เครือข่ายไล่ประยุทธ์ ยึดแยกอโศก ชุมนุมขับไล่นายกรัฐมนตรีต่อเนื่อง ประกาศหากพลเอกประยุทธ์ผ่านการลงมติไว้วางใจ จะยกระดับการชุมนุมใหญ่ต่อไป

(2 ก.ย.) การชุมนุมในวันนี้ ถือว่าเป็นวันดีเดย์การแสดงพลังขับไล่ พลเอกประยุทธ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และประกาศไปยังกลุ่ม สส.ในสภาว่า ประชาชนส่วนใหญ่ไม่ยอมรับการบริหารงานของ พลเอกประยุทธ์ และรัฐบาล

โดยเนื้อหาหลักๆ ที่กลุ่มแกนนำได้ผลัดเปลี่ยนกันขึ้นปราศรัย ยังเน้นไปที่การทำงานของ พลเอกประยุทธ และรัฐบาล ในช่วงสถานการณ์โควิด-19 และตลอดเวลากว่า 7 ปี ที่เข้ามาบริหารประเทศ ซึ่งมีแต่ความล้มเหลว

นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ระบุว่า ข้อเรียกร้องหลักยังมีข้อเดียวคือ พลเอกประยุทธ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ต้องลาออกจากตำแหน่งทันทีอย่างไม่มีเงื่อนไข และการเปลี่ยนแปลงหลังจากนั้นต้องเป็นไปตามขั้นตอนตามหลักรัฐธรรมนูญ โดยไม่มีอำนาจแทรกแซง

หาก พลเอกประยุทธ ผ่านการโหวตไว้วางใจจากการอภิปรายไม่ไว้วางใจในวันเสาร์นี้ (4 ก.ย.) ประชาชนก็จะเดินหน้าเคลื่อนไหวต่อ โดยเชื่อว่า พลเอกประยุทธ์ จะยังคงรักษาตำแหน่งนายกรัฐมนตรีไว้ได้ แต่ไม่สามารถรักษาเสถียรภาพของรัฐบาลไว้ได้

ทั้งนี้ การชุมนุมครั้งนี้ปรับรูปแบบจากเดิมที่เป็นคาร์ม็อบ มาเป็นการตั้งเวทีปราศรัยปักหลัก เปิดพื้นที่โดยรอบให้มวลชนได้มาทำกิจกรรม ที่สำคัญสามารถเดินทางมาร่วมกิจกรรมได้สะดวกผ่านระบบขนส่งมวลชนต่างๆ

ซึ่ง นายสมบัติ บุญงามอนงค์ หรือ บก.ลายจุด ระบุว่า การจัดกิจกรรมต่อไปจะเป็นในลักษณะ ตลาดนัดการเมือง หรือ ม็อบเฟสติวอล แต่ละกลุ่มที่มาก็จะมีกิจกรรมหลายอย่างให้คนเข้าร่วม ทั้งการเล่นเกมส์ แจกอาหารของรางวัล และกิจกรรมเชิงสัญลักษณ์ โดยจะยึดที่แยกอโศกเป็นจุดหลักตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป

จากนี้การชุมนุมจะยกระดับ พัฒนารูปแบบอยู่ตลอดเวลาไป จนถึงอาจจะมีการค้างคืนในอนาคต โดยแกนนำจะประเมินสถานการณ์ร่วมกันกับกลุ่มเคลื่อนไหวต่างๆ ต่อไป

และล่าสุดเมื่อเวลา 20.00 น. นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ แกนนำกลุ่มเครือข่ายไล่ประยุทธ ได้ประกาศยุติการชุมนุมในวันนี้ เพื่อให้มวลชนได้เดินทางกลับบ้านตามเวลาเคอร์ฟิวที่กำหนดไว้ในช่วง 21.00 น.