ขอนแก่น - วานนี้ (20 มี.ค.) เมื่อเวลา 14.00 น. นี่เป็นภาพเหตุการณ์ชุลมุนที่เกิดขึ้นที่บริเวณหน้าห้องประดิษฐ์มนูญธรรม คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น สถานที่จัดงานบรรยายสาธารณะ “แก้รัฐธรรมนูญ สู่ประชาธิปไตยหรือเสริมแกร่งเผด็จการ” จัดขึ้นโดยพรรคปฏิวัติมอดินแดง

เป็นเหตุการณ์ปะทะคารมกันระหว่างกลุ่มคนขอนแก่นปกป้องสถาบัน กับกลุ่มผู้จัดงาน หลังจากที่ทางกลุ่มคนขอนแก่นปกป้องสถาบัน พยายามที่จะขอเข้าไปร่วมรับฟังการบรรยายดังกล่าว ซึ่งมี รศ.ดร.ปิยบุตร แสงกนกกุล อดีตเลขาธิการพรรคอนาคตใหม่ เป็นผู้บรรยาย ซึ่งก่อนจะขอเข้าร่วมรับฟังการบรรยาย ทางกลุ่มคนขอนแก่นปกป้องสถาบัน ได้นำป้ายที่มีข้อความว่า “ขบวนล้มเจ้า หนักแผ่นดิน” มายืนชูที่หน้าคณะนิติศาสตร์ พร้อมกล่าวโจมตี รศ.ดร.ปิยบุตร ทำให้ทางผู้จัดเกรงว่าจะทำให้เวทีบรรยาย ที่จัดขึ้นเพื่อให้นักศึกษาเข้าร่วมรับฟัง เกิดความไม่สงบ จึงยังไม่อนุญาตให้ทางกลุ่มฯ เข้าไปภายในห้อง จึงเกิดการโต้เถียงกัน

ต่อมา ในขณะที่ รศ.ดร.ปิยบุตร เดินทางมาถึงห้องบรรยาย หญิงรายหนึ่งที่มาในนามกลุ่มคนขอนแก่นปกป้องสถาบัน ได้ตะโกนด่า รศ.ดร. ปิยบุตร ในทำนองว่าเป็นคนล้มสถาบัน ทำให้ รศ.ดร. ปิยบุตร ต้องเดินกลับออกมาชี้แจงและทำความเข้าใจกับผู้ที่ด่าทอ ให้พูดคุยกันด้วยเหตุผลและไม่ใช้อารมณ์ ซึ่งต่อมาได้มีสมาชิกของกลุ่มคนขอนแก่นปกป้องสถาบัน เดินเข้ามาพูดคุยกับ รศ.ดร. ปิยบุตร ก่อนที่ท้ายที่สุด ทางกลุ่มผู้จัดจะอนุญาตให้ทางกลุ่มฯ เข้ารับฟังการบรรยายด้วย โดยขอความร่วมมือว่า จะไม่สร้างความวุ่นวาย

จากนั้นเป็นช่วงของการบรรยายฯ มีนักศึกษาและประชาชนเข้าร่วมกว่า 100 คน ซึ่ง รศ.ดร. ปิยบุตร ได้ยกตัวอย่างการแก้ไขรัฐธรรมนูญ และการสถาปนารัฐธรรมนูญของต่างประเทศ โดยหลังจากการขึ้นบรรยายของ รศ.ดร. ปิยบุตร ได้เปิดโอกาสให้ผู้เข้าร่วมรับฟังบรรยายถามคำถาม ซึ่งก็มีตัวแทนของทางกลุ่มคนขอนแก่นปกป้องสถาบัน สับเปลี่ยนกันสอบถาม ซึ่งบรรยากาศเป็นไปด้วยความเรียบร้อยท่ามกลางการดูรักษาความเรียบร้อยของฝ่ายรักษาความปลอดภัย มหาวิทยาลัยขอนแก่น

รศ.ดร.ปิยบุตร กล่าวว่า การที่เห็นคนที่คิดไม่เหมือนกันมาถกกัน ถือว่าเป็นนิมิตรหมายที่ดีทั้ง 2ฝ่าย เข้ามานั่งฟังในห้องแล้วก็สามารถแลกเปลี่ยนคำถาม คำตอบกันแบบนี้เป็นการสร้างบรรยากาศในการพูดคุยกัน ถ้ามีเวทีแบบนี้เกิดขึ้นบ่อยๆแล้วเอาฝ่ายที่เห็นต่างกันทั้ง2ฝ่ายมานั่งถกกันแบบนี้วันข้างหน้าอาจจะเข้าใจกันและคิดเห็นไปในแนวทางเดียวกันก็ได้ เพราะหากจะเป็นสังคมประชาธิปไตยต้องมีเสรีภาพในการแสดงออก

"ขณะเดียวกันฝ่ายที่ไม่เห็นด้วยต้องการอดทนอดกลั่นในการฟังความคิดเห็นที่แตกต่างด้วย การที่จะมีเวทีแบบนี้ในพื้นที่อื่นอีกไหมก็แล้วแต่ผู้จัดจะเชิญผมไปบรรยายอีกรึเปล่า แต่จริงๆในมหาวิทยาลัยเป็นพื้นที่ที่ดีที่สุด เพราะมหาวิทยาลัยเป็นเรื่องของวิชาการ มหาวิทยาลัยเป็นเรื่องของคนหนุ่มสาว ถ้ามหาวิทยาลัยหันมาทำบรรยากาศแบบนี้บรรยากาศจะผ่อนคลายขึ้นเยอะเปิดโอกาสให้ทุกๆความคิดเห็นพูดคุยกันได้ เรื่องการที่จะประทะของกลุ่มผู้ที่เห็นต่างผมคิดว่าวันนี้เป็นตัวอย่างที่ดีกลุ่มที่เห็นต่างกันอย่างสุดขั้วที่สามารถพูดคุยกันได้และก็จากกันด้วยดีไม่มีปัญหาอะไร"

รศ.ดร.ปิยบุตร กล่าวต่ออรกว่า ถ้าทั้ง2ฝ่ายฟังแล้วคิด อาจจะนำมาสู่ทางออกที่ดีก็ได้เพียงแต่ว่าต้องเปิดพื้นที่ให้มากขึ้นกว่าเดิม การรณรงค์ที่จะแก้ไขปัญหา สว. ตั้งใจไว้ว่าหลังจากวุฒิสภาสกัดขัดขว้างการแก้รัฐธรรมนูญรอบนี้ถึงเวลาที่ต้องมาพูดคุยกันแล้วว่าประเทศไทยไม่มีความจำเป็นต้องมีวุฒิสภา โดยที่มีอยู่ในปัจจุบันก็ยังพอมีช่องทางให้ต่อสู้อยู่นั่นก็คือสิทธิของประชาชนในการเข้าชื่อร่างรัฐธรรมนูญในการแก้ไขเพิ่มเติมซึ่งก็คือร่างที่จะยกเลิกรัฐสภาให้กลับไปใช้สภาเดี่ยว

"ผ่านมา 4ปี พอดีคิดว่าน่าจะมีการเริ่มการเดินหน้ารณรงค์ต่อไปถ้าใช้เวลาหลายๆเดือนรณรงค์และเราสามารถรวมรายชื่อได้หลักล้านคนอาจจะส่งผลให้วุฒิสภาต้องคิดเหมือนกันผมก็พยายามคิดว่าอะไรที่จะกดดันที่จะทำให้สภาแก้รัฐธรรมนูญเพราะที่ผ่านมาไม่ยอมเลย เราต้องใช้สิทธิตามที่เรามีตามรัฐธรรมนูญคือการรณรงค์ต่อไป"

รับชมผ่านยูทูบได้ที่ : https://youtu.be/0M8VgS2VlFU