ทางการเยอรมนีเตือนประชาชน ถ้าไม่ฉีดวัคซีนภายในปลายฤดูหนาวนี้ อาจต้องเข้าโรงพยาบาลหรือเสียชีวิต

นายเจนส์ สแปห์น รัฐมนตรีสาธารณสุขเยอรมนี ออกโรงเตือนว่า ประชาชนในประเทศควรได้รับการฉีดวัคซีนก่อนช่วงปลายฤดูหนาวนี้ ไม่เช่นนี้ก็อาจต้องรักษาตัวในโรงพยาบาลหรือเสียชีวิต

โดยขณะนี้ เตียงผู้ป่วยในแผนกวิกฤตเต็มอย่างรวดเร็วในหลายรัฐที่เผชิญการระบาดรุนแรงที่สุด จึงมีการฟื้นคำสั่งล็อกดาวน์ซึ่งรวมถึงการปิดตลาดนัดคริสต์มาสด้วย

ล่าสุด เยอมนีพบผู้ติดเชื้อโควิดรายใหม่ภายใน 24 ชั่วโมงอยูที่ 52,685 คน ทำให้ยอดผู้ติดเชื้อสะสมพุ่งขึ้นไปอยู่ที่ 5,471,366 คนแล้ว

ขณะเดียวกัน ทางด้าน กระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ ได้ปรับคำเตือนพลเมืองสำหรับการเดินทางเยอรมนีและเดนมาร์ก ขึ้นเป็นระดับ 4 ซึ่งเป็นระดับสูงสุด พร้อมแนะนำให้งดเดินทางไปยังสองประเทศนี้เนื่องจากมียอดผู้ติดเชื้อโควิดพุ่งสูง

ทั้งนี้ เชื่อกันว่า การที่ยุโรปเวลานี้กลับมาเป็นศูนย์กลางระบาดของโควิด-19 เป็นเพราะบางประเทศมีอัตราการฉีดวัคซีนที่ช้าลง ขณะที่ไวรัสสายพันธุ์เดลตาระบาดได้ง่าย และอากาศหนาวเย็นที่ทำให้คนอยู่แต่ในบ้าน

ขณะเดียวกัน นายกรัฐมนตรี ฌอง คาสเท็กซ์ ของฝรั่งเศส ถูกตรวจพบว่า ติดโควิดทั้งที่ฉีดวัคซีนครบแล้ว สะท้อนว่า การฉีดวัคซีนไม่สามารถหยุดยั้งการระบาดได้เสมอไป

รายงานระบุว่า นายกรัฐมนตรี คาสเท็กซ์ ตรวจพบติดโควิดหลังเข้าร่วมประชุมกับอเล็กซานเดอร์ เดอ ครู นายกรัฐมนตรีเบลเยียม ซึ่งในเวลาต่อมามีประกาศว่า เดอ ครูและรัฐมนตรีเบลเยียมหลายคนก็จะต้องกักตัวเช่นกัน