สถานการณ์ระหว่างอิสราเอล และ ปาเลสไตน์ ยังตึงเครียด ยิงจรวดตอบโต้ ติดต่อกันเป็นวันที่ 6 ล่าสุด อิสราเอล ยิงจรวดโจมตี อาคารสูง ซึ่งเป็นที่ตั้งของสำนักข่าวต่างประเทศ คือ อัล จาซีร่า และ เอพี ในกาซ่า พังถล่ม พนักงานรีบเก็บข้าวของ และอพยพหนีตายจ้าละหวั่น ขณะที่นานาชาติ ออกมาเรียกร้องให้ทั้งสองฝ่ายยุติความขัดแย้ง

โดยจรวดของกองทัพอิสราเอล ปฎิบัติการโจมตีทางอากาศ มุ่งเป้า อาคารสูง 12 ชั้น ในกาซ่า ซึ่งเป็นที่ตั้งสำนักงาน ของ สำนักข่าวเอพี และ สำนักข่าวต่างประเทศหลายแห่ง อย่าง อัลจาซีรา ทีวี ของกาต้าร์ นอกจากนี้ ยังมีห้องพักอาศัยอยู่บนอาคารดังกล่าวด้วยหลังจากที่อาคารถูกยิงจรวจโจมตี ทำให้เกิดกลุ่มควัน และ ฝุ่นขนาดใหญ่ ก่อนที่อาคารจะพังถล่มลงมา

รายงานระบุว่า กองทัพอิสรเอลแจ้งเตือน ว่าจะมีการโจมตี ภายใน 1 ชั่วโมง ทำให้ พนักงานของสำนักข่าวเอพี และ ผู้ที่อยู่ในตึก เร่งรีบขนย้ายข้าวของ อุปกรณ์สำคัญ และอพยพออกจากอาคาร ก่อนที่กองทัพอิสราเอล จะยิงจรวดโจมตีทั้งนี้กองทัพอิสราเอล ระบุว่า อาคารดังกล่าว เพราะเป็นจุดที่หน่วยข่าวกรองกลุ่มฮามาส ทำงานใช้ประโยชน์โดยใช้สำนักข่าวต่างประเทศ เป็นโล่มนุษย์ป้องกันไม่ให้ถูกโจมตี

ขณะที่ ประธานและซีอีโอ ของสำนักข่าวเอพี ได้ออกแถลงการณ์ว่า เขารู้สึกช็อคและหวาดกลัว ที่กองทัพอิสราเอล มุ่งเป้าโจมตี และทำลาย อาคาร ที่เป็นที่ตั้งสำนักข่าวต่างประเทศ หลายสำนัก ในกาซ่า ซึ่งเป็นระยะเวลา 15 ปีแล้ว ที่สำนักข่าวเอพี ได้ใช้อาคารดังกล่าว เป็น สถานที่ในการทำงาน และรายงานสด จากชั้นดาดฟ้า เพื่อรายงานสถานการณ์ความขัดแย้งระหว่างอิสราเอล กับกลุ่มฮามัส ในกาซ่า รวมทั้ง การสู้รบ ในปี 2009 และ 2014 ด้วย และว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในวันนี้ โลกจะได้รับรู้สิ่งที่เกิดขึ้นในฉนวนกาซ่าน้อยลง

ขณะที่ เพื่อนพนักงานในสถานีโทรทัศน์ อัล จาซีรา ที่อยู่ในกรุงโดฮาร์ ของกาต้าร์ ต่างพากันช็อค เมื่อได้เห็น อาคาร 12 ชั้น ที่เป็นที่ตั้งทางสถานี พังถล่มลงมาต่อหน้าต่อตา ด้าน หัวหน้าสำนักข่าว อัลจาซีเราะห์ ประจำนครเยรูซาเล็ม ได้ออกมาประณามการกระทำดังกล่าวของอิสราเอล ที่ต้องการหยุดการทำงานของสื่อ

ปฎิบัติการโจมตีทางอากาศ ระหว่าง อิสราเอล และ กลุ่มฮามาส ปาเลสไตน์ ยังคงรุนแรงอย่างต่อเนื่อง เข้าสู่วันที่ 7 กองทัพอิสราเอล ระบุว่า ปาเลสไตน์ ยิงจรวจเข้ามาใน ในพื้นที่ตอนใต้ของอิสราเอล เกือบ 2 พันลูก นับตั้งแต่วันจันทร์ที่ผ่านมา ขณะที่ อิสราเอล ประสบความสำเร็จใจการใช้ ระบบป้องกัน ไอรอนโดม สามารถยิงสกัดจรวดได้ ก่อนที่จะตกเข้ามาในอิสราเอล พร้อมกับปฎิบัติการโจมตีทางอากาศ สวนกลับ จนถึงขณะนี้ มีชาวปาเลสไตน์ ในฉนวนกาซ่า เสียชีวิตแล้วอย่างน้อย 145 คน ในจำนวนนี้เป็นเด็ก 39 คน บาดเจ็บอีก 950 คน และชาวอิสราเอลอีก 10 คน

ล่าสุด นายกรัฐมนตรี เบนจามิน เนธันยาฮู ผู้นำอิสราเอล ประกาศให้คำมั่นว่าจะใช้กำลังยิงจรวดเข้าไปในกาซ่าต่อไป ตราบเท่าที่จำเป็น เพื่อตอบโต้กลุ่มติดอาวุธในปาเลสไตน์ที่ยังคงยิงจรวดเข้ามา ในนครเทล อาวีฟ และย้ำว่าจะทำทุกอย่างเพื่อจำกัดความสูญเสียชีวิต และ การบาดเจ็บของพลเรือน ขณะที่ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ผู้นำสหรัฐฯ ได้โทรศัพท์ ไปยังนายกรัฐมนตรีเนธันยาฮู ของอิสราเอล และ ประธานาธิบดีมาห์มูด อับบาส ของปาเลสไตน์ เพื่อแสดงความวิตกกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้น รวมทั้งห่วงความปลอดภัยของพลเรือนและสื่อมวลชน และขอให้ทั้งสองฝ่ายหาข้อยุติความขัดแย้งในภูมิภาคโดยเร็ว

อย่างไรก็ตาม ประธานาธิบดีไบเดน ยังคงแสดงจุดยืน สนับสนุนอิสราเอล ในการปกป้องตนเองจากการโจมตีของกลุ่มฮามาส ในกาซ่า ล่าสุด คณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ จะมีการจัดประชุมหารือ เพื่อหาทางออกในเรื่องนี้ ในวันนี้ที่นครนิวยอร์ค ท่ามกลางเสียงเรียกร้องของประชาคมโลก ให้ทั้งสองฝ่ายยุติความขัดแย้ง