเสี่ยก้องขึ้นรถ แต่เสี่ยก้อง มีอาการบาดเจ็บที่ขา จึงไม่ได้มีการเคลื่อนย้าย จากนั้นก็มีการโทรเรียกรถกู้ภัยให้มารับตัวไป


น.ส.แหม่ม กล่าวว่า ตัวเองไม่ได้วางแผนฆ่าเสี่ยก้อง ก่อนเกิดเหตุตัวเองกำลังจะเดินทางไปโลตัส บังเอิญไปเจอเสี่ยก้องกับภรรยาอยู่ที่คลินิก จึงจับได้ว่าฝ่ายชายยังไม่เลิกกับภรรยา และภรรยายังท้องด้วย จึงเกิดความโมโห ทั้งที่ตนและเสี่ยก้อง อยู่ด้วยกันฉันท์สามีภรรยามานานถึง 5 ปี อยู่ด้วยกันตลอด และครอบครัวเสี่ยก้องก็รับรู้


จึงได้มีปากเสียงกันรอบหนึ่งที่หน้าคลินิก ตนเองโมโหตบหน้าเสี่ยก้อง และบอกว่าจะเลิก หลังจากนั้นตนเองก็รีบขับรถออกจากคลินิก โดยมีเสี่ยก้องขึ้นรถออกมาด้วย และมีปากเสียงกันบนรถต่ออีก โดยตนจะขับรถไปที่บ้านของนุ่น ภรรยาหลวง เพื่อหวังจะเคลียร์กันให้รู้เรื่อง แต่เสี่ยก้องไม่ยอมไป บอกให้จอดรถพร้อมขู่ไม่อย่างนั้นจะกระโดด ก่อนจะตัดสินใจเปิดประตูกระโดดลงจากรถ ซึ่งตัว น.ส.แหม่ม ไม่คิดว่าเสี่ยก้องจะกระโดดจริงๆ เพราะที่ผ่านมาเวลาทะเลาะกัน เสี่ยก้องมักจะประชด


ขณะที่นุ่น ภรรยาหลวงของเสี่ยก้อง โต้ข้อมูลที่ น.ส.แหม่ม ให้ข่าวว่าไม่เป็นความจริง โดยเฉพาะประเด็นที่ว่าเสี่ยก้อง คบหาและใช้ชีวิตกับแหม่มอย่างเปิดเผยมา เป็นเวลากว่า 5 ปี โดยที่พ่อแม่ และครอบครัวของเสี่ยก้องรู้เรื่องดี ซึ่งความเป็นจริง เสี่ยก้องยังคงไปมาหาสู่และดูแลตนเองและลูกเป็นอย่างดี กระทั่งตนเองตั้งท้องลูกคนที่ 2 อายุครรภ์ได้ 7 เดือน ที่ผ่านมาตนไม่เคยไปหาเรื่อง หรือมีปากเสียงกับแหม่มมาก่อน มีแต่ฝ่ายแหม่ม ที่คอยมาตามรังควานหาเรื่องตนเอง


และในวันเกิดเหตุที่แหม่มอ้างว่า บังเอิญไปเจอตนกับเสี่ยก้องที่คลินิกนั้น ก็ไม่เป็นความจริง เพราะแหม่มรู้อยู่แล้ว เนื่องจากมีลูกน้องคนสนิทของเสี่ยก้อง ชื่อ ออม เป็นคนคอยแจ้งความเคลื่อนไหวของเสี่ยก้องให้แหม่มรู้ เมื่อแหม่ม ตามมากล้องวงจรปิดด้านหน้าคลินิกจะเห็นได้ชัดว่า แหม่มมาหาเรื่องทำร้ายตบตีเสี่ยก้อง และพยายามจะเข้ามาทำร้ายตนด้วย ซึ่งเสี่ยก้องก็พยายามที่จะปกป้องตนเองกับลูกอย่างเต็มที่ จนต้องยอมขึ้นรถไปกับแหม่ม


สุดท้ายก็เกิดเหตุสลดขึ้น ไม่ได้กลับมาหาลูกเมียอีก จนถึงตอนนี้ตนก็ยังเสียใจอยู่ เพราะเรื่องทุกอย่างจะไม่เกิดขึ้น หากแหม่ม มีสติไม่ไปอาละวาดหน้าคลินิก


ตอนนี้ตนเองตั้งใจจะพิสูจน์ความจริงในชั้นศาลเต็มที่ โดยมีการติดต่อไปหาทนายตั้มให้มาช่วยทำคดีให้เรียบร้อยแล้ว จากนี้คงปล่อยให้เป็นกระบวนการทางกฎหมายต่อไป

คุณอาจสนใจ

Related News