หมอปลามาตามนัด ไขปริศนายายสี ที่ลูกหลานและชาวบ้านสงสัยถูกผีปอบเข้าสิง เพราะกลางวันนอนซม แต่กลางคืนมีเรี่ยวมีแรง และชอบแลบลิ้นใส่ชาวบ้าน สรุปหมอปลาบอก ยายเครียดเหตุหนี้นอกระบบ ไม่ใช่ถูกผีปอบสิง

ความคืบหน้ากรณีที่ยายสี วัย 80 ปี ชาวบ้านนายางกลัก ต.นายางกลัก อ.เทพสถิต จ.ชัยภูมิ ที่ชาวบ้านและลูกหลาน เชื่อว่ามีผีปอบเข้าสิงร่าง จนเกิดความหวาดกลัว และร้องขอให้หมอปลาเดินทางมาช่วยหาวิธีการไล่ผีปอบ

โดยเมื่อช่วงเย็นวานนี้ (1 เม.ย.) หมอปลา พร้อมทีมงาน เดินทางจากกรุงเทพฯ ไปที่บ้านของยายสี โดยมีชาวบ้านมาเฝ้าดูเหตุการณ์จำนวนมาก หลังมาถึงหมอปลาได้เดินสำรวจพื้นที่รอบบ้านพักอย่างละเอียดด้วยสีหน้าเคร่งขรึม ใช้เวลาประมาณ 15 นาที

หมอปลา ยอมรับว่า กรณีที่เกิดขึ้นกับยายสี ไม่ใช่เพิ่งเกิดเป็นเคสแรก แต่เคยเกิดขึ้นมาแล้วหลายพื้นที่ ตนได้ตรวจสอบอย่างละเอียดแล้ว ไม่พบความผิดปกติทางความเชื่อด้านวิญญาณใดๆ หรืออะไรที่จะสื่อได้ว่ายายเป็นปอบ เชื่อว่าน่าจะเกิดจากภาวะความเครียด ทั้งเรื่องหนี้สินที่ยายกู้ยืมเงินนอกระบบมา จนถูกยึดบ้านพร้อมที่ดิน รวมทั้งปัญหาสุขภาพที่มีหลายโรครุมเร้า อาจเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดอาการลักษณะแปลกๆ

ขณะที่ชาวบ้านหลายรายในหมู่บ้าน ต่างก็อยู่ในภาวะเครียดเหมือนยายสี เนื่องจาก ตกเป็นลูกหนี้ของนายทุนเงินกู้นอกระบบ บางรายต้องถูกยึดบ้านที่ดินไป ซึ่งก็มีเข้าไปร้องศูนย์ดำรงธรรมแล้ว แต่เรื่องยังไม่คืบหน้า จึงฝากหมอปลาช่วยประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อหาทางช่วยเหลือต่อไป

ด้าน พระมหาไพรวัลย์ กล่าวว่า ก่อนเดินทางมาถึงหลังจากดูข่าว อาตมามีความตั้งใจจะมาสอนลูกสาว ที่กระทำกับบุพการีแบบนี้ แต่พอได้เห็นกับตา อาตมาความคิดเปลี่ยนทันที เมื่อสภาพความเป็นอยู่ที่แร้นแค้น ด้วยเหตุผลนี้อาตมาจึงเชื่อว่า การที่ลูกสาวตัดสินใจพึ่งพระ เพราะติดขัดปัญหาค่าใช้จ่าย พบพระไม่ต้องเสียเงิน แต่พบหมอต้องมีเงิน อาตมาจึงได้ให้คำแนะนำและกำลังใจในการอยู่อย่างมีสติและมีความสุข

ส่วนทางนางอำนวย ลูกสาว ยอมรับว่า หลังเป็นเป็นข่าวถูกกดดันอย่างหนักจากญาติๆ มาต่อว่าตนว่าให้ข่าวใส่ร้ายแม่ว่าเป็นปอบ ทั้งที่ตนดูแลแม่มาเป็นอย่างดี หาทางช่วยทุกวิถีทางให้แม่ปลอดภัย ทำทุกสิ่งทุกอย่าง แม้กระทั่งด้านไสยศาสตร์ และพาไปพบรักษาที่โรงพยาบาล ซึ่งวันนี้หมอแจ้งว่าแม่เป็นโรคสมองเสื่อม และขอให้ทำใจยอมรับความจริงว่าโรคนี้รักษาไม่หาย

โดยขณะนี้ยายสี รักษาตัวที่โรงพยาบาลชัยภูมิ ซึ่งเจ้าหน้าที่ดูแลอย่างดี ไม่อนุญาตให้บันทึกภาพใดๆ เพียงแต่ให้ข้อมูลว่า อาการของคุณยาย ยังเครียดสับสน พูดจาวกวนเหมือนเดิม ทางโรงพยาบาลต้องใช้วิธีผูกตรึงไว้ที่เตียง พร้อมทั้งทำการเจาะสันหลังเพื่อตรวจหาโรค

ทั้งที่คนดูแลแม่มาเป็นอย่างดี ซึ่งหาทางช่วยทุกวิถีทางที่จะให้แม่ปลอดภัย จึงทำทุกสิ่งทุกอย่าง แม้กระทั่งด้านไสย และพาแม่ไปพบแพทย์ ซึ่งวันนี้หมอแจ้งว่าแม่เป็นโรคสมองเสื่อม และขอให้ทำใจยอมรับความจริงว่าโรคนี้รักษาไม่หายและจะอยู่ติดตัวไปตลอดชีวิต

สามารถดูข่าวทาง Youtube ได้ที่ : https://youtu.be/KGxm6yCph5E