เมื่อวันที่  20 มกราคม 2564 นายธนุส  ธนะวิโรจน์ ปศุสัตว์อำเภอกระบุรี รับแจ้งเหตุ ช้างชักลากไม้ยางพารา ตกมันอาละวาด ไล่กระทืบและแทงควาญช้างเสียชีวิต 2 ราย จากนั้นไล่กระทืบอาสาสมัครกู้ภัยมูลนิธิระนองสงเคราะห์ น.เขตกระบุรี-สองแพรก  ที่จะเข้าทำการเก็บร่างผู้เสียชีวิต จนต้องวิ่งหนีกระเจิงออกมาก่อน สุดท้ายชาวบ้านที่ตามมาดูเหตุการณ์  ที่ช้างลงมาจากเขา หนีไม่ทันล้มลงถูกกระทืบซ้ำที่ตัว ซี่โครงหัก อวัยวะภายในบอบช้ำ  

ในที่เกิดเหตุ ริมถนนภายในหมู่บ้านห้วยไทรงาม ม.10 ต.ลำเลียง อ.กระบุรี จ.ระนอง  ห่างจากตัวจังหวัดระนอง ประมาณ 80 ก.ม. อาสาสมัครกู้ภัยมูลนิธิระนองสงเคราะห์ ช่วยกันนำร่างผู้เสียชีวิตออกจากพื้นที่ สวนปาล์มน้ำมัน จำนวน 2 ศพ ในสภาพร่างเละ ถูกช้างทั้งกระทืบและแทง จนร่างกายแหลกแขนขาหักหมด อวัยวะภายในโผล่ออกมา  และนำผู้บาดเจ็บสาหัส ที่ถูก พลายติ๊ก ช้างลากไม้ยางพาราตกมัน  ส่งโรงพยาบาลระนอง  และเสียชีวิตในเวลาต่อมา และยังมีชาวบ้านอีกจำนวนมาก ยังคงมาเฝ้าติดตามดูสถานการณ์ในพื้นที่  ทางเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองอำเภอกระบุรีและเจ้าหน้าที่ตำรวจ ต้องกันไว้ให้อยู่คนละฝั่งคลอง ที่ช้างยังอยู่ภายในสวนปาล์มของชาวบ้านริมคลองสองแพรก  



โดยเมื่อบ่ายที่ผ่านได้มีการประสานงานกับ นายอนุรักษ์  ถาบุตร ปศุสัตว์จังหวัดระนอง เข้าร่วมวางแผนกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อจับพลายติ๊ก  และให้ใช้ปืนยิงลูกดอก ยาซึม แทนการใช้อาวุธปืนยิงสังหาร   โดยเจ้าหน้าที่ได้ใช้รถหกล้อบรรทุกช้าง  เข้าไปให้ใกล้กับช้าง ก่อนลงมือยิงลูกดอกยาซึมแทนยาสลบ เพื่อไม่ให้ช้างล้ม เพียงให้อาการสงบนิ่งลง  โดยเจ้าหน้าที่ได้ยิงลูกดอกยาสลบไป 5 ดอก ถูกพลายติ๊ก 3 ดอก หลังจากยาออกฤทธิ์แล้ว พลายติ๊กยืนนิ่งอยู่กับที่ ควาญช้างได้นำช้างอีกเชือก เป็นช้างสีดอชื่อพลายสงค์เข้าประกบแต่ พลายติ๊ก ยังคงพยายามเดินหนีไปได้ประมาณ 50 เมตร จึงยืนหยุดนิ่งอยู่กับที่ จนในที่สุดควาญช้างสามารถใช้โซ่คล้องขาของพลายติ๊กได้สำเร็จ แล้วล่ามไว้ในพื้นที่ดังกล่าวเพื่อสังเกตอาการต่อไป ท่ามกลางไทยมุงจำนวนมาก

อาสาสมัครกู้ภัย   เล่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นว่า  ตอนรับแจ้งเหตุ ทราบว่าเกิดช้างตกมัน เหยียบควาญช้างเสียชีวิต  1 ราย พอเข้ามาในพื้นที่ พบช้างแทงควาญช้างเสียชีวิตเพิ่มอีก 1 ราย  ช้างไม่ยอมให้เข้าไปนำร่างผู้เสียชีวิตออกมา ซ้ำยังไล่กู้ภัยสลายตัวออกมา ทั้งเดินและวิ่งหนี  จนเวลา 15.00 น.จึงสามารถนำร่างผู้เสียชีวิตออกมาได้  พร้อมกล่าวเสริมว่าศพควาญช้างรายที่2 ได้เข้าไปช่วยเพื่อนรวมกัน 3  คน  โดยเอาช้างตัวเมียเข้าไปล่อ เพื่อให้ผสมพันธุ์ แก้ปัญหาการตกมันของช้าง  แต่กลับถูกพลายติ๊กไล่ทำร้าย จนวิ่งหนีลงจากเขาป่าสวนยางพารา มาเป็นระยะทางร่วม 1 ก.ม. โดยควาญช้างรายที่ 2 หนีไม่ทัน จนถูกทำร้ายจนเสียชีวิต หลังจากนั้นมีชาวบ้าน  ผู้ที่มามุงดูเหตุการณ์  ก็ถูกช้างทำร้ายจนซี่โครงซ้ายหัก สาหัส อีก 1 ราย แล้วรีบช่วยกันนำส่งโรงพยาบาลระนอง  



นายธนุส  ธนะวิโรจน์ ปศุสัตว์อำเภอกระบุรี  กล่าวว่า  ทางปศุสัตว์อำเภอได้รับแจ้งว่ามีช้างตกมัน ทำร้ายคนเสียชีวิตในพื้นที่ตำบลลำเลียง   จึงประสานกับปศุสัตว์จังหวัดระนอง  ให้เข้ามาทำการยิงยาซึม  เพื่อให้ช้างลดอาการตกมัน   ซึ่งวันนี้เรายิงลูกดอกไปทั้งหมด 4 ดอก   ยิงเข้า  2 เข็ม  ตอนนี้ช้างก็เริ่มมีอาการซึม  ก็คงจะสามารถที่จะเอาโซ่ไปคล้อง  เพื่อไม่ให้ให้ไปทำร้ายผู้คนอีก  คาดว่าจะใช้เวลาอีกสักระยะหนึ่ง   ในการที่ช้างตกมัน  เป็นลักษณะว่าเค้ามีความพร้อมที่จะผสมพันธุ์  แต่ว่าช้างตัวนี้เคยมีประวัติว่าเคยทำร้ายคนจนเสียชีวิตมาแล้ว ซึ่งขณะนี้คงสามารถบังคับช้างพลายตัวนี้ได้แล้ว  

สำหรับพลายติ๊ก อายุประมาณ 40 ปี ตามประวัติเคยทำร้ายควาญช้างและชาวบ้านเสียชีวิตมาแล้ว 3 ศพจากพื้นที่อื่น   จนกระทั่งมาเกิดเหตุทำร้ายควาญช้างที่ดูแลพลายติ๊กในปัจจุบัน เสียชีวิตอีก 2 ศพ   รวมแล้ว 5  ศพ ที่ถูกพลายติ๊กทำร้ายจนเสียชีวิต