เลือกตั้งและการเมือง

นายกฯ ลั่น พร้อมนำชัยชนะกลับสู่ พท.ในเลือกตั้งครั้งหน้า - 'อุ๊งอิ๊ง' ลั่น พท.ไม่ใช่พรรคอนุรักษ์นิยมใหม่ พร้อมดันพรรคสู่ความยิ่งใหญ่

โดย weerawit_c

6 เม.ย. 2567

83 views

วานนี้ 5 เมษายน 2567 ที่พรรคเพื่อไทยประชุมใหญ่สามัญประจำปี 2567 ที่พรรคเพื่อไทย โดยนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ได้ลาราชการครึ่งวัน เพื่อเข้าร่วมประชุมใหญ่สามัญประจำปีของพรรค ซึ่งช่วงเช้าเป็นการแสดงวิสัยทัศน์ของผู้บริหารพรรค และแกนนำพรรค


ก่อนเริ่มบรรยายพิเศษ ได้มีการฉายวีดีโอจุดเริ่มต้นของพรรคเพื่อไทยตั้งแต่ยุคนายทักษิณชินวัตร ต่อเนื่องมาถึงยุคของนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นางสาวแพทองธาร ชินวัตร และนายเศรษฐา ทวีสิน รวม 18 นาที


โดยพบว่าเนื้อหาในวิดีโอนั้น มีการพูดถึงนโยบายของพรรคเพื่อไทย ที่ต่อยอดมาจากพรรคไทยรักไทย รวมถึงนโยบายใหม่ เช่น ดิจิทัลวอลเล็ต บัตรประชาชนใบเดียวรักษาทุกที่ ผ่านบทสัมภาษณ์ นายทักษิณ ชินวัตร ซึ่งเป็นผู้ก่อตั้งพรรคไทยรักไทย นางสาวแพทองธารและนายเศรษฐา


ซึ่งบางช่วงนายทักษิณ ระบุว่า ตนเป็นคนเกิดบ้านนอกและเห็นชีวิตของคนต่างจังหวัด กลับบ้านกี่ที ก็ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง บางบ้านก็ยากจนต้องเก็บเงินไว้รักษายามเจ็บป่วย เราเป็นนักธุรกิจ เริ่มตนจากการไม่มีอะไรเลย จนประสบความสำเร็จและทำให้ครอบครัวมีฐานะดี ตนจึงคิดว่า น่าจะเอาหลักการเดียวกัน ไปทำให้คนทั้งประเทศดีขึ้นได้ "ช่องทางที่ดีที่สุดคือการเข้ามามีอำนาจในทางการเมือง" ไม่เช่นนั้นก็คงทำไม่ได้


นายทักษิณ กล่าวต่อว่าพรรคเพื่อไทยถูกกล่าวหาว่า เป็นพรรคอนุรักษ์นิยมใหม่ ซึ่งตนบอกได้เลยว่า อันนี้ไม่ได้อยู่ใน DNA ของพรรคเพื่อไทย หรือพรรคไทยรักไทย แต่พรรคเพื่อไทยจริงๆที่เกิดจากพรรคไทยรักไทย คือ พรรคที่รีฟอร์มเป็นผู้นำในการเปลี่ยนแปลง เราเปลี่ยนแปลงตั้งแต่ระบบประกันสุขภาพ และอีกหลายเรื่องเป็นเรื่องใหม่ทั้งหมดที่พรรคเพื่อไทยทำมา แล้ววันนี้พรรคเพื่อไทยกำลังจะทำ มาดิจิทัลวิลเล็ต "อันนี้โคตรใหม่เลย ไม่ใช่ใหม่ธรรมดา โลกมันหมุนไปโลกมันเปลี่ยนไป เรื่อยเรื่อยก็ต้องปรับตัวเปลี่ยนไปเรื่อยๆ"


นายทักษิณ กล่าวอีกว่า พรรคเพื่อไทยต้องเข้าใจว่าสังคมวันนี้เปลี่ยนไปแล้ว การเข้าถึงประชาชนเป็นหัวใจสำคัญ จะเข้าถึงด้วยทางกายภาพหรือด้านสื่อก็ต้องเข้าถึง เพราะฉะนั้นอย่าเป็นคนที่ไม่เข้าถึงประชาชน แล้วก็แน่นอนว่าการสะท้อนปัญหาในสภาได้แม้เป็นผู้บริหารจึงอยากให้ สส. พรรคเพื่อไทย เข้าถึงประชาชน ส่วนการทำงานในสภาก็ต้องเข้มแข็งและสำคัญที่สุดคือหัวใจถ้าเราเป็นนักการเมืองที่ดีได้ต้องเป็นนักการเมืองที่รักประชาชน ประชาชนเดี๋ยวนี้มองตาเราก็รู้ว่าเรามีเมตตาธรรม หรือเป็นคนถือตัว ไม่สนใจชาวบ้านเขามองออก เพราะฉะนั้นสิ่งเหล่านี้จะอยู่กับความรู้สึกของชาวบ้านจะมาเสแสร้งแค่ไม่กี่วันหรือ หนึ่งเดือนก่อนจะเลือกตั้งเค้ารู้หมดเพราะฉะนั้นเราต้องอยู่กับชาวบ้านให้ได้


นายทักษิณ ยังพูดถึงนายเศรษฐา ว่าตนมั่นเป็นนายกรัฐมนตรีที่นำพาประเทศได้ ท่านเป็นนักบริหารนักบริหารที่มีประสบการณ์มาก การบริหารอยู่ในกรุงเทพแต่การที่มีเครือข่าย ส่งเสริมสนับสนุน ช่วยเหลือ ก็เป็นสิ่งที่จำเป็นเหมือนกัน ตนเป็นคนบ้านนอกมาเป็นนายกวันนั้น ก็ไม่มีเครือข่ายในกรุงเทพ ถือเป็นจุดอ่อน ดังนั้นมันมีจุดอ่อนจุดแข็ง ซึ่งเป็นการวางตัวของพรรคเพื่อไทยที่เห็นว่านายเศรษฐาเหมาะสมที่จะลงไปในช่วงที่มึการเปลี่ยนผ่าน และมีหลายพรรคการเมืองแบบนี้ นายเศรษฐาน่าจะทำได้ดี และตนมั่นใจว่าอิ๊งค์สามารถที่จะนำทีมพลิกเกมได้ไม่ยาก อิ๊งค์เป็นดีเอ็นเอระหว่างผมกับคุณหญิงที่ผสมกัน เขาจึงเอาส่วนที่เข้มแข็งอดทนเด็ดขาดจะมาจากคุณหญิง และเอาส่วนที่ต้องเดินหน้าพบปะผู้คน การเมืองแล้วเข้าใจการเมืองมาจากตน เค้าก็เรียนรู้จากแม่จากพ่อมาเพราะเขาเป็นลูกคนเล็ก ผมจึงเชื่อว่าเขาเป็นผู้นำที่ดีได้ไม่ได้เชียร์ลูก ผมทำได้ดีเอ็นเอผมก็ต้องทำได้ และมีดีเอ็นเอแม่เขาด้วยดังนั้นเขาก็จะทำได้ดีกว่าผม


ขณะที่นางสาวแพทองธาร กล่าวว่า การเลือกตั้งครั้งที่ผ่านมา ก็พบว่าโหวตเตอร์ของเรายังเลือกเราอยู่ ทำให้ตนรู้ว่า แพทองธาร ชินวัตร เข้ามาพรรคเพื่อไทยเพื่ออะไร ถึงเวลาแล้วที่แพทองธารชินวัตร อยากทำเพื่อพรรคเพื่อไทย และทำเพื่อคนที่สนับสนุนเรามาตลอดไม่ว่าจะอยู่ในตำแหน่งไหนก็ตาม    


การเลือกตั้งครั้งที่ผ่านมา ทำให้เราสะท้อนตัวเองหลายอย่าง ได้ทราบแรงกดดัน และทราบเงื่อนไขและสิ่งที่ที่มันเปลี่ยนไป แน่นอนว่าอิ๊งค์นำพรรคหาเสียงเป็นครั้งแรก แล้วแพ้เลือกตั้ง แต่ถ้าไม่ไหวแล้วคนอื่นจะไหวยังไงต่อ ดังนั้น จึงต้องรีบดูแลตัวเองดูแลจิตใจ และไปต่อให้ได้ การเป็นแบบนี้พร้อมบอกคนในพรรคว่าเมื่อเหตุการณ์ทางการเมืองเป็นแบบนี้ ซึ่งเราก็ไม่ได้ชอบระบบแบบนี้ หากจำกันได้ก่อนหน้านี้ที่เราชนะการเลือกตั้ง เราก็ฟอร์มรัฐบาลไม่สำเร็จ นั่นก็คือบทเรียนหนึ่งของเรา มาวันนี้เรามาเป็นอันดับสองห่างกัน 10 ที่นั่ง ตอนนั้นยังไม่ถึงหน้าที่ของเราเราก็ซัพพอร์ตเต็มที่ เพราะเรารู้ดีว่าการที่เป็นพรรคอันดับ 1 แล้วฟอร์มรัฐบาลไม่ได้เป็นอย่างไร แต่เมื่อตอนนั้นฟอร์มรัฐบาลไม่สำเร็จ มันก็มาถึงเรา พอมาถึงเราเราก็ต้องฟอร์มให้สำเร็จ


นางสาวแพทองธาร กล่าวอีกว่า ตนเองคิดว่าตนเป็นผู้นำของทุกคนในพรรค และตนต้องการเข้าใจคนในพรรคและเข้าใจโหวตเตอร์ การที่ตนเองจะนำได้ ไม่ใช่ใครก็ได้ที่ลุกมาแล้ว จะเดินไปทางแล้ว ทุกคนจะต้องเดินตาม หากทำเช่นนั้น ตนคิดว่าคนที่ตามจะเหนื่อย แล้วไม่อยากจะตาม แต่ตนอยากจะเป็นผู้นำที่เข้าใจทุกคน ทุกกลุ่ม และสถานการณ์ในภาพรวม พอเขาแล้ว อยากให้คนที่เดินตามมีความสุขกับตนเองและรู้สึกปลอดภั ยรู้สึกมีส่วนร่วม จึงทำให้ตนเองรู้สึกว่า เรานำคนเดียวไม่ได้ แต่ทั้งหมดต้องไปด้วยกันพรรคเพื่อไทย จะยิ่งใหญ่ไม่ได้ถ้าขาดบุคคลหรือแผนกใดแผนกหนึ่งที่ทำเพื่อพรรคอยู่ตอนนี้


นางสาวแพทองธาร ยังกล่าวอีกว่า ตนเชื่อ การทำนโยบายให้สำเร็จคือสิ่งที่พรรคเพื่อไทยมีมาตลอดตั้งแต่พรรคไทยรักไทย บางอย่างอาจยังไม่สำเร็จทันที แต่เราไม่เคยทิ้ง


ด้านนายเศรษฐา กล่าวว่า คนเราต้องมีมีกินมีใช้ซึ่งถือว่าเป็นเรื่องสำคัญ ผมไม่ปฏิเสธเลย ว่าผมมีพอและครอบครัวผมสบาย สบายกายแต่ไม่สบายใจ เราอยู่จุดสูงสุดของพีระมิด เราอยู่ในบ้านใหญ่ๆแต่ถูกล้อมรอบด้วยคนที่ไม่มีความสุข มันจึงเป็นจุดผลักดันสำคัญที่อยากเข้ามา และนำความเปลี่ยนแปลงมาให้ ทำให้ชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนดีขึ้นในทุกมิติ ขณะนี้ตนคิดว่าอายุขนาดนี้เหมาะสมแล้ว เพราะสะสมประสบการณ์มาพอสมควร ได้เห็นอะไรมามากและไม่ตัดสินใจโดยพละการ ให้ทุกเหตุการณ์มันสุกก่อนแล้วค่อยทำใหม่


นายกรัฐมนตรี ยังกล่าวถึงเรื่องของดิจิทัลวอลเล็ต ว่าวันที่ 10 เมษายนนี้ จะมีความชัดเจน และเงินจะถึงกระเป๋าของพี่น้องประชาชนในช่วงสิ้นปี ลองจินตนาการดู ถ้ามีเงินเข้าสู่กระเป๋าของทุกคนคนละ 10,000 บาท 50 ล้านคน ก็ 5 แสนล้านบาท คนที่ผลิตสินค้าก็ลองคิดดูว่าจะผลิตไหม ยกตัวอย่างเช่น 1 ตุลาคม มีเงินเข้ากระเป๋าตนเชื่อว่าทุกคนผลิตหมด เกิดการซื้อวัตถุดิบ การจ้างงาน จะเกิดสึนามิการขับเคลื่อนเศรษฐกิจครั้งยิ่งใหญ่


นายกรัฐมนตรี กล่าวต่อว่า สำคัญที่สุดคือทุกคนมีศักยภาพทุกภาคส่วนมีศักยภาพหมด แต่ต้องการการขับเคลื่อน ต้องการผู้นำที่ดึงเอาศักยภาพเหล่านั้นออกมาให้ได้ แต่องค์ประกอบมีความแตกต่างกันระหว่างภาคเอกชนกับภาคการเมือง แต่เมื่อมาอยู่ภาคการเมืองมีหลายภาคส่วน เมื่อจะทำอะไรก็ต้องคำนึงถึงภาพรวมมากขึ้น การพูดอะไรจะตรงไปตรงมากนักก็ไม่ได้ และแน่นอนว่าคนที่ขับเคลื่อนคือข้าราชการ ซึ่งเป็นคนที่มีศักยภาพ แต่ 8-9 ปีที่ผ่าน อาจจะไม่ได้เร่งการทำงานมากนัก


และปิดท้ายด้วยนางสาวแพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าพรรคเพื่อไทย กล่าวปาฐกถาพิเศษ โดยกล่าวขอบคุณทั้งผู้นำพรรคในอดีต ผู้บริหารพรรคในปัจจุบัน ส.ส. และประชาชนที่ยังเชื่อมั่นในพรรคเพื่อไทย ทุกกำลังใจ ทุกการทำงาน ทุกความทุ่มเท ทุกความพยายามความอดทน ทำให้พรรคเพื่อไทยยังอยู่ถึงทุกวันนี้


ภารกิจต่อไปของพรรคเพื่อไทย จะมีการเปลี่ยนแปลงพรรคครั้งใหญ่อย่างจริงจัง ทั้งการตอบสนองประชาชนให้รวดเร็วขึ้น การขอความร่วมมือ ส่งเสริมพี่น้องในพรรคให้มีความพร้อมในการรับใช้ประชาชนมากขึ้น พรรคเพื่อไทยกำลังจะเปลี่ยนเปลี่ยนจากฐานราก โดยการรับคนใหม่ๆเข้ามา เพิ่มองค์ความรู้ เพื่อให้พรรคมีศักยภาพในการดูแลประชาชน ซึ่งกำลังดำเนินการอยู่เชื่อว่าประชาชนจะเห็นการเปลี่ยนแปลงของพรรคเร็วๆนี้แน่นอน ซึ่งที่ตนพูดถึงการเปลี่ยนแปลงเพราะจะเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่เพื่อให้พรรคเพื่อไทยยังคงอยู่กับประเทศไทยตลอดไป


นางสาวแพทองธารยังระบุด้วยว่าไม่ว่าจะเปลี่ยนหัวหน้าพรรคอีกกี่คน บริบทของประเทศในอนาคตจะเปลี่ยนไปในทางไหน พรรคเพื่อไทยจะสามารถสร้างการเปลี่ยนแปลงที่ยิ่งใหญ่ให้กับประเทศไทยได้เสมอ


วันนี้ตนขอชื่นชมและให้กำลังใจนายกรัฐมนตรี ที่มาสร้างความเชื่อมั่นให้ทุกคนในพรรค มาให้กำลังใจทั้งที่ตัวท่านก็รับภาระอันหนักหน่วงไว้ ทั้งประเทศ ความคาดหวังชีวิตและปากท้องของประชาชน


เราสร้างความเปลี่ยนแปลงให้ประเทศอย่างมากมายมาตลอด ตั้งแต่สมัยไทยรักไทยที่เป็นจุดเริ่มต้น เราไม่ได้เป็นพรรคอนุรักษ์นิยมใหม่ที่จะเน้นการคงไว้ซึ่งสิ่งเดิม ตนขอยืนยันว่าเราไม่มีทางเป็นอย่างนั้น เพราะหลักของเราคือการเปลี่ยนแปลง ทุกครั้งที่พรรคเพื่อไทยเป็นรัฐบาลสร้างความเปลี่ยนแปลงให้ประเทศไทยทุกครั้ง


ในสมัยพรรคไทยรักไทย เรามีการสร้างหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า 30 บาทรักษาทุกโรค เป็นการเปลี่ยนแปลงชีวิตคนไทยอย่างแท้จริง จนถึงปัจจุบันทั้งการกระจายอำนาจทุน กองทุนหมู่บ้านให้ประชาชนมีโอกาสเข้าถึงแหล่งทุน ให้ประชาชนมีโอกาสมีชีวิตที่ดีขึ้น และอีกหลายนโยบายที่สร้างความเปลี่ยนแปลง ปัจจุบันนโยบายของพรรคเพื่อไทย ล้วนสร้างความเปลี่ยนแปลงเชิงโครงสร้างทั้งดิจิทัลวอลเล็ต เป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจครั้งใหญ่ในทุกอำเภอของประเทศที่จะมีเงินอัดฉีดเข้าใจมากกว่า 5 แสนล้านบาท และจะเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจทั้งระบบ เพื่อให้ประชาชนได้รับประโยชน์ หรือนโยบายหนึ่งครอบครัวหนึ่งซอฟพาวเวอร์ ที่จะเป็นการรีสกิล อัพสกิลของคนทั้งประเทศ จะยกระดับรายได้ของประชาชนให้พ้นขีดของความยากจน รวมไปถึงการพัฒนาอุตสาหกรรมซอฟพาวเวอร์ ซึ่งเป็นการพัฒนาอุตสาหกรรมที่เป็นรูปธรรมครั้งแรกของประเทศไทย


ในช่วงท้ายนางสาวแพทองธารระบุด้วยว่าพรรคไทยรักไทยได้ส่งต่อดีเอ็นเอของการเปลี่ยนแปลงปรับตัวมาสู่พรรคเพื่อไทย เราคือพรรคที่ทำให้ประเทศเจริญก้าวหน้า ได้ด้วยนโยบายที่ดี โดยที่มีความจงรักภักดีต่อสถาบันพระมหากษัตริย์


หลังจากนี้เรื่องงบประมาณที่ผ่านไปแล้ว ตนเชื่อมั่นว่ารัฐบาลเศรษฐาที่วิ่งเร็วอยู่แล้วก็จะวิ่งเร็วต่อไป เรื่องที่ติดขัดในงบประมาณก็จะผ่านฉลุยได้แน่นอน นโยบายที่ทุกคนรอก็จะได้เห็นเร็วๆนี้ และในต้นเดือนพฤษภาคม ก็จะมีการสรุปผลงานของรัฐบาล ว่ารัฐบาลเพื่อไทยที่ไม่ต้อง รอ 10 เดือนเป็นอย่างไร


รับชมทางยูทูบที่ : https://youtu.be/biQm9oh3Cok

คุณอาจสนใจ

Related News