ร่างงบประมาณปี 2565 ผ่านความเห็นชอบในวาระที่ 1 จากสภาผู้แทนราษฎรแล้ว โดยพรรคร่วมรัฐบาลอย่างพรรคภูมิใจไทย เทคะแนนเสียงเห็นชอบยกพรรค แม้จะมีการอภิปรายไม่เห็นชอบอย่างดุเดือด ขณะที่พรรคเพื่อไทย ยืนยันไม่รับหลักการ และเรียกร้องให้ พลเอกประยุทธ์ เปิดทางให้ผู้ความสามารถมาแก้ไขวิกฤตชาติ

ผลการลงมติร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2565 ที่ผ่านความเห็นชอบวาระที่ 1 ด้วยคะแนนเสียงเห็นด้วย 269 เสียง ไม่เห็นด้วย 201 เสียง และงดออกเสียง 2 เสียง จาก ส.ส.ทั้งหมด 482 คน มาร่วมลงคะแนน 472 คน จึงถือว่ามีเสียงเห็นด้วยเกินกว่ากึ่งหนึ่ง

ในส่วนพรรคร่วมร่วมรัฐบาล พบว่ายังคงลงมติเห็นชอบทุกพรรค แม้จะมีการอภิปรายไม่เห็นด้วยอย่างดุเดือด โดยเฉพาะพรรคภูมิใจไทย พบว่า ส.ส.60 คนลงมติเห็นด้วย รวมทั้งนายศุภชัย โพธิ์สุ รองประธานสภาฯ ขาดเพียง นางสาวศุภมาส อิศรภักดี ที่ลาป่วย และมี 4 เสียงมาจาก ส.ส.พรรคก้าวไกล คือ นายขวัญเลิศ พานิชมาท ส.ส.ชลบุรี นายคารม พลพรกลาง ส.ส.บัญชีรายชื่อ นายพรีเดช คำสมุทร และนายเอกภพ เพียรวิเศษ ส.ส.เชียงราย

ขณะที่ 2 เสียงที่งดออกเสียง มีนายชวน หลีกภัย ประธานสภาฯ และนายนิคม บุญวิเศษหัวหน้าพรรคพลังปวงชนไทย ซึ่งเป็นพรรคร่วมฝ่ายค้าน ชี้แจงว่า ฝ่ายค้านไม่ได้มีมติให้โหวตอย่างไร และเห็นว่ารัฐบาลพร้อมปรับแก้ไขในวาระที่ 2 จึงคิดว่างดออกเสียงเหมาะสมที่สุดแล้ว

ส่วนนายสุชาติ ตันเจริญ รองประธานสภาฯ จากพรรคพลังประชารัฐ ไม่ได้ลงคะแนน และ วราวุธ ศิลปอาชา หัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา ที่ชี้แจงว่า ขณะลงคะแนนวุ่นวายอยู่กับการเสนอชื่อกรรมาธิการในส่วนของพรรคทำให้ไม่ได้กดลงคะแนน ซึ่งได้ชี้แจงให้นายกรัฐมนตรีเข้าใจแล้ว

นายประเสริฐ จันทรรวงทอง เลขาธิการพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า พรรคเพื่อไทยพอใจการทำหน้าที่ของ ส.ส.ของพรรคในครั้งนี้ ที่ได้ช่วยกันพยายามชี้ให้เห็นว่า รัฐบาลประยุทธ์ จันทร์โอชา ไร้ประสิทธิภาพ บริหารประเทศผิดพลาด บกพร่อง ล้มเหลว ซ้ำซากมาตลอด 7 ปี โดยเฉพาะอย่างยิ่งสถานการณ์การระบาดของโควิด-19 ทำให้พรรคเพื่อไทยไม่รับหลักการ แต่เมื่อผ่านในวาระที่ 1 แล้ว ก็พร้อมส่งกรรมาธิการไปร่วมรักษาประโยชน์ให้ประชาชน และร่วมเรียกร้องให้พลเอกประยุทธ์ พิจารณาตัวเองและเปิดทางให้ผู้มีความรู้ความสามารถเข้ามาแก้ไขวิกฤตประเทศ เพราะหาก ประยุทธ์ไม่พร้อม แต่เพื่อไทยพร้อม

นอกจากนี้ในส่วนการตั้งกรรมาธิการมาพิจารณาในวาระที่ 2 จำนวน 72 คน พบชื่อ นางสาวปารีณา ไกรคุปต์ ในสัดส่วนพรรคพลังประรัฐ ที่ขณะนี้อยู่ระหว่างศาลสั่งหยุดปฏิบัติหน้าที่ชั่วคราว แต่ยังสามารถเป็นกรรมาธิการได้

และมีชื่อนายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ อดีตส.ว.และคณะทำงานพรรคเพื่อไทย ถูกเสนอชื่อในสังกัดพรรคพลังประชารัฐ ซึ่งนายวิรัช รัตนเศรษฐ รองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ เปิดเผยว่ามีการพูดคุยและนายเรืองไกร มาเป็นสมาชิกพรรคพลังประชารัฐแล้ว และพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคอยากให้มาช่วยงาน ขณะที่นายเรืองไกร ยอมรับว่า มาตามคำชวนที่อยากทำงานตามความสามารถให้เกิดประโยชน์ ซึ่งการเปลี่ยนข้าง ไม่ใช่เรื่องแปลกเพราะถูกมองเป็นทุกฝ่ายมาแล้ว และส่วนตัวไม่ได้เกี่ยวข้องกับพรรคเพื่อไทยแล้วนับจากถูกสลับชื่อเป็นกรรมาธิการงบประมาณในสัดส่วนพรรคเพื่อไทย

สำหรับขั้นตอนการพิจารณางบประมาณ หลังจากผ่านวาระ 1 ไปแล้ว เป็นการตั้งคณะกรรมาธิการฯมาพิจารณาวาระ 2 ซึ่งกำหนดไว้ในช่วง 7 มิ.ย. - 12 ส.ค. และเดือน ส.ค.จะเป็นการพิจารณาวาระสาม คือให้ความเห็นชอบทั้งฉบับ จากนั้นก็จะเข้าสู่การพิจารณาของวุฒิสภา และนำขึ้นทูลเกล้าฯประมาณเดือนกันยายน