ความขัดแย้งระหว่างอิสราเอลกับปาเลสไตน์รุนแรงมากขึ้นทุกขณะ สองวันที่ผ่านมาทั้งสองฝ่ายยิงจรวดโจมตีกันอย่างน้อย 650 ลูก ทำให้มีผู้เสียชีวิต 40 คน ขณะที่ อาคารหลายแห่งในกาซ่าถูกโจมตีเสียหายหนัก

อาคาร 13 ชั้น ในเมืองกาซ่าของปาเลสไตน์หลังนี้ เป็นหนึ่งในอาคารหลายแห่งที่ถูกอิสราเอลโจมตี จนพังถล่ม กองกำลังความมั่นคงอิสราเอล หรือ IDF ระบุว่า อาคารดังกล่าว มีทั้งหน่วยข่าวกรอง และหน่วยงานพัฒนาและวิจัยด้านจรวดของฮามาสตั้งอยู่ภายใน อย่างไรก็ตามไม่มีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บที่นี่ เนื่องจากอิสราเอลได้ประกาศเตือนให้อพยพออกมาก่อนที่จะเริ่มโจมตี

จากนั้นไม่นานกลุ่มฮามาส ก็ตอบโต้กลับทันที โดยยิงจรวดอย่างน้อย 130 ลูกถล่มเข้าไปในนครเทล อาวีฟ และเมืองอื่นๆ แต่ อิสราเอลใช้ไอออน โดม (Iron Dome) ระบบป้องกันภัยทางอากาศยิงสกัดจรวดของปาเลสไตน์ ไว้ได้เกือบทั้งหมด โดยอิสราเอลสามารถสกัดไว้ได้ถึงร้อยละ 90

ขณะที่ชาวอิสราเอลตามท้องถนนในเทล อาวีฟ ต่างวิ่งหาที่หลบภัย ทันทีที่มีเสียงไซเรนดังเตือน การตอบโต้กันของทั้งสองฝ่ายเมื่อคืนที่ผ่านมา ทำให้ชาวปาเลสไตน์ในเมืองกาซ่า เสียชีวิตไป 35 คน ในจำนวนนี้เป็นเด็ก 12 คน บาดเจ็บ 220 คน ขณะที่ชาวอิสราเอลเสียชีวิตไป 5 คน ส่วนสนามบินนานาชาติเบน กูเรียน ของอิสราเอลใกล้เทล อาวีฟ ต้องหยุดบิน ขณะที่ท่อส่งน้ำมันระหว่างเมืองเอลัท (Eilat) กับเมืองแอชเคลอน (Ashkelon) ถูกโจมตีได้รับความเสียหาย

ช่วง 2 วันที่ผ่านมา กลุ่มติดอาวุธปาเลสไตน์ ทั้งฮามาสและอิสลามิค จีฮัด ในกาซ่า ยิงจรวดโจมตีเข้ามาในพื้นที่อิสราเอลอย่างน้อย 500 ลูก ส่วนอิสราเอลยิงไป 150 ลูก ล่าสุดอิสราเอลเรียกทหารกองหนุน 5 พันนายเพื่อรับมือสถานการณ์ที่อาจบานปลาย

เป็นการเผชิญหน้ากันครั้งรุนแรงที่สุด นับตั้งแต่สงครามในกาซ่าปี 2014 ขณะที่นานาชาติแสดงความวิตกกังวลและเกรงว่า จะลุกลามกลายเป็นสงครามเต็มรูปแบบ

ล่าสุดอิสราเอลต้องประกาศภาวะฉุกเฉินที่เมืองล็อด (Lod) ซึ่งอยู่ห่างเทล อาวีฟไปทางตะวันออกเฉียงใต้ 15 กิโลเมตร หลังจากชาวอาหรับในเมืองดังกล่าวออกมาก่อเหตุจลาจลทั้งเผารถยนต์และก่อเหตุรุนแรง มีผู้บาดเจ็บ 12 คน นายกเทศมนตรีเมืองล็อด กล่าวว่า สถานการณ์ตอนนี้ไม่ต่างจากสงครามกลางเมือง ขณะที่เมืองอัม อัล ฟาห์ม (Umm al-Fahm) ก็เกิดการปะทะกันระหว่างชาวอาหรับกับตำรวจอิสราเอล ชาวอาหรับถูกจับกุมไป 21 คน