วันนี้ (5 เม.ย.64) ผู้สื่อข่าวได้ไปคุยกับนางสาวพัตธ์พิมล ศรีไพร ภรรยาของนายธนภพ หรือต้น เผยว่าหลังสามีรับแจ้งเหตุไฟไหม้ในหมู่บ้านกฤษดานคร 31 ถ.พุทธฆณฑล สาย 3 ตอนตี 4 รีบออกไปทันที พร้อมบอกกับตนว่า ไม่ต้องไปด้วยเดี๋ยวจะรีบกลับไม่เกิน 7 โมงครึ่ง เนื่องจากวันเสาร์มีนัดจะพากันไปทำบุญที่อยุธยา ตนเองตื่นมา 7 โมง ยังไม่เห็นสามีกลับถึงบ้าน 

กระทั่งมีน้องกู้ภัยโทรมาเล่าเหตุการณ์ให้ฟังว่า มีอาสาฯ เสียชีวิต 2 คน ยังติดอยู่ในซากอาคารซึ่งยังไม่รู้ใครบ้าง ตนจึงบอกไปว่า น่าสงสาร คิดว่าไม่น่าจะใช่สามี เพราะเขากำลังจะกลับบ้าน ซึ่งน้องกู้ภัยคนที่โทรมาบอกให้ทำใจ และให้รีบไปจุดเกิดเหตุ จึงทราบว่าสามีเสียชีวิตแล้ว  

“เราไม่คิดว่าครอบครัวจะเจอเหตุการณ์นี้ เพิ่งคุยกันตอนกลางคืนบอกให้รีบนอนเพราะตื่นเช้าจะไปทำบุญ ซื้อมะม่วง ข้าวเหนียวและอาหารเตรียมจะไปถวายพระ ตอนคุยกันไม่มีลางสังหรณ์ใด ๆ สามีรักงานดับเพลิงมากเป็นชีวิตจิตใจทำมานานกว่า 20 ปี เขาพูดตลอดจะทำจนกว่าจะไม่มีแรง ทำจนกว่าวินาทีสุดท้ายของเขา และนี่เป็นวินาทีสุดท้ายของเขาจริง ๆ เราไม่โทษใครมันเป็นอุบัติเหตุ แต่อยากให้รุ่นน้องดับเพลิงทุกคนระมัดระวังตัวในการทำงาน เพราะไม่อยากให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้กับใครอีก”

ด้านนางทิพา  ทันปรีชา แม่ของนายธนภพ หรือต้น กล่าวว่า ช็อกเสียใจมาก แม่ทราบข่าวจากเพื่อนบ้านพี่โทรมาบอก ทีแรกไม่เชื่อว่าจะเป็นลูกชายจริง ๆ กระทั่งทราบเรื่องตามข่าว จากนั้นแม่ได้เดินทางไปยังจุดเกิดเหตุเห็นสภาพลูกชายถูกนำร่างออกมา เห็นหน้าและสภาพลูกชายแล้วก็ร้องไห้ปล่อยโฮออกมาด้วยความเสียใจ ไม่คิดว่าลูกชายจะเสียชีวิตไวขนาดนี้ ลูกชายของตนรักงานดับเพลิงมาก ถึงขั้นเก็บเงินซื้อชุด หมวกนิรภัย รองเท้าเพื่อใช้ทำงานบรรเทาสาธารณภัย 

แม่ไม่เคยห้ามงานที่ลูกรักแต่จะเตือนไม่ให้ขับรถเร็ว กลัวว่าเขาจะขับรถไปประสบอุบัติเหตุเสียชีวิต จึงพยายามเตือนมาโดยตลอด  เหตุครั้งนี้เป็นการสูญเสียสำหรับครอบครัวของตน ก่อนเกิดเหตุลูกชายไม่ได้โทรมาบอกหรือแจ้งให้ทราบว่าจะไปดับเพลิง กระทั่งมาทราบข่าวร้าย แม่ภูมิใจที่ลูกชายเสียชีวิตในหน้าที่ แต่ในใจก็ไม่อยากให้เกิดเหตุการณ์นี้ขึ้น เพราะไม่อยากเสียลูกไป